หนังใหญ่ ตื่นตา (วัดขนอนหนังใหญ่)
หนังใหญ่ ตื่นตา (วัดขนอนหนังใหญ่)
พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน
เกือบ 100 ปีที่แล้ว ท่านพระครูศรัทธาสุนทรหรือหลวงปู่กล่อม (พ.ศ. 2390 – 2485)
เจ้าอาวาสวัดขนอนโปราวาสในอดีต ผู้มีความชอบในงานช่างฝีมือและการแสดงหนังใหญ่ เห็นหนังวัวที่ชาวบ้านนำมาถวายเป็นจำนวนมาก จึงอยากทำหนังใหญ่ โดยร่วมมือจากครูอั๋ง อดีตโขนในคณะพระแสนทองฟ้า เจ้าเมืองราชบุรี มาช่วยในหารสร้างหนัง รวมทั้ง ช่างจ๊ะ ชาวมอญราชบุรี ชาวบ้านโป่ง เป็นกำลังสำคัญ เมื่อทำตัวหนังใหญ่เสร็จแล้วก็หาชาวบ้านรอบ ๆ วัดมาหัดเชิด
หนังใหญ่วัดขนอนตั้งเป็นคณะรับแสดงตามที่ต่าง ๆ ในละแวกใกล้เคียงเรื่อยมา โดยมีพระเป็นผู้อุปถัมภ์และชาวบ้านร่วมกันดูแลแต่เส้นทางของหนังใหญ่วัดขนอนหาได้โรยด้วยกลีบกุหลาบไม่ สงครามโลกครั้งที่ 2 และการมรณภาพของท่านพระครูศรัทธาสุนทร (หลวงปู่กล่อม) ในปี พ.ศ. 2485 ทำให้การเล่นหนังใหญ่ต้องหยุดไปโดยปริยาย ทางวัดจึงนำตัวหนังใหญ่มาเก็บไว้ที่ศาลาดิน ไม่ได้ใช้งานอีกเลย ไม่เพียงเท่านั้น การเข้ามาของสื่อสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ หรือหนังกลางแปลง ล้วนเป็นอุปสรรคที่ทำให้หนังใหญ่ไม่ได้รับความนิยมและไม่เคยนำออกมาเชิดได้อีก
จนวันหนึ่งมีชาวต่างชาติมาเห็นและเสนอเงินจำนวนนับแสนเพื่อขอซื้อ ทำให้ทางวัดและชาวบ้านเห็นความสำคัญ พ.ศ. 2512 – 2513 กรมศิลปากรเข้ามาในพื้นที่เพื่อสำรวจและขึ้นทะเบียนโบราณสถาน โบราณวัตถุต่าง ๆ ทราบข่าวว่าทางวัดขนอนเคยมีหนังใหญ่เป็นของตนเอง จึงร่วมกับชาวบ้านฟื้นการแสดงหนังใหญ่อีกครั้ง มีการรวมตัวกันของชาวบ้านที่เคยอยู่ร่วมสมัยกับหลวงปู่กล่อม ได้เคยเรียนรู้ทั้งการเชิดหนัง พากย์หนัง มาแล้วทั้งสิ้น การรวมตัวกันในครั้งนั้นถือเป็นการรวมตัวกันอย่างเฉพาะกิจ เล่นตามสถานที่ใกล้ ๆ เท่านั้น มีการจ้างวานแสดงหนังใหญ่ในงานใหญ่ ๆ เช่น งานวัด งานวันเกิด หรืองานศพข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
พ.ศ. 2519 ศาสตราจารย์ พันตรีหญิงผอบ โปษะกฤษณะ ได้เข้ามาทำการวิจัย เรื่อง วรรณกรรมประกอบการเล่นหนังใหญ่วัดขนอน จังหวัดราชบุรี และมีการเผยแพร่ทั้งทางวิทยุและโทรทัศน์ จึงทำให้หนังใหญ่วัดขนอนเริ่มเป็นที่รู้จัดในวงกว้าง การสแดงหนังใหญ่จึงไม่จำกัดอยู่แต่เฉพาะงานวันเกิด งานศพหรืองานวัดอีกต่อไป พระนุชิต วชิรวุฒโฑ หรือพระครูพิทักษ์ศิลปาคม เข้าอาวาสวัดขนอนในปัจจุบัน เมื่อครั้งเป็นลูกวัดได้เคยร่วมกันกับท่านเจ้าอาวาสในอดีตและชาวบ้าน
ในปี พ.ศ. 2532 หนังใหญ่วัดขนอนได้มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริให้มีการจัดทำหนังใหญ่วัดขนอนชุดใหม่เพื่อใช้แสดงแทนหนังใหญ่ชุดเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม โดยได้รับความร่วมมือจากจังหวัดราชบุรี มหาวิทยาลัยศิลปากร และองค์การฟอกหนัง ส่วนด้านการแสดงทางวัดได้ขอความร่วมมือจากเด็กในชุมชน และเด็กนักเรียนจากโรงเรียนวัดขนอนที่มีความสนใจ นำมาหัดเชิด โดยมีพระฉลาดถาวรนุกูลพงศ์ เป็นผู้ฝึกสอน
ในปี พ.ศ. 2533 และ พ.ศ. 2536 ได้รับเกียรติไปแสดงยังประเทศญี่ปุ่น และเยอรมนี นอกจากจะแสดงในหลายพื้นที่แล้ว ยังมีสื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ที่ได้ร่วมกันสนับสนุนและเผยแพร่ศิลปะการแสดงหนังใหญ่วัดขนอนอีกมากมาย ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ได้สร้างโรงแสดงหนังใหญ่ภายในเขตวัด เพราะสามารถจัดการปัญหาให้มีพื้นที่การแสดงประจำ ทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์หนังใหญ่ของทางวัดให้เป็นที่รู้จักอีกทางหนึ่ง โดยทางวัดจะทำการแสดงทุกวันเสาร์ในช่วงเช้า และจัดกิจกรรมในช่วงวันสงกรานต์ของทุกปี
โดยการแสดงที่จัดขึ้นในช่วงสงกรานต์ จะมีการแสดงหนังตะลุง โขน และศิลปะแขนงอื่น ๆ จากที่ต่าง ๆ สลับกันไป กิจกรรมดังกล่าวจึงถือเป็นการอนุรักษ์และประชาสัมพันธ์ศิลปวัฒนธรรมของหนังใหญ่วัดขนอน ถือเป็นตัวแทนศิลปะไทยที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามัคคีของทุกฝ่าย จนทำให้ได้รับรางวัล Asia/Pacific Cultural Centre for UNESCO (ACCU) พระครูพิทักษ์ศิลปาคมกล่าวว่า “ทางคณะกรรมการให้รางวัลดังกล่าวแก่หนังใหญ่วัดขนอน เพราะหนังใหญ่วัดขนอนเป็นศิลปะไทยที่ยังไม่สูญหาย หลายฝ่ายยังให้การสนับสนุนเพื่อนุรักษ์ ทั้งสถาบันกษัติรย์ วัด โรงเรียน ชุมชน จังหวัด หน่วยงานของราชการและเอกชนรวมถึงสื่อและประชาชนด้วย”
วัดขนอนหนังใหญ่
1 ตำบล สร้อยฟ้า อำเภอโพธาราม ราชบุรี 70120
โทรศัพท์: 089 555 4195