หว้ากอครั้งหนึ่งเคยเป็นเพียงป่ารกเลียบชายฝั่งที่ชุกชุมไปด้วยไข้มาลาเรีย แต่ประวัติศาสตร์ได้พลิกผันเมื่อในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) เสด็จพระราชดำเนินมาสังเกตการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงตามที่ทรงคำนวณไว้ล่วงหน้า พระองค์ได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็น “ห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์กลางแจ้ง” เชิญชวนนักวิทยาศาสตร์และคณะทูตจากต่างประเทศเข้าร่วมสังเกตการณ์ ทำให้แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพขององค์พระองค์อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม หลังจากเสด็จกลับพระนครเพียง 5 วัน พระองค์ประสบกับไข้มาลาเรียและเสียชีวิตในวันที่ 1 ตุลาคม ปีเดียวกัน พื้นที่หว้ากอจึงถูกลืมเลือนไปจนกระทั่งมีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีที่แสดงถึงการสังเกตการณ์ของนักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศสในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์
ต่อมา ทางกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนพื้นที่เป็นโบราณสถานแห่งชาติในปี พ.ศ. 2523 และในรัชกาลที่ 9 ได้มีการจัดตั้ง “อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์” ขึ้นเพื่ออนุรักษ์ความทรงจำและส่งเสริมการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ ภายในอุทยานมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หอดูดาว นิทรรศการทางดาราศาสตร์และอวกาศ รวมถึงชายหาดยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร ที่แม้จะไม่เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำแต่สามารถนั่งพักผ่อนได้ พร้อมทั้งมีกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งปี อาทิ การแสดงโชว์นางเงือก ดูดาว และกิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ เพื่อรำลึกถึงพระราชกรณียกิจและพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และกำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคมเป็น “วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ”
แผนที่