5.1.การวิเคราะห์การตลาด
เห็ดนางฟ้า นั้นผลิตภัณฑ์ที่นิยมทำกันมีอยู่ 3 รูปแบบ คือ
1. จำหน่ายเป็นเห็ดสด
เห็ดนางฟ้าสดเป็นที่นิยมกันมากภายในประเทศแต่มักจะประสบปัญหาการขนส่งที่ต้องรักษาให้เห็ดยังสดอยู่เมื่อนำออกมาจาหน่ายและปัญหาดอกเห็ดในระยะที่อากาศร้อนอบอ้าวทำให้ราคาจาหน่ายที่ได้รับลดลงการเก็บเห็ดเพื่อจาหน่ายสดนี้เกษตรกรจะต้องเก็บเห็ดในตอนกลางคืนหรือเช้ามืด และส่งมาทันตลาดเมืองตอนเช้าให้ทันจำหน่าย ส่วนพ่อค้าเห็ดสดนิยมรักษาไว้ในห้องเย็นอุณหภูมิ 10-15 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถทำให้เห็ดชะงักการเจริญเติบโตได้ภายใน 6-8 ชั่วโมง หรือใช้วิธีง่ายๆคือการใส่ภาชนะปากกว้าง เช่น ถาดบรรจุไม่ให้
2. จำหน่ายเป็นเห็ดแห้ง
เห็ดนางฟ้าแห้งเป็นผลิตผลจากการแปรรูปเห็ดสดโดยอบในตู้อบหรือตากแดด ในประเทศไทย ไม่นิยมแพร่หลายนัก เพราะเห็ดสดมีให้ซื้อได้ทุกวันอยู่แล้วแต่สาหรับตลาดต่างประเทศให้ความสนใจเห็ดฟางแห้งมากเพราะเห็ดฟางแห้งมีกลิ่นดีกว่านอกจากนี้เมื่อนาเห็ดนางฟ้าแห้งไปปรุงอาหารแล้วจะมีความหนืดและกรอบคล้ายเห็ดโคน เห็ดนางฟ้าที่นำมาทำควรเป็นดอกที่เพิ่งบานใหม่ ๆ จะทาให้สีและรสชาติดีกว่าดอกตูมหรือดอกแก่จนครีบใต้ดอกเปลี่ยนเป็นสีน้าตาลแล้ว โดยปกติเห็ดสด 10-13 กิโลกรัมเพื่อทำให้แห้งจะได้เห็ด 1 กิโลกรัม ในโรงงานอุตสาหกรรมนิยมนำเห็ดสดไปอบอุณหภูมิประมาณ 40-50 องศาเซลเซียสจนกระทั่งดอกเห็ดแห้งสนิทดีทำดอกเห็ดเบา และกรอบเวลาในการอบแห้งประมาณ 18-24 ชั่วโมง
3. จำหน่ายเป็นเห็ดกระป๋อง
เห็ดที่ส่งเข้าโรงงานจะมีขนาดรูปร่างและสีสันตามมาตรฐานสากลที่ใช้เป็นบรรทัดฐานในการรับซื้อดอกเห็ด และการตีราคาของโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งจะกำหนดชนิดลักษณะสีสันคุณภาพขนาดและตำหนิไว้อย่างละเอียด นอกจากนี้ยังมีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นจากเห็ดนางฟ้าโดยนามาทำเห็ดสวรรค์ เห็ดน้ำพริกเผาและข้าวเกรียบเห็ด เป็นต้น ตลาดต่างประเทศสาหรับเห็ดนางฟ้ากระป๋องนั้นแต่เดิมการส่งออกในปัจจุบันตลาดขยายไปอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในตลาดยุโรปและเอเซียโดยประเทศที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าประจาต่อไปได้แก่บาห์เรน ออสเตรเลีย แคนาดาสวิสเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้คาดว่าจะขยายตลาดไปในบางประเทศที่การนาเข้ายังไม่สม่ำเสมอ เช่น ฝรั่งเศสคูเวต ญี่ปุ่น ฮ่องกง เดนมาร์กและมาเลเซีย ปัญหาที่สำคัญคือวัตถุดิบมีไม่เพียงพอและคุณภาพไม่ได้มาตรฐานตามที่ต้องการกล่าวคือ เห็ดฟางกระป๋องที่ตลาดต้องการนั้นเป็นเห็ดที่หมวกสีดาขนาดเล็กซึ่งเป็นสายพันธุ์ของไต้หวันที่ใช้เพาะในลักษณะเห็ดอุตสาหกรรม เนื่องจากไต้หวันเป็นผู้บุกเบิกเห็ดฟางกระป๋องดังนั้นตลาดจึงเคยชินกับเห็ดฟางกระป๋องในลักษณะนี้
ช่องทางการจัดจำหน่าย
ช่องทางการจัดจำหน่าย หมายถึง กลไกที่เกี่ยวข้องกับการทาให้สินค้าเคลื่อนย้ายจากผู้ผลิต ไปถึงมือของผู้บริโภค หลักเกณฑ์ของ ช่องทางการจัดจำหน่ายต้องพิจารณา มีดังนี้ปัจจัยในการสนับสนุนการจำหน่ายเห็ดนางฟ้า ได้แก่
- แหล่งวัตถุดิบ
- ตลาดแหล่งจาหน่าย
- การคมนาคมขนส่ง
- ที่ตั้งโรงงาน
ช่องทางการจำหน่าย สามารถแบ่งออกเป็น 3 ช่องหลัก ๆ คือ
1. ตลาดทั่วไป
1.1 ตลาดที่มีขนาดใหญ่ เช่น ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง
ข้อดี ปริมาณการสั่งซื้อมาก เหมาะสำหรับฟาร์มเห็ดขนาดใหญ่
ข้อเสีย ราคาต่ำ หากฟาร์มตั้งอยู่ห่างจากตลาดเป็นระยะทางไกล ต้องเพิ่มความ
ระมัดระวังในเรื่องการขนส่ง และคุณภาพของสินค้า
1.2 ตลาดท้องถิ่น เช่น ตลาดสดใกล้บ้าน ร้านอาหาร
ข้อดี ระยะทางใกล้ ราคาไม่ต่ำจนเกินไปสามารถกำหนดราคาเองได้ คุณภาพของ
เห็ดจะสด และอร่อยกว่า
ข้อเสีย ปริมาณการซื้อจะน้อย กว่าตลาดการค้าส่งขนาดใหญ่
1.3 พ่อค้าคนกลาง
ข้อดี ไม่ต้องทาการตลาดเอง ไม่วุ่นวาย
ข้อเสีย ราคาลดลงเล็กน้อยกว่าการขายเอง และต้องพึ่งแต่พ่อค้าคนกลาง ถือเป็นจุดเสีย
1.4 ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่
ข้อดี เป็นฐานในการสร้างแบรนด์ที่ดี เปรียบเสมือนได้รับการยอมรับในเรื่อง
ข้อเสีย การผลิตด้านการกำหนดขนาดดอกเห็ดไม่เป็นไปตามที่ต้องการ และปริมาณการ
สั่งซื้อไม่มาก
2. ตลาดสถาบัน
ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ร้านอาหารที่มีชื่อเสียง โรพยาบาล บริษัทแปรรูปอาหาร
หน่วยงานราชการ
ข้อดี การแข่งขันไม่สูงมากนัก ราคาค่อนข้างดี
ข้อเสีย ปริมาณการสั่งซื้อแต่ละครั้งปานกลาง
3. ตลาดค้ำปลีก / แสดงสินค้ำ
ข้อดี ผู้บริโภคติดใจเพราะได้บริโภคเห็ดที่สด และกรอบ
ข้อเสีย ปริมาณการสั่งซื้อไม่สูงมา