ท่ามกลางหุบเขาเขียวขจีของเทือกเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งซ่อนตัวอยู่อย่างสงบ นั่นคือ หมู่บ้านคีรีวง หมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่า "อากาศดีที่สุดในประเทศไทย" และเป็นตัวอย่างชุมชนที่ผสานวิถีชีวิตดั้งเดิมกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างงดงาม
จากอดีตสู่ปัจจุบัน – เรื่องราวของหมู่บ้านคีรีวง
หมู่บ้านคีรีวง ตั้งอยู่ที่ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา เป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี ชาวบ้านในอดีตอพยพจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชเพื่อหลีกเลี่ยงโรคระบาด และมาตั้งรกรากในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์กว่า โดยคำว่า "คีรีวง" มาจากคำว่า "คีรี" แปลว่า ภูเขา และ "วง" แปลว่า ล้อมรอบ จึงหมายถึงหมู่บ้านที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาอย่างแท้จริง
ในระยะแรก ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกผลไม้และพืชสมุนไพรหลากหลายชนิด จนกระทั่งเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2531 น้ำท่วมและดินถล่มทำลายบ้านเรือนและสวนเกษตรอย่างหนัก แต่แทนที่จะยอมแพ้ ชุมชนแห่งนี้กลับลุกขึ้นสู้ ร่วมมือกันฟื้นฟูบ้านเกิด และพลิกฟื้นหมู่บ้านจนกลายเป็นชุมชนต้นแบบที่เข้มแข็งอย่างทุกวันนี้
ธรรมชาติและภูมิอากาศที่เปรียบเสมือนสวรรค์
หมู่บ้านคีรีวงตั้งอยู่ในแอ่งหุบเขา ล้อมรอบด้วยป่าไม้เขียวชอุ่มและลำธารใสสะอาดจากแม่น้ำกำโลน อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเช้าที่มักปกคลุมด้วยหมอกขาวราวกับฉากในนิทาน นอกจากความงดงามแล้ว พื้นที่นี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ซึ่งเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
วิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยคุณค่า
แม้โลกจะเปลี่ยนไปเพียงใด แต่ชาวคีรีวงยังคงยึดวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ผูกพันกับธรรมชาติและวัฒนธรรมดั้งเดิม บ้านเรือนไม้แบบไทยและสวนผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ยังคงเป็นภาพที่เห็นได้ทั่วไป รวมถึงการปลูกพืชสมุนไพร และกาแฟสายพันธุ์พื้นเมือง
ในด้านวัฒนธรรม ชาวบ้านยังสืบสานประเพณีสำคัญ เช่น การทำบุญเดือนสิบ แห่ผ้าขึ้นธาตุ และการแสดงพื้นบ้านอย่างมโนราห์และหนังตะลุง
ผ้ามัดย้อมคีรีวง – หัตถกรรมจากธรรมชาติ
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้คีรีวงเป็นที่รู้จักคือ ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ ซึ่งใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติในท้องถิ่น เช่น สีน้ำตาลจากเปลือกโกงกาง สีเขียวจากใบหูกวาง สีม่วงจากเปลือกมังคุด สีเหลืองจากแก่นขนุน สีแดงจากครั่ง
ผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมของที่นี่ไม่เพียงแต่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ แต่ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนั้นยังมีหัตถกรรมอื่น ๆ เช่น ลูกประคบสมุนไพรจักสานจากไม้ไผ่ และงานเครื่องถมโบราณการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ – สัมผัสคีรีวงให้ถึงหัวใจการท่องเที่ยวที่คีรีวงเน้นให้ “สัมผัสและเข้าใจ” มากกว่าการ “เยี่ยมชม” นักท่องเที่ยวสามารถ
เดินเล่นชมหมู่บ้าน สูดอากาศบริสุทธิ์
เรียนรู้การย้อมผ้าธรรมชาติ ทดลองมัดย้อมด้วยตนเอง
เดินป่าเส้นทางธรรมชาติ สู่น้ำตกกรุงชิง น้ำตกกะโรม ฯลฯ
พักโฮมสเตย์ เรียนรู้วิถีชีวิตจากเจ้าของบ้านโดยตรง
ล่องแพในแม่น้ำกำโลน พร้อมชมวิวสองฝั่งที่งดงาม
แบบอย่างของชุมชนยั่งยืน
หมู่บ้านคีรีวงยึดหลัก เศรษฐกิจพอเพียง โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ในทุกด้าน ทั้งการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า การตั้งกลุ่มอาชีพ และการพึ่งพาตนเอง ทั้งในด้านอาหาร รายได้ และพลังงาน และชุมชนมีการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างเป็นระบบ เช่น
การจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์ป่า การปลูกป่าประจำปี การลดขยะและใช้วัสดุเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ศูนย์การเรียนรู้จากธรรมชาติและภูมิปัญญา
หมู่บ้านคีรีวงยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และหัตถกรรม นักเรียน นักวิจัย และผู้สนใจสามารถเรียนรู้ตั้งแต่ระบบนิเวศป่าดิบชื้น การใช้พืชสมุนไพรในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงกระบวนการผลิตผ้ามัดย้อมครบวงจร
เกียรติยศและความภาคภูมิใจของคนคีรีวง
จากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เคยผ่านภัยพิบัติ วันนี้คีรีวงกลายเป็นต้นแบบของ “ชุมชนเข้มแข็ง” และ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ได้รับรางวัลมากมาย ทั้งด้านการท่องเที่ยว การอนุรักษ์ และผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น OTOP 5 ดาว และรางวัลอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมระดับประเทศ
หมู่บ้านคีรีวงไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยว แต่คือแบบอย่างของการใช้ชีวิตที่สมดุล เรียบง่าย และกลมกลืนกับธรรมชาติ พร้อมเปิดบ้านต้อนรับทุกคนด้วยรอยยิ้มที่จริงใจเสมอ
“ชุมชนบ้านคีรีวง” สืบค้นจาก https://lansakadistrict.go.th/
“เที่ยวคีรีวง ยลเสน่ห์ความเรียบง่ายและวิถีชาวบ้านกลางขุนเขา” สืบค้นจากhttps://travel.kapook.com/view190262.html