หากเอ่ยถึงย่านการค้าเก่าแก่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายอดีตแห่งภาคใต้ตอนกลาง “ตลาดย้อนยุคปากพนัง 100 ปี” คือหนึ่งในสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ของบ้านเรือนเก่า อาคารพาณิชย์โบราณ และบรรยากาศแห่งความรุ่งเรืองในอดีตที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นจนถึงปัจจุบัน
เมืองปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าสำคัญที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำปากพนังที่ไหลลงสู่อ่าวไทย ทำให้เรือสินค้าสามารถเข้าเทียบท่าได้สะดวก และกลายเป็นศูนย์กลางการค้าขายมาตั้งแต่ยุคปลายรัชกาลที่ 5
ช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2450–2480 หรือยุคทองของปากพนัง เมืองแห่งนี้รุ่งเรืองจากการค้าข้าวและสินค้าเกษตรกรรม มีพ่อค้าหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งไทย จีน อินเดีย และชาวตะวันตกเข้ามาตั้งถิ่นฐาน สถาปัตยกรรมในย่านนี้จึงสะท้อนการผสมผสานระหว่างความเป็นจีน ยุโรป และวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างงดงาม
สถาปัตยกรรมโบราณ คือสิ่งแรกที่สะกดสายตาผู้มาเยือน บ้านไม้ อาคารพาณิชย์ และโกดังเก่า
ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี กลายเป็นฉากหลังของถนนสายเล็กที่ยังคงคึกคักไปด้วยผู้คนและร้านค้าท้องถิ่น
ของกินพื้นเมือง คืออีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ตลาดแห่งนี้มีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็น
ปลากระบอก กุ้ง ปูทะเล สดใหม่จากปากน้ำ
ข้าวมันแกงไก่ เมนูพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อ
หมี่สั่วและอาหารจีนโบราณ ที่สืบทอดกันมาหลายรุ่น
ขนมโบราณ อย่างขนมลา ข้าวหนมกุ๊บ ขนมเบื้องญวน ที่หากินยาก
ชาจีนและกาแฟโบราณ ชงกันสด ๆ ด้วยวิธีดั้งเดิม
มากกว่าตลาด คือความภูมิใจของชุมชน
การฟื้นฟูตลาดย้อนยุคแห่งนี้ ไม่เพียงสร้างสีสันให้กับเมือง แต่ยังสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคม
กระตุ้นรายได้ของคนในท้องถิ่น
รักษาอาชีพดั้งเดิมและภูมิปัญญาชาวบ้าน
เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับคนรุ่นใหม่
และที่สำคัญที่สุด คือการปลุก “ความภูมิใจในบ้านเกิด” ของชาวปากพนังให้กลับมาอีกครั้ง
ตลาดย้อนยุคปากพนังตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองปากพนัง ห่างจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพียง 30 กิโลเมตร การเดินทางสามารถใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือรถโดยสารประจำทางได้อย่างสะดวก ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศคึกคักของตลาด แนะนำให้มาในช่วง วันหยุดสุดสัปดาห์ หรือในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลตรุษจีน และ งานประจำปีเมืองปากพนัง ที่จะมีกิจกรรมพิเศษมากมายทั้งการแสดงพื้นบ้าน ขบวนแห่ และการแต่งกายย้อนยุค
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สืบค้นจาก https://www.tourismthailand.org
“เที่ยวคีรีวง ยลเสน่ห์ความเรียบง่ายและวิถีชาวบ้านกลางขุนเขา” สืบค้นจากhttps://travel.kapook.com/
ขอบคุณภาพจาก https://web.facebook.com/NakhonSiThammaratToday