วัดเชตวัน หรือวัดหนองหมู
วัดเชตวันหรือวัดหนองหมู ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน เป็นวัดสำคัญอีกวัดหนึ่งที่ควรแก่การกล่าวถึง เพราะวัดดังกล่าวเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธบาทที่มีมณฑปเก่าแก่สวยงามยิ่งมีความแปลกในด้านการออกแบบ
พื้นที่ของมณฑปนั้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสสร้างอยู่กลางสระ ตัวมณฑปมีสามชั้น โดยชั้นล่างมีฐานสูงเพียงปั้นเอว ก่อเป็นกำแพงแก้วโดยรอบ มีลักษณะเป็นระเบียง สันนิษฐานว่าคงมีการขุดเจาะเอาดินรอบนั้นมาถม เพื่อป้องกันการทุรดตัวของมณฑปที่ใหญ่และสูงมาก
ดเชตวันหนองหมู
วัดเชตวันหนองหมู ได้ทำการก่อสร้างมานานประมาณ 100 ปี ตามที่ชาวบ้านเขาเรียกกันว่า บ้านหนองหมู เพราะสมัยก่อนบริเวณที่ยังไม่ได้สร้างวัดนั้นเป็นป่าทึบไปหมด และตรงที่ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ผ่านปัจจุบันนี้ เป็นหนองใหญ่
ในปี พ.ศ.2440 ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ ตามปกติมักจะมีสุกร(หมูป่า) มาแสวงหาอาหารบริเวณดังกล่าวเป็นประจำ ชาวบ้านเขาจึงเรียกหมู่บ้านแห่งนี้ว่า หนองหมู ต่อมาก็มีชาวบ้าน เข้าไปจับจองเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณดังกล่าวเพื่อทำไร่ ทำสวน บ้างก็ย้ายครอบครัวไปตั้งบริเวณใกล้ๆ กับหนองหมู เขาเรียกหมู่บ้านแห่งนั้นว่า บ้านไร่ ซึ่งติดอยู่กับบริเวณวัดปัจจุบันด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งแรกหมู่บ้านแห่งนี้มีประมาณ 30-40 ครอบครัว จะไปทำบุญตักบาตรที่วัดที่เคยไปก็เป็นการลำบากมาก ดังนั้นชาวบ้านได้พร้อมใจกันแผ้วถางป่าบริเวณวัดร้าง(ที่วัดปัจจุบัน) เพื่อทำการสร้างวัด โดยมีท่านภิกษุคำแสน สิริธรรม อายุ 28 พรรษา อยู่ที่วัดป่าเส้า เป็นผู้ที่ให้คำแนะนำแก่ชาวบ้านเกี่ยวกับการก่อสร้างวัดแห่งนี้ ต่อมาชาวบ้านได้เก็บก้อนอิฐภายในบริเวณวัดร้างดังกล่าวมีอักษรไทยล้านนาว่า วัดเชตวัน ท่านพระภิกษุคำแสน ก็เลยตั้งชื่อวัดเชตวันมาตราบเท่าทุกวันนี้ จากนั้นพระภิกษุคำแสน ก็นำชาวบ้านพัฒนาก่อสร้าง กุฎิ วิหาร อุโบสถ และคำลา
อีกอย่างหนึ่ง พระภิกษุคำแสนก็เปิดสำนักรับสอนกัมมัฎฐานทั้งสมถภัมมัฏฐาน และวิปัสสนา กัมมัฏฐานได้มีนักปฏิบัติทั่วสารทิศไปน้อมถวายตัวเป็นศิษย์ นับเป็นจำนวนไม่น้อยเลย โดยอาศัยที่ว่าท่านเป็นนักปฏิบัติและพัฒนาจึงเป็นที่นับถือยำเกรงของคนระแวกนั้น เท่านั้นยังไม่พอ ท่านก็อุทิศใจ - กาย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยเปิดสอนอักษรพื้นเมือง(ไทยล้านนา) ขึ้นเพื่อสอนแก่ผู้ที่ใคร่ในการศึกษาทั่วไป จากนั้นท่านก็สร้างเขาวงกฎขึ้นอีกแห่งหนึ่ง มีเนื้อที่ประมาณ 13 ไร่ ปัจจุบันนี้เป็นสถานที่ตั้งโรงเรียนมัธยมต้นสายสามัญ (โรงเรียนอุโมงค์วิทยาคม) และท่านก็สร้างรอยพระพุทธบาทขึ้นอีกโดยทำเป็นลักษณะคล้ายๆมณฑป มีพระพุทธไสยาสน์ยาว 5 เมตร มีรูปจิตรกรรมต่างๆ อย่างวิจิตรพิสดาร วาระสุดท้ายของการก่อสร้างของท่านก็คือ พระพุทธไสยาสน์ในคูหายาว 6 เมตร ตั้งอยู่ในบริเวณวัด ต่อจากนั้นไม่นานท่านก็มรณภาพลง ต่อจากนั้นตำแหน่งผู้นำคือเจ้าอาวาสก็คลอนแคลนไม่แน่นอน มีพระภิกษุรักษาการแทนเจ้าอาวาสหลายรูป เช่น พระภิกษุคำด้วง พระภิกษุบุญมา พระภิกษุคำอ้าย
มณฑปพระพุทธบาท และพระธาตุสองพี่น้องกศน.ตำบลอุโมงค์ ๒๓๔ หมู่ ๕ ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ๕๑๑๕๐ โทร ๐๘๖ - ๑๘๕๒๙๓๒ , ๐๘๘ - ๒๕๒๗๙๐๙