บรรยากาศในวันแรกเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เสียงหัวเราะ และความตั้งใจ ครูภูมิปัญญาท้องถิ่นได้ถ่ายทอดเรื่องราวของโคมล้านนา ตั้งแต่ความหมายเชิงวัฒนธรรม ความเชื่อที่ผูกพันกับศรัทธาทางพุทธศาสนา ไปจนถึงการใช้วัสดุพื้นบ้าน เช่น ไม้ไผ่ กระดาษสา และด้ายฝ้ายที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น ก่อนจะพาทุกคนลงมือเรียนรู้วิธีการจักตอกไม้ไผ่ ขึ้นโครง และตกแต่งลวดลายที่วิจิตรตามแบบล้านนาแท้ ๆ

ตลอด 15 ชั่วโมงของกิจกรรม ทุกช่วงเวลาถูกเติมเต็มด้วยความร่วมมือร่วมใจ บางคนถนัดด้านการตัดกระดาษ บางคนมีฝีมือในการประกอบโครงไม้ไผ่ ขณะที่เด็ก ๆ ก็ตั้งใจวาดลวดลายและระบายสีโคมอย่างอิสระ ทำให้เวิร์กช็อปเต็มไปด้วยสีสันและเสียงพูดคุยอย่างเป็นกันเอง

เมื่อโคมแต่ละดวงเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ทุกคนก็ได้เห็นถึงคุณค่าที่มากกว่าการสร้างงานศิลปะ นั่นคือการสร้างความสามัคคีและความภูมิใจในรากเหง้าของตนเอง หลายคนเล่าว่าไม่เพียงแต่ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ แต่ยังมองเห็นหนทางในการนำความรู้นี้ไปต่อยอดเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ในครัวเรือน

และเมื่อแสงจากโคมที่ทำเสร็จแล้วถูกจุดขึ้นในค่ำคืนสุดท้าย ภาพที่เห็นคือความงดงามอันเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความหมาย โคมแต่ละดวงเปล่งประกายเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของ “การเรียนรู้ที่งดงาม” ซึ่งไม่ได้หยุดอยู่เพียง 15 ชั่วโมง แต่จะสืบต่อไปในใจของชุมชนป่าเส้า

กิจกรรมครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการสอนทำโคมล้านนา หากแต่เป็นการจุดประกายให้ชุมชนได้เห็นคุณค่าในภูมิปัญญาท้องถิ่น และใช้แสงโคมแห่งการเรียนรู้เป็นแสงนำทางไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตในอนาคต