โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมฝึกอาชีพให้ประชาชนระดับฐานรากที่อาศัยในระดับตำบล ประกอบด้วยกลุ่มเป้าหมาย ผู้ด้อย พลาด ขาดโอกาสให้ได้รับการพัฒนาสมรรถนะและทักษะในการประกอบอาชีพเพื่อรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยใช้หลักสูตรการพัฒนาทักษะอาชีพระยะสั้น เพื่อให้ผู้ผ่านการฝึกอาชีพได้รับความรู้สามารถนำไปประกอบอาชีพ สร้างอาชีพ พัฒนาอาชีพ เพิ่มรายได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ต่อยอด ภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่ม และพัฒนาสู่วิสาหกิจชุมชน มีการจัดการศึกษา ที่ยึดพื้นที่เป็นฐานรากในการพัฒนา (Area – based Development) ใช้หลักสูตรอาชีพเป็นฐาน (Career – Based Education) ในหลักสูตร 5 กลุ่มอาชีพ ได้แก่ หลักสูตรกลุ่มอาชีพเกษตรกรรมหลักสูตรกลุ่มอาชีพอุตสาหกรรม หลักสูตรกลุ่มอาชีพด้านพาณิชยกรรม หลักสูตรกลุ่มอาชีพด้านความคิดสร้างสรรค์ และหลักสูตรอาชีพเฉพาะทาง และเป็นเครื่องมือในการช่วยผู้เรียนให้มีความพร้อมในการเข้าสู่อาชีพจบแล้วมีงานทำ(Learn Earn) และอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข
จากการสำรวจและการประชาคมพบว่าประชาชนในพื้นที่ตำบลนาทรายส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เป็นอาชีพหลัก ได้แก่ การปลูกข้าว กระเทียม ข้าวโพด การปลูกมะม่วง ลำไย การปลูกผักสวนครัว เป็นต้น ปัจจุบันสินค้าทางการเกษตรมีราคาตกต่ำ อีกทั้งกลุ่มประชาชนในชุมชนบ้านแพะเจริญ มีกลุ่มผู้สูงอายุ และ ผู้ว่างงานที่ต้องการมีอาชีพเพื่อสร้างรายได้และต้องการต่อยอดเพื่อพัฒนาและการจักสานตะกร้าจากไม้ไผ จึงมีความต้องการการเรียนรู้กาการสานตะกร้าจากไม้ไผ่ พื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า และใช้วัสดุที่มีในชุมชน สร้างรายได้ ชุมชนเข้มแข็ง พึ่งตนเอง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ดังนั้นศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบลนาทราย จึงได้จัดทำโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนการจัดการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเองอาชีพระยะสั้น หลักสูตรการจักสานตะกร้าจากไม้ไผ่ ของกลุ่มประชาชนภายในตำบล จึงได้ส่งเสริมอาชีพการจักสานตะกร้าจากไม้ไผ่ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มอาชีพในยุคปัจจุบันและส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่กลุ่มอาชีพได้ใช้ศักยภาพ และทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าในการสร้างรายได้ เพื่อก่อให้เกิดรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวต่อไป
ไม้ไผ่ที่มีอายุพอเหมาะ (1.5 – 2 ปี) ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป
มีดหรือเหล็กตอกไม้ไผ่
กรรไกร/มีดคม
เชือก หรือลวดรัด
สี (หากต้องการตกแต่ง)
เลื่อยไม้ไผ่ให้ได้ขนาดความยาวตามที่ต้องการ
ผ่าไม้ไผ่ออกเป็นซีก ๆ
เหลาให้บางเป็นตอกไม้ไผ่ (แผ่นบาง ๆ) ให้ได้ขนาดเท่า ๆ กัน
นำตอกไปแช่ในสีที่เตรียมไว้ (มักใช้สีผสมกับน้ำร้อน)
ตากให้แห้งในที่ร่มก่อนนำมาใช้งาน
นำตอกไม้ไผ่มาสานเป็นฐาน (มักเป็นลายขัดพื้นฐาน)
สานฐานให้ได้ขนาดกว้างตามต้องการ เช่น ทรงกลม หรือทรงเหลี่ยม
พอได้ฐานแล้ว เริ่มพับตอกขึ้นด้านข้าง
ใช้ตอกอีกชุดสานขึ้นข้างโดยใช้ลวดลายต่าง ๆ เช่น ลายขัด, ลายเฉียง, ลายก้านไผ่ ฯลฯ
สานขึ้นจนได้ความสูงของตะกร้าตามที่ต้องการ
ใช้ตอกไม้ไผ่พันหรือขัดเป็นขอบด้านบนให้แน่นหนา
ตัดส่วนเกินออกให้เรียบร้อย
อาจเสริมโครงด้วยลวด หรือเชือกเพื่อความแข็งแรง
ตกแต่งด้วยลวดลาย หรือลงน้ำมันไม้ให้เงางามและป้องกันปลวก
ไม้ไผ่ควรแช่น้ำก่อนใช้เพื่อให้ยืดหยุ่น ง่ายต่อการดัดโค้ง
ตอกควรมีขนาดสม่ำเสมอ จะทำให้ลวดลายออกมาสวยงาม
เป็นอาชีพหลักหรือเสริมของคนในชุมชน โดยเฉพาะในชนบท
ลงทุนน้อย ใช้วัสดุจากธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่น
สามารถขายเป็นผลิตภัณฑ์พื้นบ้านหรือพัฒนาเป็นสินค้าส่งออก
เป็นการสืบสานภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน
ส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของงานหัตถกรรมไทย
ใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ในโรงเรียนหรือกิจกรรมวัฒนธรรม
วัสดุจากธรรมชาติ ย่อยสลายได้ ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ทดแทนการใช้พลาสติกหรือภาชนะที่ไม่เป็นมิตรกับโลก
ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน เช่น การปลูกไม้ไผ่ทดแทน
ตะกร้าจากไม้ไผ่ใช้ใส่ของ จัดเก็บสิ่งของ ใช้ในตลาด หรือในครัวเรือน
ใช้ในงานพิธีหรือประเพณีท้องถิ่น เช่น งานบุญ หรืองานเทศกาล
พัฒนาเป็นของตกแต่งบ้าน เช่น กระเช้าของขวัญ ตะกร้าดอกไม้ ฯลฯ
กระตุ้นให้เกิดกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือกลุ่มแม่บ้าน
ช่วยสร้างความสามัคคีในการทำงานร่วมกันและการแบ่งปันรายได้
เพิ่มความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น
ประเภทการใช้งาน
รายละเอียด
✅ ของใช้ในบ้าน ใส่ผัก ผลไม้ ข้าวสาร ของใช้ทั่วไป
🎁 ของขวัญ/ของฝาก ประยุกต์เป็นกระเช้าของขวัญ ตะกร้าดอกไม้
🌱 งานเกษตร ใช้เก็บผลผลิต เช่น ผัก ผลไม้
🛍️ ใช้แทนถุงพลาสติก ช่วยลดขยะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
💒 งานประเพณี/พิธีกรรม ใช้ในงานบุญ เช่น ใส่ของถวายพระ หรือข้าวสารอาหารแห้ง
ที่มาของข้อมูล เฟสบุ๊ค ศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบลนาทราย
เรียบเรียงเนื้อหา โดย นางสาวอัจฉราพรรณ ใจกลางดุก ครูศูนย์การเรียนรู้
ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย นางสาวอัจฉราพรรณ ใจกลางดุก ครูศูนย์การเรียนรู้