ริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรีที่ทอดยาวผ่านใจกลางเมือง ยังมีสถานที่หนึ่งที่เก็บรักษาไว้ซึ่งวิถีชีวิตดั้งเดิมและเรื่องราวของผู้คนที่เคยมีชีวิตอยู่มากว่าร้อยปี
นั่นคือ “ชุมชนริมน้ำจันทบูร” ชุมชนเก่าแก่ที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของอดีตที่ยังหายใจได้ ด้วยสถาปัตยกรรมเก่า ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับแม่น้ำ
และวิถีชุมชนที่ผสานกันอย่างลงตัว
หากพูดถึงจังหวัดจันทบุรี หลายคนคงนึกถึงทะเลสีครามและผลไม้เมืองร้อนนานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน เงาะ มังคุด และอีกมากมาย แต่หากจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ต้องยกให้กับ ชุมชนริมน้ำจันทบูร ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำ ที่ชาวจีนและชาวญวนได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่อมาได้พัฒนาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการค้าขายของจังหวัดจันทบุรี
ชุมชนริมน้ำจันทบูรเป็นการรวมตัวกันของ 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนท่าหลวง ชุมชนตลาดกลาง และชุมชนตลาดล่าง ย่านนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะชุมชนท่าหลวง ซึ่งเป็นพื้นที่รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อครั้งเสด็จประพาสเมืองจันทบุรีในปี พ.ศ. 2419
ชุมชนริมน้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ในตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เป็นชุมชนเก่าที่มีอายุกว่า 300 ปี โดยในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายและที่อยู่อาศัยของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย ชาวจีน ชาวญวน หรือแม้แต่ชาวฝรั่งเศสที่เคยเข้ามาปกครองเมืองในช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์
ด้วยเหตุนี้ ชุมชนจึงมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างสูง และสะท้อนออกมาอย่างชัดเจนผ่านสถาปัตยกรรมของบ้านเรือน ซึ่งส่วนใหญ่สร้างจากไม้สักเก่า บางหลังมีการผสมผสานกับศิลปะตะวันตกอย่างวิจิตร งดงาม และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยากจะหาใครเลียนแบบได้
นอกจากสถาปัตยกรรมเก่าแก่และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมแล้ว ชุมชนริมน้ำจันทบูร ยังมีร้านค้าท้องถิ่นที่จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง อาทิ ขนมไทย ผลไม้แปรรูป งานหัตถกรรม และของที่ระลึกที่บอกเล่าเรื่องราวของชาวจันทบุรี นักท่องเที่ยวสามารถเดินชม เดินชิม และสนทนากับชาวบ้าน ซึ่งยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนด้วยไมตรีจิต
การมาเยือนชุมชนริมน้ำจันทบูร จึงไม่ใช่เพียงการท่องเที่ยวชมบ้านเก่า หากแต่เป็นการสัมผัส "ชีวิต" ในแบบที่เรียบง่ายและลึกซึ้ง ชีวิตที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ ผู้คน และอดีตที่ไม่เคยเลือนหาย ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นบทเรียนอันมีค่าเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนของผู้คนต่างเชื้อชาติและศาสนา ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นรากฐานของความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของเมืองจันทบุรี
“หากคุณกำลังมองหาการเดินทางที่ไม่เร่งรีบ สถานที่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน และโอกาสที่จะได้เรียนรู้ความงดงามของความเรียบง่าย ชุมชนริมน้ำจันทบูร คือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด”
จุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในชุมชน ได้แก่ บ้านหลวงราชไมตรี เป็นบ้านพักประวัติศาสตร์อายุราว 150 ปี หลวงราชไมตรีเป็นผู้บุกเบิกนำยางพารามาปลูกเป็นคนแรกของจันทบุรี จึงได้ฉายาว่าบิดาแห่งยางพาราตะวันออก ปัจจุบันบ้านหลวงราชไมตรีได้รับการปรับปรุงให้เป็นบ้านประวัติศาสตร์ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าพัก
บ้าน 69 ศูนย์การเรียนรู้ริมน้ำจันทบูร จัดตั้งขึ้นเพื่ออนุรักษณ์สถาปัตยกรรมในชุมชนโบราณ และใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆภายในชุมชน
นอกจากความดั้งเดิมของบ้านเรือน และสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่แล้วภายในชุมชนยังมีภาพวาดบนกำแพงที่ผสมผสานเข้ากับความเรียบง่ายของชุมชนแบบลงตัวให้ได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก มุมถ่ายภาพยอดฮิต สำหรับสายถ่ายรูป คือกำแพงโบราณเพ้นท์ภาพมาลิรีนมอนโร เป็นสถานที่ถ่ายละครและโฆษณาหลายเรื่อง
เมื่อข้ามสะพานมาอีกฝั่งของชุมชน อีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดนั่นก็คือ โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นโบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดและสวยที่สุดในประเทศไทย บรรยากาศภายนอกและภายในเย็นสบาย และเงียบสงบ มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจาก มหาวิหารน็อทร์-ดาม ประเทศฝรั่งเศษ แต่เดิมมีการตัดยอดปลายสูงออก เพื่อหลีกเลี่ยงเป็นเป้าโจมตีทางอากาศ สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และต่อเติมยอดแหลมอีกครั้งภายหลังด้วยการตกแต่งที่สวยงาม ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen Thailand ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก
การเดินทางมาชุมชนริมน้ำจันทบูร