โครงการคลังความรู้ เพื่อการพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Thailand Soft Power Portal) เป็นโครงการที่สืบเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” และมุ่งเน้นในการพัฒนาประชาชนเป็นสำคัญ ในด้านที่ 3 ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ วัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อพัฒนาบุคลากรในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เก็บความรู้และข้อมูลต่าง ๆ ในชุมชน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โครงการคลังความรู้ เพื่อการพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Thailand Soft Power Portal) ดำเนินการตามนโยบายของ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา (Any where Any time) โดยจัดทำชุดองค์ความรู้ชุมชนประจำจังหวัด เนื้อหาที่ดำเนินการเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้และกิจกรรมรักการอ่าน เกิดความภาคภูมิใจและสำนึกรักในสิ่งที่ชุมชนมี อาทิ ประวัติศาสตร์ความเป็นมา ประเพณี วัฒนธรรม สถานที่สำคัญและภูมิปัญญาในชุมชน เป็นต้น ในการพัฒนาครั้งนี้ได้นำหลักการบางประการของ SLK (Self Learning Kit) มาใช้ในการดำเนินการในรูปแบบของ Text Book Plus และ Web Book เพื่อให้ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้หลากหลายช่องทาง
ในการพัฒนาและจัดทำชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self Learning Kit) ชุดนี้ ภายใต้โครงการคลังความรู้เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Thailand Soft Power Portal) ของสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดเชียงราย ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูล เนื้อหาสาระ องค์ความรู้ต่าง ๆ จากคลังความรู้ TKP ของสำนักงาน สกร.ประจำจังหวัดเชียงราย ไว้ในชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self Learning Kit) ชุดนี้เรียบร้อยแล้ว
สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดเชียงราย ขอขอบคุณผู้จัดทำจากศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอรวมถึงศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบล และภาคีเครือข่ายที่ได้ร่วมกันจัดทำชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self Learning Kit) ชุดนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี สามารถนำไปสู่การพัฒนาสมรรถนะของกลุ่มเป้าหมายและเป็นประโยชน์แก่การจัดการศึกษา การจัดทำข้อมูลชุมชน นำไปสู่การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดเชียงราย
เมษายน 2568
เพื่อจัดเก็บข้อมูลองค์ความรู้ที่อยู่ในทุกตำบลของจังหวัดเชียงราย
เพื่อพัฒนาข้อมูลบนเว็บบุ๊คให้เป็นคลังความรู้ที่เป็นระบบและเป็นปัจจุบัน
เพื่อเผยแพร่ข้อมูล คลังความรู้ ให้กับนักเรียน นักศึกษา ประชาชนและผู้สนใจทั่วไป
เพื่อเปิดโอกาสให้มีการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระบบการศึกษาเดียวกันหรือในระดับที่สูงขึ้น
นักเรียน / นักศึกษา / ประชาชน และผู้สนใจทั่วไป
หลักสูตร เหนือสุดในสยาม ชยวรนคร "เจียงฮาย" จำนวน 1 หน่วยกิต เวลา 40 ชั่วโมง
Web Book หลักสูตร เหนือสุดในสยาม ชยวรนคร "เจียงฮาย"
การจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการเรียนรู้เพื่อเพิ่มคุณวุฒิตามระดับ ดังนี้
1. ให้ผู้เรียนศึกษารายละเอียดของหลักสูต
2. ให้ผู้เรียนปฏิบัติตามขั้นตอนการเรียนรู้ดังนี้
2.1 ทำแบบประเมินตนเองก่อนเรียนเพื่อประเมินพื้นฐานความรู้
2.2 ศึกษาบทเรียนออนไลน์ บางบทเรียนจะมี Video Clip เนื้อหาและสื่อประกอบอื่น ๆ
2.3 ทำกิจกรรมตามหน่วยการเรียนรู้
2.4 ทำแบบประเมินตนเองหลังเรียน เพื่อประเมินพัฒนาการเรียนรู้
3. แบบวัดผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้
ให้ผู้เรียนดาวน์โหลดเอกสาร/สมุดบันทึกกิจกรรมการเรียนรู ..คลิ๊ก
ประเมินจากผลงาน/ชิ้นงาน
บันทึกสรุปสาระการเรียนรู้ท้ายเรื่องจำนวน 8 เรื่อง
คำถามท้ายหลักสูตร 10 ข้อ จำนวน 30 ชั่วโมง (70 คะแนน)
กิจกรรมฝึกปฏิบัติท้ายหลักสูตร จำนวน 10 ชั่วโมง (30 คะแนน)
ผู้เรียนเรียนรู้ตามระยะเวลาของหลักสูตรที่กำหนดไว้
" ตราประจำจังหวัดเชียงราย "
“รูปช้างสีขาวใต้เมฆ” เมื่อพญามังรายได้ทรงรวบรวมหัวเมืองฝ่ายเหนือในอาณาเขตรอบๆ ได้แล้ว จึงทรงกรีฑาทัพไปแสดงฝีมือในการยุทธต่อหัวเมืองฝ่ายใต้ลงมา จึงได้ไปรวมพล ณ เมืองลาวกู่เต้า และหมอควาญได้นำช้างมงคลของพญามังรายไปทอด(ผูก) ไว้ในป่าหัวดอยทิศตะวันออกพลัดหายไป พญามังราย จึงได้เสด็จติดตามรอยช้างไปจนถึงดอยทองริมแม่น้ำกกนัทธี ได้ทัศนาการเห็นภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม อุดมสมบูรณ์เป็นชัยภูมิที่ดีจึงได้สร้างเมืองใหม่ขึ้นที่นั้นให้ก่อปราการโอบดอยจอมทองไว้ในท่ามกลางเมือง ขนานนามเมืองว่า “เวียงเชียงราย” ตามพระนามของพญามังรายผู้สร้าง เมื่อวันที่ 26 มกราคม 1805 ดังนั้น จึงได้นำรูปช้างสีขาวใต้เมฆ
คำขวัญประจำจังหวัด
“ เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง ”
“เหนือสุดแดนสยาม” เชียงรายเป็นจังหวัดในภาคเหนือสุดของประเทศไทย แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั่นคือภูมิประเทศและภูมิอากาศของจังหวัดเชียงรายนั้นเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวในภาคอื่นๆ ให้มาเที่ยวอีกทั้งยังมีภูเขาสูง แถมในช่วงหน้าหนาว ดอยต่างๆ ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและสวยงาม อย่างเช่น ภูชี้ฟ้า ดอยผาตั้ง ดอยแม่สลอง ดอยตุง
“ชายแดนสามแผ่นดิน” เนื่องจากเชียงรายเองนั้นมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ประเทศลาวและประเทศพม่า หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นจุดเชื่อมพรมแดน 3 ประเทศ ที่เรารู้จักกันในนาม “สามเหลี่ยมทองคำ” ค่ะ ทำให้ทั้ง 3 ประเทศ กลายมาเป็นบ้านพี่เมืองน้องที่ไปมาหาสู่กันอยู่ประจำค่ะ และอำเภอแม่สายก็เป็นแหล่งช็อบปิ้งขนาดใหญ่ที่หลายคนรู้จัก และเป็นด่านผ่านแดนเข้าไปยังท่าขี้เหล็กของพม่าที่นี่ ขึ้นชื่อในเรื่องสินค้าราคาถูก มีหลายอย่างให้เลือกซื้อ จนที่นี่กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจของขาชอปบ้านเราไปแล้ว
“ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา”เชียงรายเป็นเมืองเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน เคยเป็นที่ตั้งของชุมชนโบราณเชียงแสน จึงทำให้มีร่องรอยทางโบราณคดีและโบราณสถานหลงเหลืออยู่มากมายนอกจากนี้ยังมีขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์แห่งวัฒนธรรมล้านนา อย่าง ทุกปีจะมีประเพณีและกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมอย่างหลากหลาย เช่น ประเพณียี่เป็งลอยกระทง งานประเพณีแห่โคมไฟ เป็นต้น
“ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง” อีกแหล่งท่องเที่ยวที่เมื่อมาเชียงรายแล้วไม่ควรพลาดที่จะขึ้นมาเยี่ยมชม พร้อมสักการะพระธาตุ ที่วัดพระมหาชินธาตุเจ้า โดยชาวบ้านมักเรียกกันติดปากว่าพระธาตุดอยตุงค่ะ ซึ่งองค์พระธาตุเองนั้น มีสีทองอร่าม สูงประมาณ 5 เมตร อายุหลายร้อยปี และเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรกุน
"ดอกกาสะลอง" คือสัญลักษณ์แห่งความงามของต้นหนาวสำหรับชาวเหนือ ด้วยดอกที่มีสีขาวสะอาดกับกลิ่นที่หอมบริสุทธิ์ทั้งรูปลักษณ์และกลิ่นที่เข้ากันดีเลยทำให้ดอกปีบ เป็นสัญลักษณ์ของความงามบริสุทธิ์ที่ใครๆ ต่างก็สัมผัสได้
พวงแสดที่เกาะกันเป็นกลุ่ม แสดงถึงการส่งเสริมไปไหนมาไหน จะไปกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน และไม่เคยทอดทิ้งกัน จึงเปรียบเสมือนดอกพวงแสดที่เวลาออกดอก ออกช่อ จะออกดอกพร้อมกัน อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ๆ เหมือนกับส่งเสริมทำอะไรก็ทำพร้อมกัน ไม่ชิงดีชิงเด่น ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน ขอให้ส่งเสริมของเราจงมีแต่ความรัก สามัคคีกันตลอดชีวา
Thailand Soft Power Portal | Web Book | ชยวรนครเชียงราย เหนือสุดในสยาม 2568