Microsoft Office Excel 2010

โปรแกรม Microsoft Excel เป็นโปรแกรมประเภทตารางงาน หรือโปรแกรม สเปรดชีต(Spreadsheet) นิยมใช้สาหรับเก็บข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขที่มีปริมาณ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์หรือคำนวณผล สามารถเรียงลำดับข้อมูล หรือเลือกดูเฉพาะข้อมูลที่ต้องการได้ เช่น การทำตารางสอนการทำรายงานผลการเรียนเป็นตารางคะแนน กราฟแสดงผลการ การทำบัญชีรายรับ – รายจ่าย เป็นต้น ด้วยความโดดเด่นของ โปรแกรม Microsoft Excel ที่สามารถคำนวณและวิเคราะห์ ข้อมูล โดยใช้ฟังก์ชันสูตรคำนวณต่าง ๆ และยังสามารถนาเสนอข้อมูลในรูปแบบของกราฟได้อย่างง่ายด้วย โปรแกรม Microsoft Excel ถึงแม้จะนิยมใช้ในงานประเภทข้อมูล ตารางข้อมูลแต่บางคนยังใช้โปรแกรม Microsoft Excel ในงานเอกสารหรือจัดรูปแบบเอกสาร ซึ่งสามารถได้ดีไม่แพ้โปรแกรม Microsoft Word โปรแกรม Microsoft Excel มีการพัฒนาขีดความสามารถของโปรแกรมให้ดีขึ้น กว่าเวอร์ชั่นเดิม อาทิเช่น การเปลี่ยนริบบอน(Ribbon) ให้มีประสิทธิภาพขึ้น ใส่สูตรฟังก์ชันได้ง่ายกว่าเดิมการจัดรูปแบบอัตโนมัติที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย เป็นต้น

ด้วยความสามารถของโปรแกรม Microsoft Excel พบว่าโปรแกรม Microsoft Excel ยังสามารถนามาประยุกต์สร้างสรรค์เกมการศึกษาอย่างง่าย ซึ่งสามารถช่วยพัฒนาทักษะการใช้โปรแกรมและฝึกทักษะด้านการคิดได้ด้วยเช่นกัน


ความสำคัญของโปรแกรม Microsoft Excel คือ เป็นโปรแกรมที่เหมาะกับงานการคิดคํานวณหลากหลาย และสามารถนําไปประยุกต์ใช้ในการคํานวณต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น การฝากหรือการถอนเงิน การกู้เงิน การทําบัญชีและงบการเงิน การวิเคราะห์ทางการเงิน หรือวิจัยตลาด การคํานวณค่าทางสถิติที่ใช้ทําผลงานทางวิชาการ การคํานวณคะแนน หรือการเรียนของนักเรียน นักศึกษา เป็นต้น

คุณสมบัติของโปรแกรม Microsoft Excel

1. สร้างและแสดงรายงานของข้อมูล ตัวอักษร และตัวเลข โดยมีความสามารถในการ จัดรูปแบบให้สวยงามน่าอ่าน เช่การกำหนดสีพื้น การใส่แรเงา การกำหนดลักษณะและสีของ เส้นตาราง การจัดวางตำแหน่งของตัวอักษร การกำหนดรูปแบบและสีตัวอักษร เป็นต้น

2. อำนวยความสะดวกในด้านการคำนวณต่าง ๆ เช่น การบวก ลบ คูณ หารตัวเลข และยังมีฟังก์ชั่นที่ใช้ในการคำนวณอีกมากมาย เข่น การหาผลรวมของตัวเลขจำนวนมาก การหา ค่าทางสถิติและการเงิน การหาผลลัพธ์ของโจทย์ทางคณิตศาสตร์ เป็นต้น

3. สร้างแผนภูมิ (Chart) ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อใช้ในการแสดงและการเปรียบเทียบ ข้อมูลได้หลายรูปแบบ เช่น แผนภูมิคอลัมน์ แผนภูมิเส้น แผนภูมิวงกลม ฯลฯ

4. มีระบบขอความช่วยเหลือ (Help) ที่จะคอยช่วยให้คำแนะนำ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ทำงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เช่น หากเกิดปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรม หรือสงสัย เกี่ยวกับวิธีการใช้งาน แทนที่จะต้องเปิดหาในหนังสือคู่มือการใช้งานของโปรแกรม ก็สามารถขอ ความช่วยเหลือจากโปรแกรมได้ทันที

5. มีความสามารถในการค้นหาและแทนที่ข้อมูล โดยโปรแกรมจะต้องมี ความสามารถในการค้นหาและแทนที่ข้อมูล เพื่อทำการแก้ไขหรือทำการแทนที่ข้อมูลได้สะดวก และรวดเร็ว

6. มีความสามารถในการจัดเรียงลำดับข้อมูล โดยเรียงแบบตามลำดับ จาก A ไป Z หรือจาก 1 ไป 100 และเรียงย้อนกลับจาก Z ไปหา A หรือจาก 100 ไปหา 1

7. มีความสามารถในการจัดการข้อมูลและฐานข้อมูล ซึ่งเป็นกลุ่มของข้อมูลข่าวสาร ที่ถูกรวบรวมเข้าไว้ด้วยกันในตารางที่อยู่ใน Worksheet ลักษณะของการเก็บข้อมูลเพื่อใช้เป็น ฐานข้อมูลมนโปรแกรมตารางงานจะเก็บข้อมูลในรูปแบบของตาราง โดยแต่ละแถวของรายการจะ เป็นระเบียนหรือเรคอร์ด (Record) และคอลัมน์จะเป็นฟิลด์ (Field)

การเปิดและการปิดโปรแกรม Microsoft Excel 2010

คลิกปุ่ม Start บนแถบ Task bar

1. เลือก All Programs

2. เลือก Microsoft Office

เลือก Microsoft Office Excel 2010 โปรแกรมจะถูกเปิดให้ใช้งานได้ทันที


ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Excel 2013

1. แถบชื่อเรื่อง (Title Bar) = เป็นส่วนที่ใช้แสดงชื่อโปรแกรม และรายชื่อไฟล์ที่ได้เปิดใช้งาน

2. แถบเครื่องมือด่วน (Quick Access) = เป็นส่วนที่ใช้ในการแสดงคำสั่งที่ใช้งานบ่อย

3. ปุ่มควบคุม = เป็นส่วนที่ใช้ควบคุมการเปิด หรือปิดหน้าต่างโปรแกรม

4. ริบบอน (Ribbon) = เป็นส่วนที่ใช้แสดงรายการคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำงานกับเอกสาร

5. Name Box = เป็นช่องที่ใช้แสดงชื่อเซล์ที่ใช้งานอยู่ในขณะนั้น เช่น ถ้ามีการใช้งานข้อมูลในเซลล์ A1 รายชื่อเซลล์นี้ก็จะไปแสดงอยู่ในช่อง Name Box

6. แถบสูตร (Formula Bar) = เป็นช่องที่ใช้แสดงการใช้งานสูตรการคำนวณต่าง ๆ

7. เซลล์ (Cell) = เป็นช่องตารางที่ใช้สำหรับบรรจุข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งช่องเซลล์แต่ละช่องนั้นจะมีชื่อเรียกตามตำแหน่งแถว และคอลัมน์ ที่แสดงตำแหน่งของเซลล์ เช่น เซลล์ B1 จะอยู่ใน คอลัมน์ B ในแถวที่ 1 เป็นต้น

8. คอลัมน์ (Column) = เป็นช่องเซลล์ที่เรียงกันในแนวตั้งของแผ่นงาน (Worksheet)

9. แถว (Row) = เป็นช่องเซลล์ที่เรียงกันในแนวนอนของแผ่นงาน

10.Sheet Tab = เป็นแถบที่ใช้แสดงจำนวนแผ่นงานที่เปิดขึ้นมาใช้งาน

11.แถบสถานะ (Status Bar) = เป็นส่วนที่ใช้แสดงจำนวนหน้ากระดาษ และจำนวนตัวอักษรที่ใช้ในเอกสาร

ข้อมูลจาก : https://sites.google.com/site/tonaorteacher/swn-prakxb-khxng-porkaerm-microsoft-excel-2010

ประโยชน์ของ Microsoft Excel

  1. สร้างตารางทำงาน จัดตารางสวยงาม ในรูปแบบต่างๆ
  2. สร้างเอกสารที่ต้องมีการคำนวณ เชื่อมโยงสูตร (สามารถเชื่อมโยงในไฟล์เดียวกัน ข้ามไฟล์ หรือ ข้ามเครื่องก็ได้)
  3. งานจัดเก็บข้อมูลเบื้องต้นที่จำนวนข้อมูลไม่เกิน 1 ล้านแถว (ในทางปฏิบัติ แนะนำว่าไม่เกิน หลักแสน จะทำงานได้คล่องตัว)
  4. สร้างรายงานสรุปผลในมุมมองต่างๆ เช่น ตารางสรุปยอดขาย ตารางสรุปข้อมูลสินค้า สรุปงบดุล สรุปแผนการผลิต สรุปข้อมูล ขาดลามาสาย ของพนักงาน เป็นต้น
  5. สร้างกราฟ นำเสนอข้อมูล ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกราฟแท่ง กราฟเส้น วงกลม จุด ทั้ง 2 มิติ และ 3 มิติ มีรูปแบบต่างๆ มากมาย

ลักษณะงานเหมาะกับ Excel

  1. งานด้านบัญชี (Accounting)
  2. งานด้านการเงิน (Financial)
  3. งานด้านการวางแผน (Planning)
  4. งานด้านงบประมาณ (Budgeting)
  5. งานด้านสถิติ (Statistic)
  6. งานด้านวิศวกรรมศาตร์ (Engineering)

ข้อจำกัดของ Excel (.xlsx)

  • 1,048,576 rows by 16,384 columns
  • จำนวน Sheets ใน Workbook = ไม่จำกัด
  • รายการที่จะอยู่ใน Dropdown = 10,000
  • ฟังก์ชั่น ซ้อนกันได้ = 64 ชั้น
  • ตัวแปรสูงสุดในฟังก์ชั่น = 255 ตัวแปร
  • จำนวนคนที่เปิดพร้อมกัน = 256 คน
  • จำนวนขั้นของการ Undo = 100 ขั้น
  • จำนวน คอลัมน์ ใน Pivot = 16,384
  • จำนวน แถว ใน Pivot = 1,048,576

การสร้างสมุดงาน ใน Excel 2013

1. เปิดโปรแกรม Excel 2013

2. เลือกแม่แบบที่ต้องการ

การกำหนดขนาดและแนวหน้ากระดาษสมุดงาน ใน Excel 2013

1. วิธีการกำหนดขนาดหน้ากระดาษ ตามที่โปรแกรมกำหนดมาให้

1.1 คลิกแท็บ เค้าโครงหน้ากระดาษ

1.2 คลิกเลือก ขนาด แล้วเลือกขนาดกระดาษที่ต้องการ

2. การกำหนดแนวสมุดงานใน Excel 2013

2.1 คลิกแท็บ เค้าโครงหน้ากระดาษ


2.2 คลิกเลือก การวางแนว แล้วเลือกแนวกระดาษที่ต้องการ