การทำปุ๋ยหมักแบบพลิก ขยำ บี้ ฉีก วันละครั้งในกะละมัง จะเสร็จใน 1 เดือน เสร็จเร็วกว่าแบบไม่พลิกในตะกร้าผ้า เข่ง หรือวงตาข่ายที่เสร็จใน 2 เดือน เพราะจุลินทรีย์จะได้รับออกซิเจนจากการพลิกขยำทุกวัน ...... ใบไม้ 3 ส่วน มูลสัตว์ 1 ส่วน (อย่างเช่น ใบไม้ 3 ขัน ตามด้วยมูลสัตว์ 1 ขัน) สวมถุงมือคลุกเคล้าในกะละมัง ผสมน้ำให้ส่วนผสมหมาด ๆ ไม่แฉะ เสร็จแล้วทิ้งไว้ในร่ม อย่าให้โดนฝน ไม่ต้องปิดฝา ภายในเวลา 30 วัน ก็พลิก ๆ ๆ ๆ ขยำ ๆ ๆ ๆ บี้ ๆ ๆ ๆ ฉีก ๆ ๆ ๆ วันละครั้ง ..... คอยเติมน้ำเฉพาะเมื่อรู้สึกว่าแห้ง เราจะไม่รดทุกวันนะครับ ...... ความชื้นที่ดีประมาณ 50-60% หรือบีบแล้วมีน้ำซึมออกมาที่ง่ามมือสัก 1-2 หยด ย้ำครับไม่ให้แฉะที่ก้นกะละมัง ..... ใครคิดถึงน้องปุ๋ย อยากจะแวะไปพลิก ขยำ บี้ ฉีก วันละหลาย ๆ รอบก็ทำได้ครับ จะยิ่งดี
การทำปุ๋ยหมักแบบนี้จากใบไม้และขี้วัวแห้ง จะไม่เคยมีกลิ่นเลยตลอด 30 วัน ...... มูลสัตว์เป็นแหล่งของจุลินทรีย์ที่ใช้ย่อยสลาย เราเลยไม่ต้องเติมอีเอ็มหรือน้ำหมักอีก ..... คาร์บอนที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์มีในเศษพืช ไนโตรเจนที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ก็มีในมูลสัตว์ ...... เราจึงใช้วัตถุดิบแค่ 2 อย่างได้ ....... สัดส่วนใบไม้ต่อมูลสัตว์ 3 ต่อ 1 เป็นสัดส่วนที่เหมาะสมจากการวิจัยมาแล้ว จุลินทรีย์จะสามารถเจริญเติบโตและขยายจำนวนได้มาก ถ้ามีความชื้นที่ดีก็จะเกิดการย่อยสลายที่ดี การเป็นปุ๋ยหมักจึงเกิดได้สมบูรณ์ ...... ถ้าความชื้นแห้งเกินไป หรือแฉะเกินไป จุลินทรีย์กลุ่มนี้ก็จะหยุดกิจกรรมครับ
มูลสัตว์ใช้ได้ทุกชนิด ขี้วัวแห้งจะไม่มีกลิ่นเลย ในขณะที่ขี้ไก่ ขี้หมูจะมีกลิ่น
ถ้าเผลอเติมน้ำมากไปจนแฉะนองที่ก้นกะละมัง มันจะเริ่มส่งกลิ่น ให้นำไปวางแผ่กลางแดด พอหมาดดีแล้วก็เอากลับไปพลิก ขยำ บี้ ฉีกต่อครับ ..... หรือจะเติมใบไม้และขี้วัว ก็จะแก้ปัญหาแฉะเกินไปได้ครับ
ใครมีเศษผัก เศษผลไม้ เปลือกผลไม้ ก็ให้เอาใบไม้ 1-1.5 ส่วน เศษผัก เศษผลไม้ เปลือกผลไม้ 1-1.5 ส่วน ขี้วัว 1 ส่วน พลิกขยำในกะละมังวันละครั้ง ช่วง 7 วันแรกแทบจะไม่ได้พรมน้ำเลยเพราะอาจมีความชื้นจากเศษผักอยู่แล้ว ..... เราจะเติมน้ำ "เฉพาะ" เมื่อแห้งเท่านั้นครับ ..... ถ้ามีมุ้งลวดกันแมลงคลุมตลอดเวลาก็จะไม่มีปัญหาแมลงหวี่แมลงวันมาวางไข่เป็นหนอนได้ครับ .... เศษผลไม้ เปลือกผลไม้ถ้าซอยให้เป็นชิ้นลูกเต๋าเล็ก ๆ ก็จะช่วยน้องจุลในการย่อยสลายได้ดีมากขึ้นครับ ...... ทำเสร็จแต่ละวันก็ควรมีมุ้งลวดกันแมลงคลุมไว้เสมอเพื่อป้องกันแมลงวันมาวางไข่เป็นหนอน
ท่านใดอยากทำให้ได้ปุ๋ยหมักมากขึ้น ก็ทำในกระบะปูนก็ได้ แล้วหาจอบหรือคราดเหล็กมาพลิกวันละครั้งครับ
การทำปุ๋ยหมักในกะละมังหรือในกระบะปูนนี้ ในช่วง 10 วันแรกยังสามารถเติมวัตถุดิบใบไม้ 3 ต่อ 1 หรือเศษอาหาร 1-1.5 ต่อ 1-1.5 ต่อ 1 ลงไปได้อีก และจะเสร็จใน 30 วันนับจากวันแรก
พอครบ 30 วัน ใบไม้หรือเศษอาหาร เปลือกผลไม้ ก็จะเปลี่ยนเป็นปุ๋ยหมัก มีสีดำ เบา นุ่มมือ ปริมาตรจะหายไปประมาณครึ่งหนึ่ง ....... ก็เอาทำให้แห้งก่อนใช้หรือเก็บในถุง เพื่อให้จุลินทรีย์ในกองปุ๋ยที่กำลังย่อยสลายเก่งไม่ไปกัดกินรากพืชของเราครับ ....... การทำให้แห้งในร่มเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ถ้าอยากรีบใช้ก็อาจผึ่งกลางแดดสัก 2-4 วันก็ได้ครับ แห้งมีความชื้นสัก 30% ก็พอ คือบีบในมือแล้วคลาย ถ้าแตกบ้างเป็นก้อนบ้างก็ใช้ได้แล้ว ไม่ต้องทำให้แห้งสนิทนะครับ กลัวไนโตรเจนจะระเหยไป ปุ๋ยหมักจากการทำในกะละมังนี้ เมื่อนำไปวิเคราะห์ก็จะมีคุณภาพสูง มีค่าต่าง ๆ เป็นไปตามที่มาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์กำหนดทุกครั้งครับ
ปริมาณการใช้ปุ๋ยหมักกับไม้กระถางไม้ประดับคือ 1 กำมือ ปีละ 2-3 ครั้ง ..... การเตรียมดินไม้กระถาง ก็ใช้ดิน 7 ปุ๋ยหมัก 1 ..... ถ้าจะปลูกผักในกระถาง ก็ดิน 4 ปุ๋ยหมัก 1 และโรย 1 กำมือทุกอาทิตย์ ..... ปลูกผักในแปลง ใส่ได้ไม่เกิน 2 กก.ต่อตารางเมตร แล้วโรยผิวหน้าทุกอาทิตย์ ....... ใส่ปุ๋ยหมักมากกว่านี้ืพืชสำลักธาตุอาหารได้ครับ ...... ดินกระถางเก่าเจอปุ๋ยหมัก 1 กำมือ จะกลับมาร่วนดีเลยครับ