ราชวงศ์สกอร์ปิอัสเป็นราชวงศ์ซึ่งสืบทอดสายเลือดมาจากปฐมราชาเผ่าสกอร์เปี้ยนของสกอร์ปิโอ โดยผู้ที่จะขึ้นครองราชบัลลังก์นั้นมีธรรมเนียมต้องพิสูจน์ตนโดยการทนความเจ็บปวดจากการสักลายแมงป่องขนาดยักษ์ให้เต็มแผ่นหลัง ซึ่งเดิมเคยเป็นพิธีการสืบตำแหน่งหัวหน้าเผ่าสมัยยังเป็นเผ่าสกอร์เปี้ยน
ราชวงศ์สกอร์ปิโอมีธรรมเนียมการเลี้ยงแมงป่องทมิฬไว้รีดพิษ ซึ่งอาวุธที่คนตระกูลสกอร์ปิอัสพกติดตัวนั้นมักจะอาบพิษที่ได้จากแมงป่องชนิดนี้ หากเป็นสตรีที่ไม่เชี่ยวชาญศาสตราวุธก็มักพกเข็มอาบยาพิษ นอกจากอาวุธพิษแล้วเพื่อป้องกันความผิดพลาดจึงได้พกยาถอนพิษด้วยเช่นกัน โดยเมื่อถึงวัยที่จะได้รับอนุญาตให้พกอาวุธพิษ จะได้รับมอบแหวนอัญมณีที่มียาถอนพิษอยู่ด้านใน
ตามโบราณราชประเพณี กษัตริย์สกอร์ปิโอจะรับตำแหน่งผู้บัญชาการราชนาวี พระญาติที่สืบสายเลือดเผ่าสกอร์เปี้ยนจะรับตำแหน่งผู้บัญชาการทัพหลวง เป็นเช่นนี้มานับสิบนับร้อยปี
นอกนั้นราชาแห่งสกอร์ปิโอยังต้องพิสูจน์ความสามารถทางการบัญชาทัพเรือด้วยการนำทัพออกทะเลและออกล่าสัตว์ร้ายในน่านน้ำทะเลตะวันออก เช่นมังกร หรือคราเคน และนำซากสัตว์ร้ายกลับมาแสดงให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชน
ความที่สกอร์ปิโอมักต้องนำเข้าเหล็กเพื่อทำอาวุธ แต่ชิ้นส่วนของมังกรสมุทรบางสายพันธุ์นั้นหากผ่านการจัดการและแปรรูปอย่างถูกต้องจะมีความเแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กและทนฤทธิ์กัดกร่อนของพิษแมงป่องทมิฬได้ ราชนิกุลของราชวงศ์สกอร์ปิอัสมักจะได้รับอาวุธที่ตีขึ้นจากชิ้นส่วนของมังกรสมุทรที่ได้จากการล่าของกษัตริย์เหล่านี้เป็นของคู่กาย
ราชวงศ์สกอร์ปิอัสในรุ่นหลังๆ ได้ชื่อว่ามีฝาแฝดเกิดขึ้นในสายตระกูลบ่อยครั้ง
โดยทั่วไปราชวงศ์สายตรงมักตั้งชื่อด้วยตัว อ. (โดยมากเป็นเสียง A) กระนั้นเป็นเพียงค่านิยมเท่านั้น มิได้ถือเป็นประเพณีอะไร
(ผู้เล่นที่ลงตัวละครราชวงศ์สามารถเลือกดีไซน์รูปแบบรอยสักแมงป่องได้ตามต้องการ
แต่จะขอให้ส่งให้ผู้ดูแลตรวจพร้อมประวัติ รวมถึงหากนำแบบมาจากอินเตอร์เน็ตจะขอให้แนบเครดิตที่มาทุกครั้ง)
อเลซัส สกอร์ปิอัส นั้นเป็นที่กังขาของทุกคนยามที่ทุกอย่างแน่นอนแล้วว่าเขาจะขึ้นสืบทอดบัลลังก์สืบต่อจากคิงแอกนาร์พระบิดา
ตั้งแต่ยังเยาว์ เป็นที่รู้กันว่าเจ้าชายอเลซัสมีนิสัยนุ่มนวลอ่อนโยน ใครๆต่างคิดว่าญาติผู้พี่จากราชวงศ์สายรองมีทั้งความสามารถและอำนาจบารมีมากกว่า ทั้งเสด็จลุงทั้งญาติผู้นี้เกือบเอื้อมแตะถึงราชบัลลังก์ถ้าไม่ใช่เหตุการณ์ร้ายเมื่อหลายปีก่อนที่ทำให้พระบิดาของคิงอเลซัสได้ครองบัลลังก์
ทว่ายามเขาจบการศึกษาจากโรงเรียนพระราชาและก้าวเข้าสู่บทบาทในสภาเสนาธิการ คำครหาทั้งหลายก็เบาบางลง การที่เจ้าชายรัชทายาทจัดการกวาดล้างขุนนางทุจริตจากเหตุอุทกภัยทางตอนกลางของประเทศแสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจที่เฉียบขาดและจัดการได้เลือดเย็น แม้หนึ่งในนั้นจะมีศักดิ์เป็นพระญาติและคนใกล้ชิดก็ไม่ไว้หน้า เมื่อสิ้นสุดการพิจารณาความผิดก็สั่งลงโทษโดยไม่ละเว้น
ว่ากันว่าลายสักแมงป่องทมิฬบนหลังของคิงอเลซัสออกแบบโดยเสด็จย่าพระองค์หนึ่งของเขา ผู้มีชื่อเสียงเป็นศิลปินแห่งชาติที่มีผลงานเลื่องลือไปยังนานาประเทศ
ยามขึ้นครองราชย์ คิงอเลซัสนำกองเรือหลวงออกทะเลเพื่อไล่ล่าสัตว์ร้ายตามโบราณราชประเพณี ใช้เวลาเพียงสิบห้าวันก็พาซากร่างมังกรสมุทรที่ได้ชื่อว่าดุร้ายที่สุดสายพันธุ์หนึ่งกลับมาถึงเมืองหลวง บันทึกไว้ว่าเป็นการบัญชาการการล้อมปราบที่ดุเดือดที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
คิงอเลซัสแต่งงานช้า พิธีอภิเษกครั้งแรกของเขาจัดขึ้นหลังจากการครองราชย์ผ่านไปหลายปี ว่ากันว่าเพราะทรงรอเลดี้อาเรีย เวนเดลล์ พระญาติห่างๆผู้เป็นรักแรกในวัยเยาว์เติบโต กษัตริย์และราชินีมีชีวิตรักหวานชื่นเพียงไม่นาน ในครรภ์ที่สองนางมีภาวะคลอดยาก เด็กน้อยที่ควรได้เป็นเจ้าชายรัชทายาทเสียชีวิตตั้งแต่แรกคลอด องค์ราชินีเองก็มีภาวะตกเลือดอย่างหนัก เสียชีวิตตามไปในเวลาไม่นาน เหลือเพียงเจ้าหญิงพระองค์โตอายุไม่ถึงขวบปีไว้ให้คิงอเลซัสดูต่างหน้า
ทว่าข้างบัลลังก์ไม่ได้ว่างเปล่าอยู่นาน ด้วยการผลักดันจากคนในสภาเสนาธิการ รวมถึงจากราชวงศ์สายรองของเอธานัส สกอร์ปิอัส ผู้บัญชาการทัพหลวง ผู้ที่แต่งงานมานานปีกว่าจะมีทายาทคนแรกให้เชยชม ในที่สุดคิงอเลซัสก็แต่งตั้ง เลดี้แคลร์ ดาลมัวร์ ธิดาของอธิบดีกรมการศึกษา ขึ้นเป็นราชินีองค์ใหม่ ในเวลาไม่นานหลังจากนั้นราชินีแคลร์ก็ทรงมีพระประสูติกาลในที่สุด
เป็นเจ้าชายรัชทายาทที่คิงอเลซัสทรงเฝ้ารอมานาน
ใน A.D. 1129 คิงอเลซัสจะมีอายุครบ 57 ปี
ก่อนที่แอกนาร์ สกอร์ปิอัส คิงองค์ก่อนจะขึ้นครองบัลลังก์ เขาไม่ใช่เจ้าชายรัชทายาท หากแต่เป็นพี่ชายฝาแฝด เอแดร์ สกอร์ปิอัส
สองเจ้าชายแฝดนั้นเป็นที่ร่ำลือกันทั้งในด้านรูปโฉมและความสามารถ อุปนิสัยและความเฉลียวฉลาดไม่มีใครด้อยกว่าใคร เป็นที่รู้กันดีว่าเจ้าชายทั้งสองสมัครสมานรักใคร่กลมเกลียว ไม่มีแม้ความลับต่อกัน ข้อด้อยเพียงข้อเดียวที่ทำให้เจ้าชายแอกนาร์พ่ายแพ้คือการที่เขาถือกำเนิดช้ากว่าสิบห้านาที
ยามนั้นคิงอาริเอลผู้บิดายังคงมีพระชนม์ชีพ เจ้าชายทั้งสองต่างแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วก็ยังไม่ทรงคิดเรื่องสละราชบัลลังก์ ครั้งหนึ่งขณะเดินทางด้วยเรือไปยังหัวเมืองภูมิภาคทางเหนือ เจ้าชายทั้งสองพบเข้ากับพายุพิโรธ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในยามนั้น แต่สองวันต่อมาถึงมีคนพบเจ้าชายแอกนาร์ที่สลบไสลไม่ได้สติกอดร่างเจ้าชายแอแดร์ที่สิ้นใจไปแล้วเอาไว้ เมื่อกลับมาถึงเมืองหลวง หลังได้รับการรักษาจนฟื้นคืนสติกลับพบว่าเจ้าชายแอกนาร์ไม่สามารถจำเหตุการณ์อะไรในวันนั้นได้เลย
เล่าลือกันว่าเป็นคำสาป เล่าลือกันว่าบนเรือนั้นมีคนสบประมาทเทพเจ้าแห่งท้องทะเล บ้างก็ว่าเพราะการฝืนเดินเรือโดยไม่ฟังคำทัดทานของต้นเรือชั้นครู------เรื่องนี้มีหรือที่คนในครอบครัวของเจ้าชายเอแดร์จะยอมรับได้ง่าย ตำแหน่งเจ้าชายรัชทายาทและว่าที่คิงของสามีหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา เลดี้ดาห์เลียมเหสีม่ายของเจ้าชายเอแดร์กล่าวโทษว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของเจ้าชายแอกนาร์ที่ต้องการตำแหน่งรัชทายาทจนจัดฉากฆาตกรรมพี่ชายของตนเอง
ไม่มีใครใส่ใจการป่าวประกาศกล่าวโทษนี้ เพราะมองว่าเลดี้เสียใจจนสติฟั่นเฟือนไปชั่วขณะ เลดี้ดาห์เลียทำได้เพียงเก็บซ่อนความแค้นไว้และเลี้ยงดูลูกชายของตัวเองด้วยแนวทางอย่างที่เจ้าชายรัชทายาทควรได้ ว่ากันว่าสิ่งที่เอธานัสพระญาติผู้พี่ผู้นี้ได้รับไม่ต่างไปจากของที่เจ้าชายอเลซัส รัชทายาทที่เกิดมาภายหลังได้รับเลยสักนิด
เจ้าชายเอธานัสเติบโตขึ้นภายใต้การปลูกฝังให้เกลียดชังคิงแอกนาร์และเจ้าชายรัชทายาทอย่างอเลซัส ไม่มีใครรู้ว่าภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มสูงส่งเหมือนสวมหน้ากากอยู่เสมอของเขาคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องทั้งหมดนี้ ยามเลดี้ดาห์เลียยังมีชีวิตอยู่นางคอยพูดปลุกปั่นเหล่าขุนนางและข้าราชบริพารอยู่ตลอดว่าบัลลังก์ของคิงแอกนาร์ที่สืบทอดมายังคิงอเลซัสนั้นได้รับมาอย่างไม่ชอบธรรมจวบจนนางเสียชีวิตไปไม่กี่ปีก่อนด้วยความชราภาพ
ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายเอธานัสและคิงอเลซัสเหมือนมีคลื่นใต้น้ำระหว่างกัน ผู้หนึ่งคือราชาผู้บัญชาการราชนาวี ผู้หนึ่งบัญชาการทัพหลวงที่ดูแลความสงบของราชอาณาจักรขุนนางที่หนุนหลังแต่ละฝ่ายได้แต่เฝ้ามองดูกันและกันอย่างเงียบเชียบ ไม่มีใครรู้ว่ารอยร้าวเล็กๆนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป จะถูกสืบทอดไปยังทายาทรุ่นต่อไปหรือไม่
ผังราชวงศ์ยังไม่ตายตัว ฝั่งซ้ายที่เป็นพระญาติจากเหล่าเจ้าหญิงที่แต่งออกไปยังไม่ได้เคาะลงตัว รอให้ผู้เล่นอื่นมาเสนอแนวทางโคประวัติได้ นับเป็นพระญาติอยู่ในผังสายตระกูล ไม่มีอิสรยยศ และอาจนับเป็นประชากรประเทศอื่นตามแต่ตัวละครเพศหญิงได้แต่งออกไป
(หากแต่งกับราชวงศ์ประเทศอื่น จำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากทางราชวงศ์ประเทศนั้นๆมาด้วยค่ะ)
ตำแหน่งสายตรงที่ยังสามารถขอโคประวัติ และลงสมัครโดยต้องวิ่งโควต้าราชวงศ์ได้ มีดังนี้
เจ้าชายรัชทายาท บุตรคนแรกของคิงอเลซัสและควีนแคลร์ มีเงื่อนไขพิเศษบางประการตามสตอรี่ของประเทศ (อายุเหมาะสมในรุ่น1-3) มีผู้ลงสมัครแล้ว
เจ้าหญิง/เจ้าชาย คนที่สอง ผู้เล่นเลือกเพศได้อิสระ มีเงื่อนไขพิเศษบางประการตามสตอรี่ของประเทศ (อายุเหมาะสมในรุ่น2-5 แต่ถ้าสนใจลงรุ่นหลังจากนั้นก็ลงได้)
มีผู้ลงสมัครแล้ว
เจ้าหญิง/เจ้าชาย คนที่สาม ผู้เล่นเลือกเพศได้อิสระ (อายุเหมาะสมในรุ่น3-6 แต่ถ้าสนใจลงรุ่นหลังจากนั้นก็ลงได้) มีผู้ลงสมัครแล้ว
อนึ่งในบรรดาพี่น้อง อาจมีการเข้าเรียนไม่เรียงตามลำดับ น้องอาจเข้าพร้อมพี่ หรือพี่เข้าหลังน้อง ขอเพียงมีเหตุผลที่เหมาะสมในประวัติ
หากยังมีผู้สนใจเพิ่มเติม อาจมีการเปิดเพิ่มในตำแหน่งเจ้าหญิง/เจ้าชายอันดับ 4-5 ค่ะ แต่แน่นอนว่าจะมีเงื่อนไขบังคับบางอย่างในการสร้างตัวละคร ซึ่งสามารถสอบถามเข้ามาได้ค่ะ
ในขณะนี้ปิดรับการโคประวัติราชวงศ์สายตรงของคิงอเลซัสและควีนแคลร์ เนื่องจากมีการขอโคประวัติจนถึงสล็อตพิเศษลำดับ 5 เรียบร้อยแล้ว
ในตำแหน่งอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นโควต้าเจ้าหญิงเจ้าชาย แต่ยังมีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ จะตามผังราชวงศ์ด้านบนหรือไม่ก็แล้วแต่ สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ตลอดค่ะ
สำหรับผู้ต้องการลงตัวละครเป็นลูกหลานในสายของอินกริด - วาเลเรีย มีเงื่อนไขพิเศษบางประการเล็กน้อย หากสนใจขอให้ติดต่อผู้ดูแลประเทศตั้งแต่ก่อนเริ่มเขียนประวัติค่ะ
อัพเดท 16/08/2021
ทางผู้ดูแลได้มีการเพิ่มเติมราชวงศ์สายอิเนร่า สกอร์ปิอัส และบุตรชาย อัสซาด ออราเรียส
โดยเป็นการนำตัวละครจากผังราชวงศ์เก่าใน SS1 มาปรับเซ็ตติ้งให้เข้ากับผังราชวงศ์ใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปใน SS2
โดยได้รับอนุญาตจากผู้เกี่ยวข้องทั้งสามฝ่าย ได้แก่ ผู้คุมประเทศสกอร์ปิโอใน SS1, ผู้คุมประเทศแอเรียสทั้ง SS1 และ SS2
รวมไปถึงสตาฟของคอมมูนิตี้ ToBss2
เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ผู้เล่น @Jenova_Bear เจ้าของตัวละครดั้งเดิมตั้งแต่ SS1 (อัสซาด ออราเรียส ป้อมอัศวิน รุ่น3)
ซึ่งเคยให้ความร่วมมือและมอบคำแนะนำในการจัดทำข้อมูลต่างๆแก่ผู้คุมประเทศทั้งใน SS1 และ SS2 เรื่อยมา ทั้งยังเป็น
กัลยาณมิตรของผู้เล่นหลายๆท่านในคอมมูนิตี้ของพวกเรามาอย่างยาวนาน
ซึ่งผู้เล่นท่านนี้ได้จากเราไปสู่ท้องทะเลตะวันออก เพื่อออกเดินทางไปพบกับเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเมื่อไม่นานมานี้
โดยการเพิ่มเติมในครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบกับประวัติตัวละครที่เป็นนักเรียนในคอมมูนิตี้ หรือประวัติศาสตร์อื่น
และความสัมพันธ์ทางการเมืองอื่นๆ รวมถึงไม่เปิดให้มีการโคประวัติเพิ่มเติมใดๆค่ะ
แต่หากตัวละคร npc ของผู้เล่น เป็นตัวละครที่มีสืบเนื่องมาตั้งแต่ SS1 ยังสามารถรับรู้ร่วมกันว่า 'อัสซาดยังอยู่'
และเขาจะอยู่กับพวกเราตรงนี้ตลอดไปค่ะ
ผู้เล่นที่จะลงตัวละครราชวงศ์สามารถเลือกดีไซน์รูปแบบรอยสักแมงป่องทมิฬได้ตามต้องการ
แต่จะขอให้ส่งให้ผู้ดูแลตรวจพร้อมประวัติ รวมถึงหากนำแบบมาจากอินเตอร์เน็ตจะขอให้แนบเครดิตที่มาทุกครั้ง
(หากไม่ได้แจ้งเอาไว้ก่อนและมีปัญหา จะขออนุญาตส่งเรื่องให้ทางสตาฟของคอมมูนิตี้ ToBss2 เป็นผู้ตัดสิน)
และขออนุญาตแจ้งว่า ในการติดต่อขอโคประวัติที่มียศเจ้าชาย / เจ้าหญิง ของสกอร์ปิโอนั้น
เพื่อความโปร่งใสจึงขอให้ติดต่อโคประวัติผ่านทางทวิต @ToBSS2_Eden เท่านั้นค่ะ
ในกรณีตำแหน่งญาติที่ไม่ใช่สายตรง และไม่แน่ใจว่ายังเข้าข่ายที่จะใช้ยศเจ้าชาย / เจ้าหญิงหรือไม่ ก็ขอให้ติดต่อผ่านทาง @ToBSS2_Eden ก่อนเป็นอันดับแรกเช่นกัน