เดิมสกอร์ปิโอเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยชนเผ่าต่างๆกระจัดกระจายไปตามแถบทะเล ผืนป่าและลุ่มแม่น้ำ ยุคที่ชนเผ่าต่างๆในดินแดนคาบสมุทรซิลวาน่ายังส่งลูกหลานทายาทของผู้นำเผ่าออกไปร่อนเร่หาประสบการณ์ในโลกกว้าง ผ่านมาระยะหนึ่งชนเผ่าที่อยู่ติดทะเลหรือ ‘เผ่าทะเล’ เริ่มมีความเจริญเหนือกว่าเผ่าอื่นจากการแลกเปลี่ยนสินค้าและวัฒนธรรมกับนานาประเทศ จึงเริ่มสร้างถิ่นฐานรุกคืบเข้ามาในพื้นที่ดินแดนป่าด้านในภาคพื้นทวีปมากขึ้น สร้างความแข็งแกร่งและใช้วิธีการรบเพื่อผนวกรวมอำนาจ ควบรวมเผ่าเล็กๆไปทีละเผ่า เมื่อเผ่าทะเลผนวกรวบรวมอำนาจมากพอ จึงตั้งตนเป็นผู้ปกครอง เริ่มเผยแพร่วิทยาการความเจริญที่ได้รับจากการติดต่อทางทะเล และศาสนาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลแก่ชนเผ่าใต้อาณัติ
ทว่าเผ่าทะเลไม่เข้าใจวิถีชีวิตของเผ่าผู้อยู่อาศัยกับผืนป่า ยัดเยียดวิถีชีวิตจากทะเลให้ผู้ใต้อาณัติรวมถึงผลักดันชนเผ่าเหล่านั้นให้ออกจากถิ่นฐานเดิม ทำให้เกิดความไม่พอใจต่อเผ่าที่เพิ่งถูกผนวกรวมอยู่ไม่น้อย หลายปีต่อมา เผ่าทะเลก็ได้กระทำเรื่องราวอันเป็นการดูหมิ่นหัวหน้าเผ่าผืนป่าเผ่าหนึ่งที่เรียกตนเองว่า ‘เผ่าสกอร์เปี้ยน’ แม้หัวหน้าเผ่าสกอร์เปี้ยนจะกัดฟันยอมรับความอดสูจากผู้มีอำนาจ ทว่าบุตรชายของเขาที่กลับมาจากการเร่ร่อนและได้ทราบความเป็นไปทั้งหมดไม่คิดจะยอมศิโรราบให้กับเผ่าแปลกหน้าในดินแดนบ้านเกิด เขาซ่องสุมกำลังพลที่ระดมมาทั้งจากเผ่าสกอร์เปี้ยนและเผ่าผืนป่าอื่นๆที่สะสมความไม่พอใจในเผ่าทะเลอย่างลับๆมายาวนานเพื่อปฏิบัติการยึดอำนาจจากเผ่าทะเล
ผ่านการรบที่ยากลำบากในที่ลับและที่แจ้งหลายสมรภูมิ ในที่สุดเผ่าสกอร์เปี้ยนก็สามารถปฏิวัติล้มล้างการปกครองได้สำเร็จด้วยกลยุทธ์ลอบโจมตี โดยอาศัยความได้เปรียบทางภูมิประเทศในป่า โดยผู้นำสูงสุดของเผ่าทะเลถูกบุตรสาวของหัวหน้าเผ่าสกอร์เปี้ยนปลิดชีพในห้องนอน กล่าวกันว่านางสังหารผู้นำเผ่าทะเลด้วยเข็มอาบพิษแมงป่องทมิฬอันเป็นอาวุธลับของเผ่า รากฐานแรกของสกอร์ปิโอได้ก่อกำเนิดขึ้นในวันนั้น
ผู้นำคนใหม่แห่งสกอร์ปิโอตระหนักได้ถึงความสำคัญของทะเล จึงไม่คิดละเลยวิทยาการเผ่าทะเลและนำมาปรับใช้ให้เข้ากับวิถีเผ่าตน โดยให้ชนเผ่าทะเลที่ตกเป็นเบี้ยล่างเป็นผู้ช่วยถ่ายทอดความรู้ หากใครมีท่าทีกระด้างกระเดื่อง สามารถสังหารทิ้งโดยไม่ต้องไต่สวน มีเผ่าทะเลบางส่วนหนีรอดไปได้ ผันตัวเป็นโจรสลัดคอยซุ่มโจมตีจากทะเล รอคอยวันทวงอำนาจคืน
ต่อมาภายหลัง สกอร์ปิโอเริ่มมีความมั่นคงมากขึ้น เผ่าสกอร์เปี้ยนจึงสถาปนาดินแดนขึ้นเป็นราชอาณาจักรสกอร์ปิโอโดยตั้งชื่อประเทศจากชื่อเผ่า มีบุตรแห่งเผ่าสกอร์เปี้ยนเป็นปฐมราชา ผู้อาวุโสจากเผ่าผืนป่าอื่นๆถูกจัดตั้งขึ้นเป็นสภาที่ปรึกษา และสถาปนาหนึ่งในเมืองท่าหลักอันเป็นเมืองสำคัญต่อเศรษฐกิจและการคมนาคมทางทะเลของสกอร์ปิโอเป็นเมืองหลวง
เมื่อระยะเวลาผ่านไป เมื่อวิถีชีวิตของผู้คนเริ่มเปลี่ยนเป็นวิถีชีวิตชาวน้ำ พวกเขาส่วนมากก็เริ่มออกห่างจากผืนป่ามาอยู่ติดทะเล เนื่องเพราะเมืองใหญ่ที่มีความเจริญล้วนเป็นเมืองท่าทั้งสิ้น ชาวสกอร์ปิโอเริ่มเปลี่ยนมาบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเป็นหลักและค่อยๆห่างหายจากวิถีชีวิตแห่งป่า เหลือเพียงเผ่าผืนป่าบางส่วนที่เมื่อรับองค์ความรู้จากเผ่าทะเลมาแล้วก็ยังคงดำรงตนเป็นผู้รักษาผืนป่า ผสมผสานวิถีชีวิตของทั้งสองเผ่าเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน
ลูกหลานเผ่าทะเลที่แยกตัวออกไปเป็นโจรสลัดบุกโจมตีเมืองหลายครั้งและหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงต่างเดือดร้อนจากการโดนปล้น และเมื่อเมืองท่าเป็นเมืองท่าที่ไม่ปลอดภัย นักเดินเรือก็ไม่อยากสัญจรแวะเวียนมาหยุดพัก ชาวประมงก็หวาดกลัวการออกทะเล ส่งผลต่อเศรษฐกิจในฐานะประเทศเมืองท่าและเมืองประมง สภาพสังคมเกิดความวุ่นวายอย่างหนัก
ในที่สุดกษัตริย์ในยุคนั้นจึงตัดสินพระทัยจะแก้ปัญหาด้วยพระองค์เอง ทรงโปรดให้มีการปฏิรูปกองทัพ จัดระเบียบกำลังพล การเกณฑ์และการฝึกทหารใหม่ตั้งแต่ต้น รวบอำนาจบัญชาการจากกองทัพภูมิภาคแต่เดิมที่มีความอ่อนแอเข้าสู่ศูนย์กลางและแบ่งสันอำนาจในการบัญชาการกำลังพลเสียใหม่ สกอร์ปิโอเริ่มก้าวเข้าสู่การปกครองในลักษณะของรัฐนิยมทหารอย่างเป็นทางการ ใช้เวลาสองรัชกาลในการเปลี่ยนแปลงกองทัพจนถึงราก ในที่สุดกษัตริย์สกอร์ปิโอในฐานะจอมทัพได้บัญชาการทัพราชนาวีออกปราบปรามโจรสลัดเป็นเวลากว่าหนึ่งทศวรรษ จากการรบทางทะเลอันยาวนานนี้ทำให้ทัพราชนาวีของสกอร์ปิโอได้สั่งสมประสบการณ์ทางการรบและกลายเป็นกองทัพที่ทรงอานุภาพที่สุดในกองทัพทั้งหมดของสกอร์ปิโอมาจนปัจจุบัน
ในที่สุดราชนาวีก็ได้รับชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จด้วยการทำลายฐานที่มั่นโจรสลัดจนแตกพ่าย ขับไล่โจรสลัดออกจากน่านน้ำและสร้างเส้นทางเดินเรือปลอดโจรเพื่อปกป้องประชาชนและเพื่อการสัญจรที่ราบรื่นในฐานะประเทศเมืองท่า มีการตรากฎหมายเพื่อลงโทษโจรสลัดที่ถูกจับ โดยจะถูกนำไปตัดหัวเสียบประจานกลางลานประหารในเมืองต่อหน้าประชาชนเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง นับตั้งแต่นั้นกษัตริย์แห่งสกอร์ปิโอจึงมักควบตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดแห่งทัพราชนาวี และรัชทายาทเองก็ต้องศึกษาเรื่องการเดินทัพออกรบทางทะเล ทำให้กองทัพเรือมีอิทธิพลมากในประเทศนี้ ส่งผลให้ราชนาวีของสกอร์ปิโอถือเป็นทัพเรือที่น่ายำเกรง
Timeline ประวัติศาสตร์ของสกอร์ปิโอ
A.D. 280
เผ่าทะเลที่ร่อนเร่มาจากถิ่นฐานบ้านเกิดตั้งรกรากถิ่นฐานที่คาบสมุทรซิลวาน่า มีการปะทะกันประปรายกับเผ่าแห่งผืนป่าที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ความที่เผ่าแห่งผืนป่าที่ตั้งถิ่นฐานมาแต่เดิมเชี่ยวชาญสภาพพื้นที่มากกว่า เลยทำให้เผ่าทะเลสามารถอยู่กันได้เฉพาะตามชายฝั่ง
A.D. 332
เผ่าทะเลเล็กๆตามชายฝั่งเริ่มผูกสัมพันธไมตรีกัน ความที่วัฒนธรรมความเชื่อคล้ายคลึงกัน แม้ต่างเผ่าต่างเรียกขานด้วยต่างนาม แต่ก็ถือว่านับถือเทพเจ้าองค์เดียวกัน--ไม่นานเผ่าต่างๆ จึงเข้ามารวมกันกลายเป็นเผ่าใหญ่ หล่อหลอมเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งภายใต้พรของเทพเจ้าแห่งทะเลนาม โอเคียนอส
หมู่บ้านของเผ่าทะเลต่างๆ เริ่มขยายตัวและพัฒนาเป็นเมืองท่า เนื่องจากมามารถไปมาหาสู่กันได้สะดวกรวดเร็วกว่าการเดินทางทางบก
A.D. 353
เหล่าเผ่าแห่งผืนป่าผู้นับถือเทพารักษ์เซลวาทานัสเริ่มถูกกดดันจากอิทธิพลของเผ่าทะเล ค่อยๆถอยร่นลึกเข้าไปในคาบสมุทรซิลวาน่า
A.D. 402
เผ่าทะเลผู้ยิ่งใหญ่แห่งคาบสมุทรซิลวาน่าแผ่ขยายอิทธิพลเข้าสู่ภาคพื้นทวีป รุกรานเผ่าแห่งผืนป่าเล็กๆที่อยู่กันอย่างกระจัดกระจาย กลืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าทะเลที่ทีละแห่ง เรียกอาณาจักรของตนเองตามนามของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เป็นนามว่า “โอเคียนัส”
A.D. 414
เผ่าสกอร์เปี้ยนรวบรวมเผ่าผืนป่า เป็นผู้นำล้มล้างการปกครองจากเผ่าทะเล หลังจากการรบติดพันนานหลายเดือนก็สามารถสังหารผู้นำแห่งเผ่าทะเล ยึดอำนาจได้สำเร็จ
A.D. 416
รวมอำนาจก่อตั้งประเทศในนามสกอร์ปิโอ มีบุตรแห่งเผ่าสกอร์เปี้ยนขึ้นครองบัลลังก์เป็นปฐมราชา
A.D. 441
หลังการปะทะกันตามชายแดนและน่านน้ำ กษัตริย์สกอร์ปิโอทรงประกาศสงครามเริ่มต้นสงครามกวาดล้างเผ่าทะเลอย่างเป็นทางการ
A.D. 549
เผ่าทะเลจากสกอร์ปิโอที่ยังเหลือบนฝั่งแผ่นดินใหญ่กำลังหาที่มั่นใหม่หลังถอยร่นขึ้นเหนือเข้าสู่เขตแดนของกิลดิเรก เมื่อหาจุดลงหลักปักฐานได้ก็ยึดพื้นที่ริมทะเลแถบนั้นแล้วแล้วปักหลักแผ่ศาสนาเข้าไปในแผ่นดิน ได้พบกับรัชทายาทของเอเธนส์ที่พาศาสนาของตนลงมาทางใต้จึงเกิดความขัดแย้งกัน ลามไปเป็นความขัดแย้งระหว่างกองทัพที่ทัพเรือสกอร์ปิโอตามรุกไล่กองเรือเผ่าทะเลและเอเธนส์ที่กล่าวโทษรวมว่าเผ่าทะเลคือทัพสกอร์ปิโอจงใจทำร้ายรัชทายาท รวมอำนาจก่อตั้งประเทศในนามสกอร์ปิโอ มีบุตรแห่งเผ่าสกอร์เปี้ยนขึ้นครองบัลลังก์เป็นปฐมราชา
A.D. 621
สงครามศาสนาที่เริ่มต้นจากกิลดิเรกรุนแรงมากขึ้น นอกจากทำสงครามกับทั้งคาโนวาลและสกอร์ปิโอแล้วก็ยังสู้รบกับเผ่าทะเลที่ยังอยู่บนชายฝั่งทางเหนือ กองทัพของสกอร์ปิโอเองก็รุกไล่กดดันเผ่าทะเลที่ถอยร่นกลับมาไม่ให้เข้ามาในดินแดนของตนมากไปกว่านี้ ในที่สุดแล้วก็ยึดดินแดนส่วนหนึ่งของกิลดิเรกผนวกเข้ากับสกอร์ปิโอทางภาคเหนือ ส่วนฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือก็คุมเชิงกับคาโนวาลที่ยึดพื้นที่จากกิลดิเรกไปก่อนหน้านี้
A.D. 675
สามารถขับไล่เผ่าทะเลที่ต่อต้านการปกครองของราชวงศ์สกอร์ปิอัสจากภาคพื้นทวีปได้ในที่สุด เผ่าทะเลที่เหลือหนีไปอยู่ตามเกาะต่างๆและตั้งตัวเป็นโจรสลัด
เข้าสู่ยุคสงครามระหว่างราชนาวี-โจรสลัดอย่างเต็มตัว
A.D. 708
การต่อสู้ระหว่างกองเรือหลวงของสกอร์ปิโอยังคงถูกกดดันจากกองเรือของโจรสลัดเผ่าทะเลจนเพลี่ยงพล้ำหลายครั้งเพราะขาดความชำนาญและการฝึกฝน
ในที่สุดกษัตริย์สกอร์ปิโอจึงทรงประกาศให้มีการปฏิรูปกองทัพเรือและระบบต่างๆเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการกวาดล้างโจรสลัด กองเรือหลวงพิทักษ์นครากลายเป็นจุดเริ่มต้นของราชนาวีแห่งสกอร์ปิโออันเกรียงไกร
A.D. 744
ได้รับชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จในสงครามทำลายฐานที่มั่นโจรสลัดจนแตกพ่าย ขับไล่โจรสลัดออกจากน่านน้ำและสร้างเส้นทางเดินเรือปลอดโจรเพื่อปกป้องประชาชนและเพื่อการสัญจรที่ราบรื่นในฐานะประเทศเมืองท่า
A.D. 745
สกอร์ปิโอเร่งปรับความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆที่เคยได้รับผลกระทบระหว่างช่วงสงครามราชนาวีกับโจรสลัด และกลับมาเชื่อสัมพันธไมตรีกับประเทศห่างไกล เมืองท่าใหญ่ทุกเมืองของสกอร์ปิโอประกาศยกเว้นภาษีเป็นเวลาสิบปี
A.D. 762
ก่อตั้งสถาบันวิจัยแห่งราชนาวี
A.D. 802
ประกาศตั้งสถานศึกษาชั้นต้นทั่วทุกหัวเมืองใหญ่ ให้ลูกหลานทุกคนสามารถเข้าเรียนได้ตามความสมัครใจ
A.D. 816
ก่อตั้งโรงเรียนนักเดินเรือ (ภายหลังเปลี่ยนเป็นวิทยาลัยการเดินเรือ)
A.D. 820
ก่อตั้งกลุ่มช่างฝีมือ (ภายหลังกลายเป็นสภาช่างฝีมือแห่งสกอร์ปิโอ)
A.D. 845
ทำแผนที่ทางทะเลในน่านน้ำของสกอร์ปิโอสำเร็จสมบูรณ์
A.D. 897
เรียกระดมพลนักฝึกมังกรสมุทรจากทั่วประเทศเพื่อกำหนดแนวทางร่วมกันในการดูแลมังกรสมุทร เป็นที่มาของการก่อตั้งสถาบันมังกรสมุทรศาสตร์
A.D. 933
ยกระดับหน่วยราชองครักษ์เป็นกองราชวัลลภ ปฏิรูปการคัดสรรบุคลากรเข้าหน่วยงานให้มีความเข้มข้น คัดกรองจนกว่าจะเหลือเพียงนายทหารระดับหัวกะทิ
A.D. 942
เปลี่ยนแปลงระบบภายในกองทัพหลวง เพื่อสร้างความเข้มแข็งภายในกองทัพให้สมกับที่เคยเป็นกองทัพปฏิวัติภายใต้การบัญชาการของเผ่าสกอร์เปี้ยนอีกครั้ง
A.D. 1072
อุบัติเหตุทางเรือครั้งใหญ่ของเจ้าชายเอแดร์และเจ้าชายแอ็กนาร์ ซึ่งได้พรากชีวิตของเจ้าชายเอแดร์ผู้เป็นรัชทายาทในขณะนั้นไป ตามมาด้วยการประท้วงการแต่งตั้งเจ้าชายแอ็กนาร์ผู้อนุชาขึ้นเป็นรัชทายาทแทนของตระกูลพาเรลมิดรอส ตระกูลเดิมของชายาเจ้าชายเอแดร์ผู้ล่วงลับ และการพยายามก่อความวุ่นวายโดยมีจุดเริ่มต้นจากพัลนาเรีย ที่ดินศักดินาของตระกูลพาเรลมิดรอสทางภาคตะวันตก
ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายทางการเมืองตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา
A.D. 1093
เหตุอุทกภัยในภาคกลางและภาคตะวันออก มีการตรวจพบว่าการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนล่าช้าเพราะมีการทุจริตเงินงบประมาณ ข้าราชการหลายสิบคนถูกลงโทษตั้งแต่ถูกลดขั้น ปลดจากราชการ จองจำ ไปจนกระทั่งประหารชีวิต
A.D. 1094
กษัตริย์อเลซัส สกอร์ปิอัสขึ้นครองราชย์ ส่งเสริมให้มีการพัฒนาระบบการศึกษาให้เข้มแข็ง
A.D. 1120
อุทกภัยใหญ่ในภาคกลางและภาคตะวันออก
A.D. 1122
------------ปีปัจจุบัน (เริ่มต้นคอมมู)------------
ติดตามอัพเดทสถานการณ์ปัจจุบันได้ที่หน้า A.D. 1122 และต่อจากนั้น