ค่าเฉลี่ยเลขคณิต เป็นค่ากลางที่ใช้กับข้อมูลเชิงปริมาณเท่านั้น ซึ่งเป็นค่ากลางที่นิยมใช้และน่าเชื่อถือมากกว่ามัธยฐาน และฐานนิยม เนื่องจากใช้ข้อมูลทุกตัวในการคำนวณ แต่ข้อมูลชุดนั้นต้องไม่มีข้อมูลต่ำกว่า หรือสูงกว่าข้อมูลอื่นอย่างผิดปกติ
มัธยฐาน เป็นค่ากลางที่ใช้กับข้อมูลเชิงปริมาณเท่านั้น สามารถใช้กับข้อมูลที่มีค่าต่ำกว่า หรือสูงกว่าข้อมูลอื่นอย่างผิดปกติ
ฐานนิยม เป็นค่ากลางที่ใช้กับข้อมูลเชิงปริมาณและข้อมูลเชิงคุณภาพ ซึ่งข้อมูลบางชุดอาจมีฐานนิยมมากกว่า หนึ่งค่า หรือข้อมูลบางชุดอาจไม่มีฐานนิยม
ตัวชี้วัด
ค 3.1 ม.6/1 เข้าใจและใช้ความรู้ทางสถิติในการนำเสนอข้อมูล และแปลความหมายของค่าสถิติเพื่อประกอบการตัดสินใจ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนสามารถบอกความแตกต่างของค่ากลางชนิดต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับข้อมูลได้
2. นักเรียนสามารถเขียนแสดงการหาคำตอบเกี่ยวกับค่าเฉลี่ยเลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยมได้
สาระการเรียนรู้
การหาค่ากลาง (ฐานนิยม มัธยฐาน ค่าเฉลี่ยเลขคณิต)
ทบทวนความรู้ เรื่อง ค่าเฉลี่ยเลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยม
ข้อมูลคะแนนสอบของนักเรียนกลุ่มหนึ่ง เป็นดังนี้ 14 16 17 17 19 21 22 ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลชุดนี้มีค่าเท่าใด
18 คะแนน
ข้อมูลคะแนนสอบของนักเรียนกลุ่มหนึ่ง เป็นดังนี้ 14 16 17 17 19 21 22 มัธยฐานของข้อมูลชุดนี้มีค่าเท่าใด
17 คะแนน
ข้อมูลคะแนนสอบของนักเรียนกลุ่มหนึ่ง เป็นดังนี้ 14 16 17 17 19 21 22 ฐานนิยมของข้อมูลชุดนี้มีค่าเท่าใด
17 คะแนน
ถ้าครูบันทึกข้อมูลผิดไป 1 ค่า คือ 17 แต่ค่าที่ถูกต้องคือ 18 นักเรียนคิดว่า ฐานนิยมของข้อมูลชุดใหม่เป็นเท่าใด
ไม่มีฐานนิยม
กิจกรรมพัฒนาทักษะการคิดคำนวณและบูรณาการ
ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมนักสำรวจข้อมูลของเพื่อนร่วมชั้น โดยกำหนด 1 กลุ่มต่อ 1 หัวข้อ ดังนี้
· คะแนนสอบกลางภาควิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน 5
· จำนวนแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ
· ความยาวของนิ้วโป้งมือซ้าย (เซนติเมตร)
· ความยาวของใบหูด้านขวา (เซนติเมตร)
· ขนาดรองเท้านักเรียน
· ค่าขนมที่นำมาโรงเรียน
แต่ละกลุ่มนำข้อมูลที่เก็บรวมรวมได้มาหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยม พร้อมออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยใช้โปรแกรม PowerPoint Canva หรืออื่น ๆ ตามที่นักเรียนมีความรู้พื้นฐาน
สรุปความรู้ที่ได้จากกิจกรรม
1) ค่าเฉลี่ยเลขคณิต เป็นค่ากลางที่ใช้กับข้อมูลเชิงปริมาณเท่านั้น ซึ่งเป็นค่ากลางที่นิยมใช้และน่าเชื่อถือมากกว่ามัธยฐาน และฐานนิยม เนื่องจากใช้ข้อมูลทุกตัวมาคำนวณหาค่า แต่ข้อมูลชุดนั้นจะต้องไม่มีข้อมูลต่ำกว่า หรือสูงกว่าข้อมูลอื่นอย่างผิดปกติ
2) มัธยฐาน เป็นค่ากลางที่ใช้กับข้อมูลเชิงปริมาณเท่านั้น สามารถใช้กับข้อมูลที่มีค่าต่ำกว่า หรือสูงกว่าข้อมูลอื่นอย่างผิดปกติ ถ้าข้อมูลเป็นจำนวนคี่ แล้วมัธยฐานที่ได้จะเป็นค่าใดค่าหนึ่งของข้อมูลชุดนั้น แต่ถ้าข้อมูลเป็นจำนวนคู่ แล้วมัธยฐานอาจไม่ใช่ค่าใดค่าหนึ่งของข้อมูลชุดนั้น
3) ฐานนิยม เป็นค่ากลางที่ใช้กับข้อมูลเชิงปริมาณและข้อมูลเชิงคุณภาพ ซึ่งฐานนิยมของข้อมูลบางชุดอาจมีมากกว่าหนึ่งค่า หรือข้อมูลบางชุดอาจไม่มีฐานนิยม