วัดกากแก้ว
วัดกากแก้ว
วัดกากแก้วเป็นวัดร้าง สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 20 เดิมตั้งอยู่ริมคูเมืองเดิมในเขลางค์ ยุคที่ 1 ปัจจุบันอยู่ใกล้กับที่ทำการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือบน ถนนวังเหนือ หรือถนนสายวัฒนธรรม อยู่ในชุมชนศรีล้อม – แสงเมืองมา วัดนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กู่เจ้าย่าสุตา แท้ที่จริงแล้วจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชนเล่าว่าเดิมวัดนี้มีแม่ชี 2 ตน เป็นพี่น้องกันชื่อ สุตา และสุนา มาบวชและจำพรรษาอยู่ที่วัดกากแก้ว จนถึงแก่กรรมจึงได้สร้างสถูปเก็บกระดูกไว้ที่ข้างต้นโพธิ์ภายในวัด เพื่อระลึกถึงคุณงานความดีที่ได้ปฏิบัติทำนุบำรุงพุทธศาสนา ชาวบ้านจึงเรียกว่า กู่เจ้าย่าสุตา เป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวบ้าน จนถึงปัจจุบัน
นอกจากศาลกู่เจ้าย่าสุตาแล้ว ในวัดนี้ยังมี ซุ้มประตูโขงที่ยังคงสภาพเหลืออยู่ ซุ้มประตูโขง เป็นรูปแบบศิลปะของล้านนาที่งดงาม โดยมีทรวดทรงและลวดลายประดับเป็นศิลปะเชียงใหม่ตรงกับรัชสมัยหลังพระพญา-ติโลกราชลงมาเล็กน้อย โขงประตูมีขนาดใหญ่ น่าจะเป็นประตูสู่พุทธาวาส หรือเข้าสู่บริเวณวัด (จากหลักฐานหนังสือประติมากรรม เทวดา และกินนรีแห่งล้านนา โดยนายแพทย์เฉลียว ปิยะชน) คาดว่าจะได้รับอิทธิพลมาจากปูนปั้นรูปเทวดาประดับผนังวิหารวัดเจ็ดยอดช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 20
วัดกากแก้วนี้เทศบาลนครลำปาง ร่วมกับชาวบ้านได้ทอดผ้าป่าหาเงินเข้าช่วยสนับสนุนกรมศิลปากร เมื่อปี พ.ศ. 2553 ได้ทำการขุดค้นพบหลักฐานว่าวัดนี้ก่อสร้างโดยวางผังให้หันหน้าไปทางทิศใต้ของแม่น้ำวัง พบวิหารซึ่งมีการสร้างและบุรณะปฏิสังขรณ์อย่างน้อย 2 สมัย มีทางเดินเชื่อมมาจากซุ้มประตูโขงเข้าไป พบเจดีย์อยู่ทางทิศเหนือ อุโบสถอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของวิหาร กำหนดอายุจากลวดลายปูนปั้น ลายประดับซุ้มประตูโขง และโบราณวัตถุที่ได้จากการขุดค้นพบ สันนิษฐานว่า วัดกากแก้ว สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 20 – 21 เป็นต้นมา
โบราณสถานวัดกากแก้วแห่งนี้ ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียน และกำหนดขอบเขตเป็นโบราณสถานแห่งชาติในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 92 ตอนที่ 163 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2523