ในปีนี้จัดขึ้นที่บ้านสกาดเหนือ ในช่วงระหว่างวันที่ ๖ - ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา
ประเพณีกินโสลดหรือตีพิ เป็นประเพณีของชาวลัวะที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการเลี้ยงขวัญข้าว เลี้ยงผีประจำหมู่บ้าน ในช่วงหลังการเพาะปลูกพืชไร่ เป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืน ซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านหยุดพัก และเป็นช่วงฤดูฝน โดยตำบลสกาดแบ่งออกเป็น บ้านสกาดเหนือ บ้านสกาดกลาง(รวมบ้านภูกอก) และบ้านสกาดใต้ จัดหมุนเวียนกัน ๓ ปี
ชาวลัวะในจังหวัดน่าน มีเครื่องดนตรีประจำเผ่า เป็นเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ไผ่ ชาวลัวะกลุ่มปรัย เรียกเครื่องดนตรีว่า "เประห์" และชาวลัวะกลุ่มมัล เรียกว่า "ปิอ์" หรือที่คนเมืองเรียกว่า "พิ" บ้านสกาดจะเรียกไม้ไผ่ชนิดนี้ว่า "ไม้เฮียะ"ซึ่ง พิ ที่เป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะร่ายรำนี้จะถูกทำขึ้นและเล่นเฉพาะในงานโสลดเท่านั้น
วันแรกของประเพณีกินโสลดหรือตีพิ ผู้เป็น "ข้าวจ้ำ" หรือหมอผีจะเป็นผู้กำหนดวันในการไปเอาพิในป่าเพื่อนำมาทำเครื่องดนตรีประกอบในพิธีกรรม ซึ่งถือเป็นวันเริ่มต้นของประเพณี
การแห่พิ ในขบวนจะมี "ข้าวจ้ำ" เดินนำหน้าขบวนชาวบ้านที่แต่งชุดร่ายรำประกอบพิธี และท้ายขบวนจะมี "ผีโก๋น"(ปิ๊อ์โก๋น) ซึ่งเชื่อว่ามีลักษณะคล้ายผี และห้ามใครเห็นหน้าหรือรู้จักเด็ดขาด (ลักษณะคล้ายผีตาโขนจังหวัดเลย) ผีโก๋น ตามความเชื่ออีกอย่างหนึ่ง คือ เป็นตัวแทนของผีประจำตระกูลทั้งสี่และตระกูลอื่นๆในละแวกนั้น หรือผีป่าที่มาร่วมงาน ซึ่งส่วนมากผีโก๋นนี้ชายจะแต่งเป็นหญิง ในการเดินขบวนนั้นถ้าข้าวจ้ำหยุดตรงไหนของหมู่บ้าน ขบวนจะหยุดด้วยและมีการตีพิร่ายรำ หลังจากนั้นจะมีการประกอบพิธีกินโสลด และจะนำพิทั้งหมดมารวมกัน โดยชาวบ้านบางส่วนออกไปยังบ้านเรือนต่างๆเพื่อตีพิ สะพายถุงย่ามและขอข้าวป๋วง โดยตะโกนว่า "พวางฮ์" ชาวบ้านที่อยู่ตามบ้านเรือนก็จะมอบข้าวป๋วงที่ห่อเตรียมไว้ พร้อมน้ำดื่ม เมี่ยง หรือสุราพื้นบ้าน
เมื่อชาวบ้านที่ออกตีพิรับของที่ได้จากบ้านเรือนต่างๆแล้ว จะนำมารวมกันที่บ้านพิพร้อมกับนำพิเข้าบ้าน หลังจากนั้นหมอผีจะทำพิธีเลี้ยงผีพิและขวัญข้าว โดยจะนำขนมข้าวป๋วงที่ได้มาเซ่นบูชา เมื่อเสร็จพิธีก็จะนำแจกจ่ายให้หมอผีหรือข้าวจ้ำเสียก่อน และจึงแจกจ่ายให้ชาวบ้าน ซึ่งมีความเชื่อว่าหากกินแล้วจะเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว
บ้างก็จะนำไว้ในยุ้งข้าวด้วยเชื่อว่าจะมีข้าวปลาอาหารการกินตลอดทั้งปี บ้างก็นำไปไว้ในไร่ข้าวซึ่งเชื่อกันว่าจะมีผลผลิตงอกงาม และยังเชื่อว่าจะสามารถไล่นกหนู หรือแมลงต่างๆไม่ให้กัดกินและทำให้ข้าวเสียหายอีกด้วย ส่วนพิที่นำมากองรวมกันไว้นั้นเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนจะมีการฆ่าพิ (ทำลายพิ) ตามประเพณีดั้งเดิม
แหล่งข้อมูล : เพจ ททท.สำนักงานน่าน, เพจ เสน่ห์น่านวันนี้, เพจ Nan national Museum พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน