ทำไมใบหน้าของเราถึงดูหมองคล้ำไม่สดใส บำรุงยังไงหน้าก็ไม่ขาวใสขึ้นสักที วันนี้เรามีวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ผิวหน้าใสและเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติมาฝากกัน แต่ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าสาเหตุที่ผิวของเราหมองคล้ำเกิดจากอะไรได้บ้าง มีวิธีการแก้ไขและป้องกันได้อย่างไร ไปดูกันเลย
สาเหตุที่ 1 แสงแดด และมลภาวะ : แสงแดดมีทั้งรังสี UVA/UVB ที่ทำลายเซลล์ผิว และทำให้ผิวหมองคล้ำ ควรหมั่นทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เท่านี้ก็จะช่วยทำให้ผิวหน้าใสขึ้นได้
สาเหตุที่ 2 เครื่องสำอาง : เครื่องสำอางอาจจะทำให้สาว ๆ ดูสวยและมั่นใจมากขึ้นก็จริง แต่ถ้าใช้แล้วไม่ล้างออกให้สะอาด ก็จะส่งผลให้ผิวหน้าหมองคล้ำสะสมได้
สาเหตุที่ 3 คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน : เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้เช่นกัน นั่นก็เพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและรังสี UVA ที่ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับแสงของหน้าจอ เป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าหมองลงได้
เมื่อรู้ถึงสาเหตุกันไปแล้ว เรามาดูวิธีทำให้หน้าใสกันบ้างดีกว่า ซึ่งวิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำได้อย่างตรงจุด และได้ผลลัพธ์เร็วทันใจอย่างแน่นอน โดยมีวิธีดังนี้
ดูแลรักษาความสะอาดทั้งผิวหน้าและสิ่งที่สัมผัสกับผิวหน้า การทำความสะอาดผิวหน้าและใบหน้าของเราถือเป็นส่วนที่บอบบางมาก จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการล้างหน้าให้สะอาดถือเป็นวิธีทำให้ใบหน้าใสและขาวเนียนขึ้นได้ เพราะแต่ละวันเราต้องเผชิญกับมลภาวะต่าง ๆ อีกทั้งเมคอัพก็เป็นสาเหตุของการอุดตันรูขุมขน และการสะสมสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่บนใบหน้า ถ้าหน้าไม่สะอาดก็อาจทำให้เกิดสิ่งตกค้างสะสมในชั้นผิว ทำให้ใบหน้าแลดูไม่สดใสได้
การทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าหรือฟองน้ำแต่งหน้า โดยเป็นแหล่งที่สะสมสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวอักเสบตามมาได้ ดังนั้นจึงควรล้างแปรงแต่งหน้าทุกสองหรือสามสัปดาห์ และทำความสะอาดฟองน้ำแต่งหน้าสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
หมั่นล้างมือให้สะอาดใน 1 วัน เพราะมือของเราต้องสัมผัสกับสิ่งสกปรกและแบคทีเรียต่าง ๆ มากมาย ในบางทีเราก็อาจเผลอมาสัมผัสกับใบหน้าโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นวิธีป้องกันง่าย ๆ เลยก็คือ ควรหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาผิวตามมาภายหลังค่ะ
ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน การทาครีมกันแดดเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการยืดอายุผิวให้สดใสและดูอ่อนเยาว์ คุณรู้หรือไม่ว่า 90% ของริ้วรอยมาจากแสงแดด ดังนั้นการป้องกันความเสียหายจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะมานั่งแก้ไขในภายหลัง
สครับผิวอย่างอ่อนโยน การสครับผิวเป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการหมองคล้ำของผิว และยังช่วยกระชับรูขุมขน เพราะรูขุมขนที่มีขนาดใหญ่จะเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกอย่างเช่น น้ำมันส่วนเกิน, เซลล์ผิวที่ตายแล้วและเคราติน แต่ต้องทำอย่างอ่อนโยนและเบามือ หากทำแรงเกินไปจะทำให้ผิวระคายเคืองได้ ควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง นอกจากการดูแลผิวแล้ว การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเหมาะกับสภาพผิวพรรณก็ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ถ้าอยากมีผิวหน้าขาวใส แนะนำเลือกใช้ครีมบำรุงผิวประเภทที่มีไวท์เทนนิ่งเป็นหลัก อาจจะมีวิตามินซีหรือ AHA จากธรรมชาติเพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิวและลดเลือนเม็ดสีคล้ำให้จางลง แถมยังทำให้ผิวหน้าค่อย ๆ ขาวใสขึ้นได้ การทาครีมบำรุงที่มีคุณสมบัติเหล่านี้เป็นประจำทุกวันเช้า-เย็น เพื่อบำรุงผิวอย่างมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงการใช้สารอันตรายซึ่งจะทำให้ผิวหน้าถูกทำร้าย และอาจทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาภายหลัง
พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้าพักผ่อนไม่เพียงพอจะส่งผลให้ใต้ตาคล้ำ ผิวหมองไม่สดใส ร่างกายทรุดโทรม ช่วงเวลา 4 ทุ่ม จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ผิวจะได้รับการซ่อมแซมตัวเอง แถมยังเป็นช่วงที่ร่างกายสามารถผลิตฮอร์โมนที่ทำให้อ่อนเยาว์ออกมาได้อย่างเต็มที่ โดยเฉลี่ยแล้วควรนอนให้ได้วันละ 8 ชั่วโมง
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส มีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น โดยการออกกำลังกายควรทำเป็นประจำวันละ 30 นาที ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ไม่ว่าจะออกกำลังกายง่าย ๆ อย่างการทำงานบ้าน หรือใครอยากเข้าฟิตเนสก็ได้เช่นกัน
ดื่มน้ำให้มาก ๆ การดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ก็สามารถช่วยขจัดของเสียออกจากร่างกายได้ และช่วยให้ผิวพรรณมีความชุ่มชื้นขึ้น ดูเปล่งปลั่ง สดใสขึ้นอีกด้วย
รับประทานอาหารที่มีวิตามินซี เป็นหนึ่งในวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย เนื่องจากมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยบำรุงผิวพรรณทั้งผิวกายและผิวหน้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์มีความเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น โดยเราสามารถหาวิตามินซีได้จากพืชผักผลไม้ทั่วไป ก็ช่วยให้ใบหน้าสดใสห่างไกลความหมองคล้ำได้
คำเตือนสำหรับสาว ๆ ที่อยากมีผิวหน้าใสอย่างเร่งด่วน รู้หรือไม่ว่าสารในผลิตภัณฑ์อาจทำให้ผิวขาวเร็ว แต่เป็นอันตรายมาก
ปรอทแอมโมเนีย ลดการสร้างเม็ดสีผิว ส่งผลให้ผิวขาวขึ้น แต่เป็นพิษต่อระบบประสาท ไต เยื่อบุทางเดินหายใจ เมื่อใช้เป็นเวลานาน ๆ พิษของปรอทแอมโมเนียจะสะสมในผิวหนัง ดูดซึมเข้ากระแสเลือด ทำให้ไตและตับเกิดการอักเสบ โลหิตจาง ผิวบาง
กรดวิตามินเอ ช่วยให้เซล์ผิวหนังหลุดออก ลดสิวเสี้ยน แต่มีผลทำให้ผิวแดง เกิดการแสบร้อนรุนแรง ผิวไวต่อแสงแดดและแสงไฟ ผิวระคายเคืองและเกิดการอักเสบ
ไฮโดรควิโนน สารตัวนี้ช่วยฟอกสีผิว ส่งผลให้ผิวขาวอย่างรวดเร็ว แต่เกิดการระคายเคือง มีจุดด่างขาวที่ผิวซึ่งอาจทำให้เกิดเป็นฝ้าถาวรรักษาไม่หาย
สารอันตรายเหล่านี้อาจจะเห็นผลดีในช่วงแรก ๆ แต่ระวังผลเสียที่จะตามมากันนะคะ ดังนั้นสาว ๆ ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และสำหรับท่านใดที่มีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำมาก ๆ อยากปรับให้ผิวเนียนใสขึ้นอย่างรวดเร็วทันใจ คอร์สทำหน้าใส ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีความปลอดภัยเพราะให้บริการโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ ทำให้หนุ่ม ๆ สาว ๆ ในยุคสมัยนี้ต่างให้ความสนใจเข้ารับบริการกันอย่างมากมาย แต่อย่างไรก็ดี คุณควรทำการศึกษาให้เข้าใจก่อนเข้ารับบริการใด ๆ กันด้วยนะคะ