เครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย ( Safety Signs )
มาตรฐาน IOS 3864 กำหนดรูปเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัยเป็น 3 แบบ ให้มีความหมายสัมพันกับการใช้สี คือ วงกลม หมายถึง การห้ามและข้อบังคับ 3 เหลี่ม หมายถึง การเตือนสติ และ 4 เหลี่ยม หมายถึงข้อมูลหรือข้อแนะนำ นอกจาก IOS 3864 ยังได้ให้รายละเอียดทางวิชาการด้านอื่นๆที่จำเป็นต่อการกำหนดข้อปฏิบัติโดยทั่วไป สำหรับผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับการออกแบบแลอุตสาหกรรมการผลิตสัญลักกษณ์เหล่านี้เพื่อให้เป็นสากลและเป็นที่ยอมรับร่วมกันทั่วโลก เครื่องหมายเพื่อความปลอดภัยหรือป้ายเตือนความปลอดภัย ( Safety Poster ) มีไว้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ จำแนกเป็นเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย และเครื่องหมายเสริม ดังต่อไปนี้
1. การใช้เครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย
1) เพื่อเตือนให้ระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพร่างกาย
2) กำหนดให้ใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
3) แนะนำให้พึงปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติเพื่อวามปลอดภัยเครื่องหมายเสริมความปลอดภัย
2. เครื่องหมายเสริมความปลอดภัย
1) รูปแบบของเครื่องหมายเสริม เป็น 4 เหลี่ยมผืนผ้า หรือ 4 เหลี่ยมจัตุรัส
2) มีพื้นให้ใช้สีเดียวกับสีเพื่อความปลอดภัย และสีข้อความให้ช้สีตัด หรือสีพื้นให้ใช้สีขาวและสีของข้อความให้ใช้สีดำ
3) ตัวอักษรที่ใช้ในข้อความ
ก. ช่องไฟระหว่างตัวอัษรต้องไม่แตกต่างกันมากกว่าร้อยละ 10
ข. ลักษระของตัวอักษรต้องดูเรียบง่าย ไม่เขียนแรเงาหรือลวดลาย
ค. ความกว้างของตัวอักษรต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของความสูงของตัวอักษร
4) ให้แสดงเครื่องหมายเสริมไว้ใต้เครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย
สีเพื่อความปลอดภัยและสีตัด
รูปแบบของเครื่องหมายของความปลอดภัยและเครื่องหมายห้าม
รูปแบบของเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย
1. รูปแบบของเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัยและสีที่ใช้แบ่งเป็น 4 ประเภท ตามจุดประสงค์ของการแสดงความหมายตามตารางข้างล่าง
2. ให้แสดงสัญลักษณ์ภาพไว้ตรงกลางของเครื่องหมายดดยไม่ทับแถบขวางสำหรับเครื่องหมายห้าม
3. ในกรณีที่ไม่มีสัญลักษณ์ภาพที่เหมาะสมสำหรับสื่อความหมายตามที่ต้องการ ให้ใช้เครื่องหมายทั่วไปสำหรับเครื่องหมายปลอดภัยแต่ล่ะประเภท รวมกับเครื่องหมายเสริม รูปแบบเครื่องหมายของความปลอดภัย
เครื่องหมายห้าม ( Prohibition )
เครื่องหมายห้ามเป็นวงกลมสีแดงคาดเส้นผ่านศูนย์กลางสีแดงพื้นขาว มีรูปภาพห้ามสำดำอยู่ตรงกลางวงกลม เพื่อป้องกันอุบัติภัย เป็นการจูงใจในการร่วมมือและแข่งขันกันลดอุบัติเหตุ
เครื่องหมายเตือนและเครื่องหมายบังคับ
เครื่องหมายเตือนภัย (Warning Signs )
เครื่องหมายเตือนภัยเป็นกรอบ 3 เหลี่ยมสีดำ ภายใน 3 เหลี่ยมเป็นพื้นสีเหลืองมีรูปภาพ เตือนภัยสีดำอยู่ภายในกรอบ 3 เหลี่ยม อาจจะมีคำกำกับไว้ใต้รูป 3 เหลี่ยม เป็นกรอบ 4 เหลี่ยมพื้นที่เหลือง เพื่อให้เข้าใจได้ทั้งการดูและการอ่าน
เครื่องหมายบังคับ ( Mandatory Signs )
กฎระเบียบใดๆในโรงฝึกงาน หรือสถานประกอบการควรมีแผ่นภาพและป้ายเครื่องหมายบังคับให้ปฏิบัติเป็นภาพอยู่ในพื้นที่วงกลมสีน้ำเงินรูปภาพสีขาว อาจมีคำกำกับไว้ใต้เครื่องหมายบังคับให้เข้าใจง่ายขึ้นการปฏิบัติการใช้ เป็นภาพเตือนใจหรือเตือนสติไม่ให้กระทำ หรือระวังความปลอดภัย
เครื่องหมายแนะนำและเครื่องหมายเสริม
ครื่องหมายแนะนำ ( Information Signs )
เครื่องหมายแนะนำ เป็นกรอบ 4 เหลี่ยมผืนผ้าสีดำหรือสีเขียว ภายใน 4 เหลี่ยมผืนผ้า มีรูปภาพแนะนำอยู่กลาง 4 เหลี่ยมหรือเจาะขาวนั้น
เครื่องหมายเสริม ( Supplementary Signs )
1) รูปแบบเครื่องหมายเสริม เป็น 4 เหลี่ยมผืนผ้า หรือ 4 เหลี่ยมจัตุรัส
2) สีพื้นให้ใช้สีเดียวกับความปลอดภัย และสีของข้อความให้ใช่สีตัด หรือสีพื้นให้ใช้สีขาวและสีของข้อความให้ใช้เป็นสีดำ
3) ตัวอักษรที่ใช้ในข้อความ
ก. ช่องไฟระหว่างตัวอักษรต้องไม่แตกต่างกันมากกว่าร้อยล่ะ 100
ข. ลักษณะของตัวอักษรต้องดูเรียบง่าย ไม่เขียนแรเงาหรือลวดลาย
ค. ความกว้างของตัวอักษรต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของความสูงของตัวอักษร
4) ให้แสดงเครื่องหมายเสริมไว้ใต้เครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย
เครื่องหมายป้องกันอัคคีภัยและสติ๊กเกอร์
เครื่องหมายป้องกันอัคคีภัย Fire ( Equipment Signs )
สติ๊กเกอร์เรืองแสง ( Phofoluminescent Sheetings )
1 ประโยชน์ของสติ๊กเกอร์เรืองแสง
นวัตกรรมใหม่ของความปลอดภัย สติ๊กเกอร์เรืองแสงเหมาะสำหรับป้ายเตือน ป้ายแสดงทางออก ทางหนีไฟ ดดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มืดทุกแห่ง เช่น โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิงต่างๆ ภายในอุโมงค์ เหมืองแร่ ลิฟต์ บันได เป็นต้น
2 คุณสมบัติพิเศษของสติ๊กเกอร์เรืองแสง
1) เปล่งแสงในที่มืด
2) ให้ความเข้มข้นของแสงสว่างสูง
3) ให้สารพิษไม่ว่าจะเป็นตะกั่ว ปรอท แคตเมียม สารหนูและโครเมียม
4) ทนทานถึง 5 ปี ด้วนชั้นเคลือบพิเศษ
5) เก็บแสง ความสว่างได้ถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที
สัญลักษณ์เพื่อความปลอดภัยของสารเคมี
สัญลักษณ์เพื่อความปลอดภัยของสารเคมี
สมัยก่อนภาชนะที่บรรจุสารเคมีแทบทุกชนิด ติดสัญลักษณ์หัวกะโหลกไว้เสมอ โดยมิได้แบ่งแยกตามลักษณะของอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากสารเคมีนั้นๆ ทำให้เข้าใจสับสน ต่อมาจึงมีการกำหนดมาตรฐานต่างๆขึ้นใช้เพื่อความปลอดภัยต่อสาธารณชนผู้ใช้สารเคมีนั้นๆ และสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น องค์การพาณิชย์นาวีระหว่างประเทศได้จำแนกสินค้าอันตรายออกเป็น 9 จำพวก เพื่อประโยชน์ในการขนส่ง การใช้และการเก็บวัตถุอัตรายประเภทต่างๆให้มีความปลอดภัย โดยมีรายละเอียดแต่ละประเภทดังนี้
ประเภทที่ 1 วัตุระเบิด ( Explosives )
เป็นวัตถุที่สามารถระเบิดได้เมื่อได้รับความร้อนประกายไฟ เปลวไฟ หรือเมื่อได้รับการกระทบกระเทือน การเสียดสีหรือถูกกระทำโดยตัวทำละเบิด เช่น ดินปืนไฟ ไนโตรเซลลูโทส ไดนาไมท์ แอมโมเนีย เป็นต้น
ประเภทที่ 2 ก๊าซไวไฟ ( Gases )
เป็นวัตถุที่อยู่สภาพก๊าซมีคุณสมบัติไวไฟ เช่น อะเชทิลีน โฮโรเจน มีเทน เป็นต้น เป็นพิษ เช่น คลอรีน ภายใต้ความดันสูง เช่น อาร์กอน คาร์บออนไดออกไซด์ เป็นต้น
ประเภทที่ 3 วัตถุเหลวไวไฟหรือวัตถุเหลวติดไฟง่าย ( Flammable and Combustion Liquid )
เป้นวัตถุที่เป็นของเหลวหรือของเหลวผสมโดยให้ไอระเหยที่ไวไฟสามารถติดไฟได้ ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของสีทินเนอร์ แลคเกอร์ เป็นต้น
ประเภทที่ 4 วัตถุแข็งไวไฟที่ลุกไหม้ได้เอง หรือวัตถุที่สัมผัสกับน้ำจะใช้ก๊าซไวไฟ (Flammable Solid, Substanceliable to Spontaneous Combustion )
เช่น ผงกำมะถัน ฟอสฟอรัส ไตรซัลไฟต์ ฟอสฟอรัสเดง เป็นต้น
ประเภทที่ 5 วัตถุรวมตัวกับออกซิเจน
เช่น อะลูมิเนียมไนเตรท แอมโมเนียมไนเตรท เป็นต้น
ประเภทที่ 6 วัตถุมีพิษและติดเชื้อ
เช่น แบเรียม ไซยาไนด์ ไดคลอโรมีเทน เมททิลไดคลอโรอาซเอท เป็นต้น
ประเภทที่ 7 วัตถุกัมมันตรังสี
เป็นวัตถุที่สลายตัวให้มีรังสีออกมาปริมาณเกินกว่า 0.002 ไมโครคูรี่ต่อน้ำหนักสารนั้น 1 กรัม เช่น พลูโตเนียม -238 ยูเรเนียม -223
ประเภทที่ 8 วัตถุกัดกร่อน
มีคุณสมบัติในการทำลายเนื้อเยื้อของสิ่งมีชีวิตได้บางชนิด มีไอระเหยที่ทำให้เกิดความระคาย้คืองต่อตาและระบบทางเดินหายใจ ตัวอย่างเช่น กรดกำมะถัน กรดไนตริก โซเดียมไฮครอกไซต์ เป็นต้น
ประเภทที่ 9 วัตถุอันตรายอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือจาก 8 ประเภทข้างต้น
ตัวอย่างเช่น ปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทชนิดบี แอสเบสตอส เป็นต้น นอกจากจะนำแนกวัตถุอันตรายตามลักษณะของอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นแล้ว องค์กรพาณิชย์นาวีระหว่างประเทศยังกำหนดสัญลักษณ์ของวัตถุอันตรายในแต่ล่ะประเทภแยกย่อยออกไปอีก