วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพุทธศาสนา คือวันที่มีเหตุ การณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า
วันสำคัญทางพระพุทธ ศาสนา มี 4 วัน คือ
1. วันวิสาขบูชา
2. วันมาฆบูชา
3. วันอาสาฬหบูชา
4. วันอัฏฐมีบูชา
วันวิสาขบูชา
• ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 มีเหตุการณ์สำคัญ 3 อย่างเกิดขึ้น คือ
1. เป็นวันประสูติของพระพุทธเจ้า
2. เป็นวันตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
3. เป็นวันปรินิพพานของพระพุทธเจ้าบางครั้งเราเรียกวันนี้ว่า พระพุทธ
องค์กรสหประชาชาติรับรองให้เป็นวันนี้เป็นวันสำคัญสากลของโลก
วันมาฆบูชา
• ตรงกับวันขึ้น 15 เดือน 3 (มาฆมาส)มีเหตุการณ์สำคัญ 4 อย่าง เกิดขึ้น
1. เป็นวันเพ็ญเดือนมาฆะ
2. พระสงฆ์1,250รูปประชุมโดยไม่นัด
3. พระสงฆ์ล้วนเป็นพระอรหันต์
4. พระสงฆ์ล้วนบวชกับพระพุทธเจ้า ที่เรียกว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา
เรียกอีกอย่างว่า วันจาตุรงคสันนิบาต บางครั้งเราเรียกว่า วันพระธรรม
วันอาสาฬหบูชา
• ตรงกับวันขึ้น 15 เดือน 8 มีเหตุการณ์สำคัญ ๓ อย่าง เกิดขึ้น
1. พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา ชื่อ พระธัมมจักกัปปวัตนสูตร
2. พระสาวกองค์แรกเกิดขึ้นในโลก คือ พระอัญญาโกณทัญญะ
3. พระรัตนตรัยครบทั้ง 3 องค์ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
บางครั้งเราเรียกวันนี้ว่า พระสงฆ์
วันอัฏฐมีบูชา
• ตรงกับวันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในวันนี้
คือหลังจากวันปรินิพพานของพระองค์ 7 วัน ก็เป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมสรีระของพระพุทธเจ้า ที่มกุฏพันธเจดีย์ เมืองกุสินารา
แคล้นมัลละ
วันเข้าพรรษา
• ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในวันนี้
คือ พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระสงฆ์จำพรรษาอยู่ที่วัดใดวัดหนึ่งไม่ให้ไปค้างพักที่อื่น 3 เดือนเนื่องจากมีพระหมู่หนึ่ง ชื่อ ภัททวัคคีย์จาริกไปเหยียบนาข้าว สัตว์เล็กสัตว์น้อยตายในฤดูฝน
วันออกพรรษา
• ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11เรียกอีกอย่างว่า วันมหาปวารณามีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในวันนี้ คือ
พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระสงฆ์ไปจำวัดค้างแรมที่อื่นได้ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังจากทรงจำพรรษาที่นั่นเพื่อแสดงธรรมแก่พุทธมารดาตลอด 3 เดือน
วันธรรมสวนะ
• วันธรรมสวนะ ตรงกับวัน ขึ้น 8 ค่ำ ขึ้น 15 ค่ำ แรม 8 ค่ำ แรม 15 ค่ำ หรือ 14 ค่ำ
คือ วันกำหนดประชุมฟังธรรมและรักษาศีล 5-8 เรียกอีกอย่างว่า วันพระ
การปฏิบัติตนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
• ทำบุญตักบาตรแล้วกรวดน้ำแผ่ส่วนบุญให้แกผู้ล่วงลับ
• ฟังธรรมเทศนาที่วัด หรือทางวิทยุโทรทัศน์
• รักษาศีล 5 หรือศีล 8 เว้นจากการทำบาป ทำแต่ความดี ทำใจให้บริสุทธิ์
• แผ่เมตตาให้แก่สัตว์
• นำดอกไม้ ธูปเทียน ไปเวียนเทียนที่วัดเป็นพุทธบูชา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
• วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่มีเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเกิดขึ้น เมื่อถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนจะไปทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ เวียนเทียนที่วัด และทำจิตใจให้สงบ
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาได้แก่ วันมาฆบูชา
• ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ มีเหตุการณ์สำคัญ คือ เป็นวันที่ระลึกถึง การเกิดเหตุการณ์สำคัญ ๔ ประการ ที่เรียกว่า “จาตุรงคสันนิบาต” ได้แก่
๑. พระสงฆ์สาวกจำนวน ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
๒. พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนเป็นพระสงฆ์ที่ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง
๓. พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น และได้อภิญญา ๖
๔. พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์
• พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา คือ โอวาทปาฏิโมกข์ ซึ่งมีใจความสำคัญว่า ไม่ทำความชั่วทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม และทำจิตใจให้ผ่องใส ในวันนี้พุทธศาสนิกชนจะไปทำบุญตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา ไปเวียนเทียนที่วัด เป็นต้น
• ตอนเช้า ไปทำบุญตักบาตร และฟังเทศน์ที่วัด ตอนกลางวัน บำเพ็ญประโยชน์ เช่น พัฒนาวัด บริจาคทาน เป็นต้น ตอนค่ำ นำดอกไม้ ธูปเทียนไปเวียนเทียนที่วัดเพื่อระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย
วันวิสาขบูชา
• ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ มีเหตุการณ์สำคัญ คือ เป็น วันคล้ายวันประสูติ (เกิด) ตรัสรู้ (รู้แจ้ง) และปรินิพพาน (ตาย) ของพระพุทธเจ้า วันนี้จึงถือเป็นวันบูชาที่ยิ่งใหญ่ของพุทธศาสนิกชน ตอนเช้า ไปทำบุตรตักบาตร ฟังเทศน์ที่วัด ตอนกลางวัน ถือศีล ปฏิบัติธรรม บริจาคทาน พัฒนาวัด ตอนค่ำ ไปเวียนเทียนที่วัด
วันอัฏฐมีบูชา
• ตรงกับวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ มีเหตุการณ์สำคัญ คือ เป็นวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ ๘วัน พระอนุรุทธะ พระอานนท์ และเหล่ามัลลกษัตริย์ พร้อมทั้งพระสงฆ์ ประชาชนทั่วไป รวมกันถวายพระเพลิง ณ มกุฏพันธนเจดีย์ในพระนครกุสินารา วันนี้จึงเป็นวันที่ประชาชนชาวไทยควรระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้เป็นที่เคารพสักการะของชาวไทย
• วันนี้ชาวพุทธจะไปทำบุญที่วัด เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า และคุณของพระรัตนตรัย
วันอาสาฬหบูชา
• ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ มีเหตุการณ์สำคัญ คือ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา พระธรรมที่ทรงแสดงครั้งแรกนี้เรียกว่า “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร” และได้มีพระสงฆ์องค์แรกเกิดขึ้น คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ จึงนับว่า เป็นวันที่พระพุทธศาสนามีพระรัตนตรัยครบ ๓ ประการ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
• ในวันนี้พุทธศาสนิกชนจะไปทำบุญ ฟังเทศน์ และเวียนเทียนที่วัด
การจัดโต๊ะหมู่บูชา
โต๊ะหมู่บูชา คือ กลุ่มหรือชุดของโต๊ะที่ใช้ตั้งพระพุทธรูป หรือ สิ่งอันเป็นที่เคารพสักการะ เช่น พระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ หรือพระบรมรูปหล่อของ
พระมหากษัตริย์ พระฉายาลักษณ์ หรือพระสาทิสลักษณ์ของพระบรมวงศานุวงศ์ หรือรูปของบรรพบุรุษ โดยประกอบด้วยเครื่องบูชา อันเป็นการแสดงออกซึ่งความเคารพอย่างสูงของ
ผู้ที่สักการะ และเป็นการแสดงถึงความกตัญญูที่พึงมีต่อผู้มีอุปการคุณซึ่งเป็นวัฒนธรรมอันดีงาม ที่มีคุณค่ายิ่งของสังคมไทย
นอกจากนี้โต๊ะหมู่บูชาตามความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช ๒๕๔๒ ว่า โต๊ะหมู่บูชาเป็นที่ตั้งเครื่องบูชาประกอบด้วยม้า ๔ ขา หลายตัวคุ้มกัน
เป็นหมู่ มี หมู่ ๓ หมู่ ๔ หมู่ ๕ หมู่ ๗ หมู่ ๙ และหมู่ ๑๑ เดิมเรียกว่า “ม้าหมู่บูชา” โดยควรวางเครื่องสักการะบูชาที่คู่ควรเป็นสง่างาม เป็นจุดเด่นของบ้านหรือสถานที่ ดังนั้นจึงควร
จัดโต๊ะหมู่บูชาให้เหมาะสมสวยงาม
ภาพจากเว็บไซต์
http://www.homedec.in.th/โต๊ะหมู่บูชา
หลักในการจัดโต๊ะหมู่บูชา
๑. การบูชา หมายถึง การแสดงความยกย่อง เคารพ สักการะแก่ผู้ที่เคารพนับถือ มี ๒ ประเภท
๑.๑ อามิสบูชา การบูชาด้วยวัตถุสิ่งของ เช่น ดอกไม้ ธูป เทียน หรือสิ่งที่เหมาะสมอื่น ๆ
๑.๒ ปฏิบัติบูชา การบูชาด้วยการประพฤติปฏิบัติตน ในคุณความดี ตามธรรมคำสอนทางศาสนา พระพุทธเจ้าทรงยกย่องการปฏิบัติบูชาว่าเป็นการบูชาที่ประเสริฐสุด
๒. เครื่องบูชาหลักที่ใช้ประกอบการจัดโต๊ะหมู่บูชา ได้แก่ ธูป เทียน และดอกไม้ เหมือนการจัดเครื่องสักการะบูชาทั่วไป แต่สำหรับโต๊ะหมู่บูชา มีการกำหนดแบบมาตรฐาน
สำหรับโต๊ะหมู่บูชาแต่ละประเภทไว้โดยเฉพาะ
๒.๑ ธูป เป็นของหอม เป็นเครื่องบูชาพระพุทธเจ้า ปกติใช้จำนวน ๓ ดอก หมายถึง บูชาพระพุทธคุณของพระพุทธเจ้า ๓ ประการ คือ
• พระปัญญาคุณ ทรงมีพระปัญญาสูงสุด ประเสริฐสุดหาผู้เสมอมิได้
• พระกรุณาคุณ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสมอกันในมวลสัตว์โลกทุกหมู่เหล่า แม้แต่บุคคลที่มุ่งร้ายต่อพระองค์ ทรงหวังให้เกิดประโยชน์โดยสถานเดียว
• พระปริสุทธิคุณ ทรงมีพระทัยผ่องใสบริสุทธิ์จากอาสวกิเลสทั้งมวล
๒.๒ เทียน เป็นสิ่งให้แสงสว่าง ใช้บูชาพระธรรม ซึ่งให้แสงสว่าง คือ ปัญญาแก่ผู้นำไปปฏิบัติ โดยปกติใช้เทียน ๑ คู่ เพราะพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า แบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ พระธรรม และพระวินัย แต่ในการจัดโต๊ะหมู่บูชากำหนดให้ตั้งเทียนประดับตามที่กำหนดในแต่ละประเภทของโต๊ะหมู่ เช่น หมู่ ๕ ใช้เทียน ๔ คู่ หมู่ ๗ ใช้เทียน ๕ คู่ หมู่ ๙ ใช้เทียน ๖ คู่ แต่เมื่อบูชานิยมจุดเพียง ๑ คู่ ทึ่ตั้งอยู่ใกล้กับกระถางธูป
๒.๓ ดอกไม้ เป็นเครื่องหมายในการบูชาพระสงฆ์ ดอกไม้นานาพันธุ์ หากสีต่างชนิด เมื่อช่างดอกไม้ผู้เชี่ยวชาญการจัดดอกไม้นำมาร้อยเป็นพวงมาลัย ประดับในแจกันหรือภาชนะที่เหมาะสมย่อมดูสวยงาม เป็นที่ชื่นชมของผู้พบเห็น
๓. ประเภทการจัดโต๊ะหมู่บูชา สามารถแบ่งได้เป็น ดังต่อไปนี้
โต๊ะหมู่ ๔ ประกอบด้วยเครื่องบูชา ดังนี้
- กระถางธูป 1 กระถาง
- เชิงเทียน 1 คู่
- พานดอกไม้ 2 พาน
- แจกัน 2 แจกัน
โต๊ะหมู่ ๕ ประกอบด้วยเครื่องบูชา ดังนี้
- กระถางธูป 1 กระถาง
– เชิงเทียน 4 คู่
– พานดอกไม้ 5 พาน
– แจกัน 2 แจกัน
โต๊ะหมู่ ๗ ประกอบด้วยเครื่องบูชา ดังนี้
- กระถางธูป 1 กระถาง
- เชิงเทียน 5 คู่
- พานดอกไม้ 5 พาน
- แจกัน 2 แจกัน
โต๊ะหมู่ ๙ประกอบด้วยเครื่องบูชา ดังนี้
- กระถางธูป 1 กระถาง
– เชิงเทียน 6 คู่
– พานดอกไม้ 7 พาน
– แจกัน 3 แจกัน
การจัดโต๊ะหมู่บูชาดังกล่าว เป็นการจัดตามแบบโบราณ เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีการจัดโต๊ะหมู่บูชาให้คงอยู่สืบไป
หมายเหตุ :
๑. หากไม่มีโต๊ะหมู่ จะใช้ตั่งหรือโต๊ะอื่นๆ ที่พอเหมาะ ลักษณะไม่สูงไม่ต่ำและใหญ่เกินไปที่สะอาดแทนก็ได้
๒. นิยมตั้งโต๊ะหมู่หันหน้าไปทางทิศเหนือหรือทิศตะวันออก
๓. การตั้งเครื่องบูชานั้น ควรจัดให้เรียบร้อยงามตา อย่าให้มีสิ่งใดบังพระพุทธรูป ไม่ควรเอาเครื่องบูชาตั้งเสมอพระพุทธรูป
๔. ในกรณีที่โต๊ะหมู่บูชาที่ทาทองล่องชาด คือ มีสีทองด้านหนึ่งและสีแดงอีกด้านหนึ่ง ให้หันสีทองออกด้านหน้าสีแดงด้านหลัง บางรายรีบร้อนในการจัดวางสลับสีกันสีทอง
บ้างสีแดงบ้างซึ่งไม่ถูกต้อง
อาราธนาศีลห้า
มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3
สมาทานศีลห้า
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ
อาราธนาธรรม
พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง
ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด
อาราธนาพระปริตร
วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง
วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง
วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง
ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป