มนุษย์มีระบบโครงกระดูก (skeleton system) ที่คล้ายกับสัตว์มีกระดูกสันหลังทุกชนิด คือ ประกอบด้วยกระดูกแกน (axial skeleton) กระดูกรยางค์ (appendicular skeleton) และข้อต่อ (joint) โครงกระดูกของมนุษย์ประกอบด้วยกระดูกต่างๆ เมื่อร่างกายของมนุษย์เจริญเติบโตเต็มที่จะประกอบด้วยกระดูก 206 ชิ้น สามารถแบ่งออกเป็น 2กลุ่ม ตามตำแหน่งที่อยู่คือ กระดูกแกนและกระดูกรยางค์
การทำงานของระบบโครงกระดูกเพียงระบบเดียวไม่สามารถทำให้ร่างกายของสัตว์มีกระดูกสันหลังเคลือนไหวได้ ต้องอาศัยการทำงานร่วมกับระบบกล้ามเนื้อ (muscular system) เมื่อเกิดการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อจะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อของสัตว์มีกระดูกสันหลังแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือกล้ามเนื้อโครงร่าง กล้ามเนื้อหัวใจและกล้ามเนื้อเรียบพบในตำแหน่ที่ต่างกันและมีหน้าที่แตกต่างกัน
การเคลื่อนไหวของมนุษย์
เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ 2 ชุด เช่น การทำงานของกล้ามเนื้อไบเซพ (biceps) และกล้ามเนื้อไตรเซพ (triceps) ในสภาวะตรงกันข้าม
โครงสร้างของกล้ามเนื้อโครงร่าง
กล้ามเนื้อโครงร่างแต่ละมัดประกอบด้วยเซลล์กล้ามเนื้อ (muscle cell) หรือเส้นใยกล้ามเนื้อ (muscle fiber) ภายในเส้นใยกล้ามเนื้อประกอบด้วยเส้นใยกล้ามเนื้อเล็ก (myofbril) มีลักษณะเป็นท่อนยาวเรียงซ้อนกัน เส้นใยกล้มเนื้อเล็กเหล่านี้จะอยู่รวมกันเป็นมัด เส้นใยกลัมเนื้อเล็กประกอบด้วยหน่วยย่อยที่เรียกว่า ซาร์โคเมียร์ (sarcomere) ซึ่งมีโปรตื่นหลัก 2 ชนิดคือโปรตีแอกทิน (actin) ที่มีลักษณะเป็นสายบาง และโปรตีนไมโอซิน(myosin) ที่มีลักษณะเป็นสายหนา แอกทินและไมโอซินเรียงตัวขนานกัน
การทำงานของกล้ามเนื้อโครงร่าง
สมมติฐานการหดตัวของกล้ามเนื้อ (sliding filament hypothesis) เกิดจากการเลื่อนตัวของแอกทินเข้าหากันตรงกลางซึ่งต้องอาศัยพลังงานและแคลเซียมเพื่อทำให้เส้นใยกล้ามเนื้อหดตัว