•มีเนื้อเยื่อ 2 ชั้น ได้แก่ เนื้อเยื่อชั้นนอกและเนื้อเยื่อชั้นใน
•มีของเหลวแทรกอยู่ระหว่างเนื้อเยื่อทั้ง 2 ชั้น เรียกว่า มีโซเกลีย (mesoglea)
•การเคลื่อนที่อาศัยการหดตัวของเนื้อเยื่อบริเวณขอบกระดิ่งและผนังลำตัวสลับกัน ทำให้เกิดแรงดันน้ำผลักให้พุ่งไปในทิศทางตรงข้ามกับน้ำที่พ่นออก
•อาศัยการหดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณลำตัว
•น้ำภายในลำตัวถูกพ่นออกทางท่อไซฟอน (siphon) ทำให้ตัวหมึกพุ่งไปในทิศทางตรงข้ามกับทิศทางของน้ำที่พ่นออก
•ท่อไซฟอนเคลื่อนไหวได้จึงเปลี่ยนทิศทางของน้ำที่พ่นออก ทำให้สามารถเปลี่ยนทิศทางของการเคลื่อนที่ได้
อาศัยระบบท่อน้ำ (water vascular system)
•มีกล้ามเนื้อ 2 ชุด ได้แก่ กล้ามเนื้อวง (circular muscle) และกล้ามเนื้อตามยาว (longitudinal muscle)
•การเคลื่อนที่เกิดจากการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อทั้ง 2 ชุด ในสภาวะตรงกันข้าม โดยเคลื่อนที่แบบระลอกคลื่น
•มีเดือย (setae) ช่วยบังคับทิศทางในการเคลื่อนที่
แมลง เคลื่อนที่ด้วยการเดินหรือกระโดด โดยอาศัยการทำงานของกล้ามเนื้อเฟล็กเซอร์ และ กล้ามเนื้อเอ็กเทนเซอร์
เมื่อเอ็กเทนเซอร์คลายตัว จะไปดันส่วนต้นของต้นขา กล้ามเนื้อเฟล็กเซอร์หดตัว จะไปดึงส่วนปลายของต้นขา ทำให้ของของแมลงงอเข้า
เมื่อกล้ามเนื้อเอ็กเทนเซอร์หดตัว กล้ามเนื้อเฟล็กเซอร์คลายตัว จะทำให้ขาของแมลงกางออก
การเคลื่อนที่ด้วยการบินเกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ 2 ชุด คือ กล้ามเนื้อยึดเปลือกหุ้มส่วนอกและกล้ามเนื้อตามยาว กล้ามเนื้อยึดปลือกหุ้มส่วนอกไม่ได้ติดกับปีกโดยตรงแต่ยืดกับเปลือกหุ้มส่วนอกไว้ เมื่อเปลือกหุ้มส่วนอกมีการเคลื่อนไหวปีกที่ติดอยู่กับส่วนอกจะเคลื่อนไหวด้วย การบินแบบนี้พบในแมลงส่วนใหญ่ เช่น ตั๊กแตน ผีเสื้อ แมลงวัน และผึ้ง อย่างไรก็ตามมีแมลงบางชนิดที่มีกล้ามเนื้อยึดติดกับปีกโดยตรง เช่น แมลงปอ ในขณะบินนั้นปีกจะเคลื่อนไหวเนื่องจากการทำงานของกล้ามเนื้อ