Resources
Thai Herbal Medicine Research Toolkit for Investigators and Industry
Resources
1. REDCap (Research Electronic Data Capture)
การใช้งาน: ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลออนไลน์ การจัดการฐานข้อมูล และการสำรวจเว็บ รวมถึงการจัดการแบบฟอร์มการยินยอม
การเข้าถึง: ฟรีสำหรับสถาบันการศึกษาและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร แต่ต้องสมัครและได้รับการอนุมัติ
ระดับความยากง่าย: ปานกลาง
เหมาะกับ: การทดลองขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
ฟีเจอร์เด่น:
ความยืดหยุ่นสูงในการออกแบบฟอร์มเก็บข้อมูล
ระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง
สามารถทำงานออฟไลน์ได้
ข้อจำกัด:
อาจมีความซับซ้อนสำหรับผู้ใช้ใหม่
ต้องมีทักษะด้านเทคนิคบางอย่างในการตั้งค่าโครงการที่ซับซ้อน
ความต้องการของระบบ: เว็บเบราว์เซอร์ทั่วไป, ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
การสนับสนุนและชุมชน: มีฟอรัมผู้ใช้งานที่กระตือรือร้น, มีการสนับสนุนทางเทคนิคจากทีม REDCap
กรณีศึกษา: https://www.project-redcap.org/case-studies/
การอัพเดทและการพัฒนา: มีการอัพเดทสม่ำเสมอ, มีแผนพัฒนาระยะยาว
ความเข้ากันได้: สามารถส่งออกข้อมูลในรูปแบบที่ใช้กับซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปได้
ภาษาที่รองรับ: หลายภาษา รวมถึงภาษาไทย
2. OpenClinica
การใช้งาน: ระบบจัดการข้อมูลทางคลินิกที่ครอบคลุม รวมถึงการเก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และการจัดการการทดลอง
ลิงก์: https://www.openclinica.com/
การเข้าถึง: มีทั้งเวอร์ชันฟรี (OpenClinica Community Edition) และเวอร์ชันที่ต้องจ่ายเงิน
Tutorial: https://docs.openclinica.com/
ระดับความยากง่าย: ซับซ้อน
เหมาะกับ: การทดลองขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
ฟีเจอร์เด่น:
รองรับการทำงานตามมาตรฐาน GCP (Good Clinical Practice)
มีระบบจัดการความปลอดภัยและการตรวจสอบที่แข็งแกร่ง
สามารถปรับแต่งได้สูง
ข้อจำกัด:
มีความซับซ้อนในการตั้งค่าและใช้งาน
อาจต้องการทรัพยากรด้านไอทีในการดูแลระบบ
ความต้องการของระบบ: สามารถติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวหรือใช้บริการคลาวด์
การสนับสนุนและชุมชน: มีฟอรัมชุมชน, มีบริการสนับสนุนแบบมืออาชีพสำหรับเวอร์ชันที่จ่ายเงิน
กรณีศึกษา: https://www.openclinica.com/case-studies/
การอัพเดทและการพัฒนา: มีการอัพเดทสม่ำเสมอ, มีแผนพัฒนาต่อเนื่อง
ความเข้ากันได้: สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ผ่าน API
ภาษาที่รองรับ: หลายภาษา แต่อาจต้องมีการแปลเพิ่มเติมสำหรับบางภาษา
3. OpenMRS (Open Medical Record System)
การใช้งาน: ระบบบันทึกข้อมูลทางการแพทย์ที่ปรับแต่งได้
ลิงก์: https://openmrs.org/
การเข้าถึง: ฟรีและเป็นโอเพนซอร์ส
ระดับความยากง่าย: ปานกลาง
เหมาะกับ: การจัดการข้อมูลผู้ป่วยในการทดลองทางคลินิกทุกขนาด
ฟีเจอร์เด่น:
ความยืดหยุ่นสูงในการปรับแต่งตามความต้องการ
รองรับการทำงานในพื้นที่ที่มีทรัพยากรจำกัด
มีระบบโมดูลที่สามารถเพิ่มฟังก์ชันการทำงานได้
ข้อจำกัด:
อาจต้องการการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้เหมาะกับการทดลองทางคลินิกโดยเฉพาะ
อาจมีความซับซ้อนในการตั้งค่าเริ่มต้น
ความต้องการของระบบ: สามารถติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว, ต้องการ Java
การสนับสนุนและชุมชน: มีชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนาที่กระตือรือร้น, มีฟอรัมและช่องทางการสื่อสารหลายช่องทาง
กรณีศึกษา: https://openmrs.org/use-cases/
การอัพเดทและการพัฒนา: มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยชุมชนโอเพนซอร์ส
ความเข้ากันได้: สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ผ่าน API, รองรับมาตรฐาน HL7
ภาษาที่รองรับ: หลายภาษา สามารถเพิ่มการแปลภาษาได้
4. CTMS by OpenClinica
การใช้งาน: ระบบจัดการการทดลองทางคลินิกที่ครอบคลุม
ลิงก์: https://www.openclinica.com/clinical-trial-management-system/
การเข้าถึง: ต้องสมัครสมาชิกและจ่ายเงิน
Tutorial: https://docs.openclinica.com/category/openclinica-ctms-user-manual
ระดับความยากง่าย: ซับซ้อน
เหมาะกับ: การทดลองขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
ฟีเจอร์เด่น:
การจัดการโครงการแบบครบวงจร
การติดตามงบประมาณและทรัพยากร
การจัดการเอกสารและการรายงาน
ข้อจำกัด:
มีค่าใช้จ่ายสูง
อาจมีฟีเจอร์มากเกินความจำเป็นสำหรับการทดลองขนาดเล็ก
ความต้องการของระบบ: ใช้งานผ่านเว็บ, ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
การสนับสนุนและชุมชน: มีการสนับสนุนทางเทคนิคแบบมืออาชีพ
กรณีศึกษา: https://www.openclinica.com/case-studies/
การอัพเดทและการพัฒนา: มีการอัพเดทและพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยทีม OpenClinica
ความเข้ากันได้: สามารถทำงานร่วมกับระบบ EDC ของ OpenClinica ได้อย่างไร้รอยต่อ
ภาษาที่รองรับ: ภาษาอังกฤษเป็นหลัก อาจมีการแปลเพิ่มเติมในอนาคต
5. TrialSpark
การใช้งาน: แพลตฟอร์มที่ช่วยในการดำเนินการทดลองทางคลินิก
ลิงก์: https://www.trialspark.com/
การเข้าถึง: ต้องติดต่อบริษัทเพื่อรับข้อเสนอ ไม่มีเวอร์ชันฟรี
Tutorial: ไม่มี Tutorial สาธารณะ ต้องติดต่อบริษัทโดยตรง
ระดับความยากง่าย: ปานกลาง (ขึ้นอยู่กับการฝึกอบรมที่ได้รับจากบริษัท)
เหมาะกับ: การทดลองทางคลินิกทุกขนาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทที่ต้องการเร่งกระบวนการทดลอง
ฟีเจอร์เด่น:
การจัดการกระบวนการทดลองแบบครบวงจร
มีเครือข่ายสถานพยาบาลและผู้เชี่ยวชาญ
ใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการเร่งกระบวนการทดลอง
ข้อจำกัด:
อาจต้องการความรู้ด้านเทคนิคในการติดตั้งและปรับแต่ง
อาจไม่มีการสนับสนุนทางเทคนิคแบบมืออาชีพ
อาจมีค่าใช้จ่ายสูง
ข้อมูลเกี่ยวกับฟีเจอร์และการทำงานอาจไม่เปิดเผยทั้งหมดจนกว่าจะติดต่อบริษัท
ความต้องการของระบบ: ไม่มีข้อมูลเปิดเผย อาจเป็นระบบบนคลาวด์
การสนับสนุนและชุมชน: มีการสนับสนุนโดยตรงจากทีมผู้เชี่ยวชาญของ TrialSpark
กรณีศึกษา: https://www.trialspark.com/case-studies (อาจต้องติดต่อบริษัทเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม)
การอัพเดทและการพัฒนา: มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยทีม TrialSpark
ความเข้ากันได้: ไม่มีข้อมูลเปิดเผย อาจต้องสอบถามจากบริษัทโดยตรง
ภาษาที่รองรับ: ภาษาอังกฤษเป็นหลัก อาจมีการรองรับภาษาอื่นๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า
6. Open Source Clinical Trials
การใช้งาน: ชุดเครื่องมือสำหรับการจัดการการทดลองทางคลินิก
ลิงก์: https://www.healthit.gov/topic/scientific-initiatives/pcor/open-source-tools-clinical-trials
การเข้าถึง: ฟรีและเป็นโอเพนซอร์ส
Tutorial: https://www.healthit.gov/sites/default/files/acceleratingctrguide.pdf
ระดับความยากง่าย: ปานกลาง (ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่เลือกใช้)
เหมาะกับ: การทดลองขนาดเล็กถึงขนาดกลาง โดยเฉพาะสำหรับนักวิจัยที่มีทักษะด้านเทคนิค
ฟีเจอร์เด่น:
ความยืดหยุ่นสูงในการปรับแต่งตามความต้องการ
ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน
สามารถปรับปรุงและพัฒนาต่อยอดได้
ข้อจำกัด:
อาจต้องการความรู้ด้านเทคนิคในการติดตั้งและปรับแต่ง
อาจไม่มีการสนับสนุนทางเทคนิคแบบมืออาชีพ
ความต้องการของระบบ: แตกต่างกันไปตามเครื่องมือที่เลือกใช้
การสนับสนุนและชุมชน: มีชุมชนนักพัฒนาและผู้ใช้งาน แต่อาจไม่กว้างขวางเท่ากับเครื่องมือเชิงพาณิชย์
กรณีศึกษา: ไม่มีข้อมูลกรณีศึกษาที่เป็นทางการ แต่อาจหาได้จากการแบ่งปันประสบการณ์ในชุมชน
การอัพเดทและการพัฒนา: ขึ้นอยู่กับชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนา
ความเข้ากันได้: มักจะมีความยืดหยุ่นสูงในการทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ
ภาษาที่รองรับ: ขึ้นอยู่กับการพัฒนาและการแปลโดยชุมชน
7. OpenCDMS (Open Source Clinical Data Management System)
การใช้งาน: ระบบจัดการข้อมูลทางคลินิก
การเข้าถึง: ฟรีและเป็นโอเพนซอร์ส
Tutorial: https://community.opensourcecdms.com/t/opencdms-user-guide/33
ระดับความยากง่าย: ปานกลางถึงซับซ้อน
เหมาะกับ: การทดลองขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
ฟีเจอร์เด่น:
ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งระบบ
รองรับมาตรฐาน CDISC
ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน
ข้อจำกัด:
อาจต้องการความรู้ด้านเทคนิคในการติดตั้งและดูแลระบบ
การสนับสนุนอาจไม่เทียบเท่ากับระบบเชิงพาณิชย์
ความต้องการของระบบ: สามารถติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว ต้องการ PHP และฐานข้อมูล MySQL
การสนับสนุนและชุมชน: มีชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนา แต่อาจไม่ใหญ่เท่าโครงการโอเพนซอร์สอื่นๆ
กรณีศึกษา: ไม่มีข้อมูลกรณีศึกษาที่เป็นทางการ
การอัพเดทและการพัฒนา: มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยชุมชน แต่อาจไม่สม่ำเสมอ
ความเข้ากันได้: สามารถส่งออกข้อมูลในรูปแบบมาตรฐาน สามารถปรับแต่งเพื่อทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ได้
ภาษาที่รองรับ: ภาษาอังกฤษเป็นหลัก สามารถเพิ่มการแปลภาษาอื่นๆ ได้
8. Labkey
การใช้งาน: แพลตฟอร์มสำหรับการจัดการข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และการทดลองทางคลินิก
ลิงก์: https://www.labkey.com/
การเข้าถึง: มีทั้งเวอร์ชันฟรี (Community Edition) และเวอร์ชันที่ต้องจ่ายเงิน
Tutorial: https://www.labkey.org/Documentation/wiki-page.view?name=tutorials
ระดับความยากง่าย: ปานกลางถึงซับซ้อน
เหมาะกับ: การทดลองขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โดยเฉพาะที่มีความต้องการด้านการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน
ฟีเจอร์เด่น:
ความสามารถในการจัดการข้อมูลที่หลากหลายและซับซ้อน
มีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลในตัว
สามารถปรับแต่งและขยายความสามารถได้
ข้อจำกัด:
อาจมีความซับซ้อนสูงสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์
เวอร์ชันที่มีฟีเจอร์ครบถ้วนอาจมีค่าใช้จ่ายสูง
ความต้องการของระบบ: สามารถติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวหรือใช้บริการคลาวด์
การสนับสนุนและชุมชน: มีชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนา มีการสนับสนุนทางเทคนิคสำหรับเวอร์ชันที่จ่ายเงิน
การอัพเดทและการพัฒนา: มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งเวอร์ชันฟรีและเวอร์ชันที่จ่ายเงิน
ความเข้ากันได้: สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ผ่าน API และการส่งออกข้อมูลในรูปแบบมาตรฐาน
ภาษาที่รองรับ: ภาษาอังกฤษเป็นหลัก อาจมีการแปลเป็นภาษาอื่นๆ ในอนาคต
9. ClinCapture
การใช้งาน: ระบบจัดการข้อมูลทางคลินิก
การเข้าถึง: มีทั้งเวอร์ชันฟรี (Community Edition) และเวอร์ชันที่ต้องจ่ายเงิน
Tutorial: https://www.youtube.com/watch?v=PhstVgUTMD0 (วิดีโอสาธิต)
ระดับความยากง่าย: ปานกลาง
เหมาะกับ: การทดลองขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
ฟีเจอร์เด่น:
ออกแบบมาเพื่อใช้งานง่าย
มีระบบการตรวจสอบข้อมูลอัตโนมัติ
รองรับการทำงานแบบหลายศูนย์วิจัย
ข้อจำกัด:
อาจมีฟีเจอร์จำกัดในเวอร์ชันฟรี
อาจไม่เหมาะกับการทดลองขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูง
ความต้องการของระบบ: สามารถติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวหรือใช้บริการคลาวด์
การสนับสนุนและชุมชน: มีฟอรัมชุมชนสำหรับเวอร์ชันฟรี, มีการสนับสนุนทางเทคนิคสำหรับเวอร์ชันที่จ่ายเงิน
กรณีศึกษา: ไม่มีข้อมูลกรณีศึกษาที่เป็นทางการ
การอัพเดทและการพัฒนา: มีการอัพเดทสม่ำเสมอสำหรับเวอร์ชันที่จ่ายเงิน, อาจช้ากว่าสำหรับเวอร์ชันฟรี
ความเข้ากันได้: สามารถส่งออกข้อมูลในรูปแบบมาตรฐาน, มี API สำหรับการเชื่อมต่อกับระบบอื่น
ภาษาที่รองรับ: ภาษาอังกฤษเป็นหลัก, อาจมีการแปลเป็นภาษาอื่นในเวอร์ชันที่จ่ายเงิน
10. ODK (Open Data Kit)
การใช้งาน: ชุดเครื่องมือสำหรับการเก็บข้อมูลบนมือถือ
ลิงก์: https://getodk.org/
การเข้าถึง: ฟรีและเป็นโอเพนซอร์ส
Tutorial: https://docs.getodk.org/
ระดับความยากง่าย: ง่ายถึงปานกลาง
เหมาะกับ: การเก็บข้อมูลภาคสนามในการทดลองทางคลินิก, เหมาะสำหรับการทดลองในพื้นที่ห่างไกล
ฟีเจอร์เด่น:
สามารถทำงานออฟไลน์ได้
รองรับการเก็บข้อมูลหลากหลายรูปแบบ (ข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, GPS)
มีความยืดหยุ่นสูงในการออกแบบฟอร์มเก็บข้อมูล
ข้อจำกัด:
อาจต้องการความรู้ทางเทคนิคในการตั้งค่าและจัดการเซิร์ฟเวอร์
อาจไม่เหมาะกับการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนมากๆ
ความต้องการของระบบ: แอปพลิเคชันบนมือถือ Android, เซิร์ฟเวอร์สำหรับจัดเก็บข้อมูล
การสนับสนุนและชุมชน: มีชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนาที่กระตือรือร้น, มีฟอรัมสำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้
กรณีศึกษา: https://getodk.org/case-studies/
การอัพเดทและการพัฒนา: มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยชุมชนโอเพนซอร์ส
ความเข้ากันได้: สามารถส่งออกข้อมูลในรูปแบบมาตรฐาน, มี API สำหรับการเชื่อมต่อกับระบบอื่น
ภาษาที่รองรับ: รองรับหลายภาษา สามารถเพิ่มการแปลภาษาได้
11. ConsentNow
การใช้งาน: เครื่องมือสำหรับการขอความยินยอมแบบอิเล็กทรอนิกส์
ลิงก์: https://www.consentnow.com/
การเข้าถึง: ต้องสมัครสมาชิกและจ่ายเงิน มีการทดลองใช้ฟรี
Tutorial: ไม่มี Tutorial สาธารณะ ต้องติดต่อบริษัทโดยตรง
ระดับความยากง่าย: ง่าย
เหมาะกับ: การขอความยินยอมในการทดลองทางคลินิกทุกขนาด
ฟีเจอร์เด่น:
ระบบการขอความยินยอมที่เป็นมิตรกับผู้ใช้
รองรับการลงนามแบบอิเล็กทรอนิกส์
มีระบบติดตามและจัดการเอกสารการยินยอม
ข้อจำกัด:
มีค่าใช้จ่าย
อาจมีข้อจำกัดในการปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะ
ความต้องการของระบบ: ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์, รองรับอุปกรณ์มือถือ
การสนับสนุนและชุมชน: มีการสนับสนุนทางเทคนิคจากบริษัท
กรณีศึกษา: ไม่มีข้อมูลกรณีศึกษาที่เปิดเผยต่อสาธารณะ
การอัพเดทและการพัฒนา: มีการอัพเดทและพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยบริษัท
ความเข้ากันได้: อาจมีการเชื่อมต่อกับระบบจัดการการทดลองทางคลินิกอื่นๆ (ต้องสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม)
ภาษาที่รองรับ: ภาษาอังกฤษเป็นหลัก อาจมีการรองรับภาษาอื่นๆ (ต้องสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม)
12. OpenEHR
การใช้งาน: มาตรฐานเปิดสำหรับการจัดการข้อมูลสุขภาพ
ลิงก์: https://www.openehr.org/
การเข้าถึง: ฟรีและเป็นโอเพนซอร์ส
Tutorial: https://www.openehr.org/programs/specification/workingbaselines/learning-centre/
ระดับความยากง่าย: ซับซ้อน
เหมาะกับ: การพัฒนาระบบข้อมูลสุขภาพที่มีความยืดหยุ่นสูง, เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่หรือระดับประเทศ
ฟีเจอร์เด่น:
ความยืดหยุ่นสูงในการออกแบบและจัดการข้อมูลสุขภาพ
รองรับการทำงานข้ามระบบและองค์กร
มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
ข้อจำกัด:
มีความซับซ้อนสูง ต้องการความรู้เฉพาะทางในการนำมาใช้
อาจไม่เหมาะสำหรับโครงการขนาดเล็กหรือมีทรัพยากรจำกัด
ความต้องการของระบบ: ขึ้นอยู่กับการนำไปประยุกต์ใช้ สามารถใช้กับระบบหลากหลายแพลตฟอร์ม
การสนับสนุนและชุมชน: มีชุมชนนักพัฒนาและผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก, มีองค์กร OpenEHR Foundation สนับสนุน
การอัพเดทและการพัฒนา: มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยชุมชนนานาชาติ
ความเข้ากันได้: ออกแบบมาเพื่อความเข้ากันได้สูง สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ได้ดี
ภาษาที่รองรับ: รองรับหลายภาษา เนื่องจากเป็นมาตรฐานระดับนานาชาติ
13. i2b2 (Informatics for Integrating Biology & the Bedside)
การใช้งาน: แพลตฟอร์มสำหรับการวิจัยทางการแพทย์ ช่วยในการค้นหาผู้ป่วยที่เหมาะสมสำหรับการทดลองทางคลินิก
ลิงก์: https://www.i2b2.org/
การเข้าถึง: ฟรีและเป็นโอเพนซอร์ส
Tutorial: https://community.i2b2.org/wiki/display/getstarted/Get+Started+Docs
ระดับความยากง่าย: ซับซ้อน
เหมาะกับ: สถาบันวิจัยขนาดใหญ่ โรงพยาบาล และองค์กรด้านสุขภาพที่ต้องการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยจำนวนมาก
ฟีเจอร์เด่น:
สามารถค้นหาผู้ป่วยที่เหมาะสมสำหรับการทดลองทางคลินิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รองรับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
มีโมดูลสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลพันธุกรรม
ข้อจำกัด:
ต้องการความรู้ทางเทคนิคสูงในการติดตั้งและใช้งาน
อาจไม่เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็กหรือการทดลองขนาดเล็ก
ความต้องการของระบบ: ต้องการเซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง, รองรับหลายระบบปฏิบัติการ
การสนับสนุนและชุมชน: มีชุมชนนักพัฒนาและผู้ใช้งานที่กระตือรือร้น, มีการจัดประชุมและสัมมนาเป็นประจำ
กรณีศึกษา: https://www.i2b2.org/work/use.html
การอัพเดทและการพัฒนา: มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยทีมนักวิจัยและชุมชนโอเพนซอร์ส
ความเข้ากันได้: สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ผ่าน API, รองรับมาตรฐานข้อมูลทางการแพทย์หลายรูปแบบ
ภาษาที่รองรับ: ภาษาอังกฤษเป็นหลัก, สามารถแปลเป็นภาษาอื่นๆ ได้โดยชุมชน
14. OMOP (Observational Medical Outcomes Partnership)
การใช้งาน: มาตรฐานข้อมูลโอเพนซอร์สสำหรับการวิจัยทางคลินิก ช่วยในการจัดระเบียบและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง
ลิงก์: https://www.ohdsi.org/data-standardization/the-common-data-model/
การเข้าถึง: ฟรีและเป็นโอเพนซอร์ส
ระดับความยากง่าย: ซับซ้อน
เหมาะกับ: องค์กรด้านสุขภาพขนาดใหญ่ที่ต้องการทำวิจัยโดยใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง
ฟีเจอร์เด่น:
มาตรฐานข้อมูลที่ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งได้
รองรับการทำวิจัยแบบ observational studies ขนาดใหญ่
มีเครื่องมือและวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นมาตรฐาน
ข้อจำกัด:
ต้องการความพยายามและทรัพยากรมากในการแปลงข้อมูลให้เข้ากับมาตรฐาน OMOP
อาจไม่เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็กหรือการทดลองเดี่ยว
ความต้องการของระบบ: ขึ้นอยู่กับขนาดของข้อมูล, สามารถใช้งานบนระบบฐานข้อมูลหลายประเภท
การสนับสนุนและชุมชน: มีชุมชนนักวิจัยและนักพัฒนาทั่วโลก, มีการจัดประชุมและสัมมนาเป็นประจำ
การอัพเดทและการพัฒนา: มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยชุมชน OHDSI (Observational Health Data Sciences and Informatics)
ความเข้ากันได้: ออกแบบมาเพื่อความเข้ากันได้สูง, สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ได้
ภาษาที่รองรับ: ภาษาอังกฤษเป็นหลัก, มาตรฐานข้อมูลรองรับหลายภาษา
REDCap
OpenClinica
OpenCDMS
ClinCapture
CTMS by OpenClinica
TrialSpark
OpenMRS
OpenEHR
ODK (Open Data Kit)
ConsentNow
Labkey
i2b2
OMOP
Open Source Clinical Trials
งบประมาณ: พิจารณาว่าคุณมีงบประมาณสำหรับเครื่องมือที่ต้องจ่ายเงินหรือไม่
ขนาดของการทดลอง: เลือกเครื่องมือที่เหมาะกับขนาดของการทดลองของคุณ
ความซับซ้อน: ประเมินทักษะทางเทคนิคของทีมและเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม
ฟีเจอร์ที่ต้องการ: พิจารณาว่าเครื่องมือมีฟีเจอร์ที่จำเป็นสำหรับการทดลองของคุณหรือไม่
การสนับสนุน: ตรวจสอบว่ามีการสนับสนุนทางเทคนิคและชุมชนที่แข็งแกร่งหรือไม่
ความเข้ากันได้: พิจารณาว่าเครื่องมือสามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ที่คุณใช้อยู่ได้หรือไม่
ภาษา: เลือกเครื่องมือที่รองรับภาษาที่คุณต้องการใช้
การปรับแต่ง: ประเมินว่าคุณต้องการปรับแต่งเครื่องมือมากน้อยเพียงใด และเครื่องมือนั้นรองรับการปรับแต่งได้หรือไม่
สำหรับการทดลองขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เครื่องมือเช่น REDCap, OpenCDMS, หรือ ClinCapture อาจเป็นตัวเลือกที่ดี
สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการระบบที่ครอบคลุม OpenClinica หรือ CTMS by OpenClinica อาจเหมาะสมกว่า
หากต้องการเก็บข้อมูลในพื้นที่ห่างไกล ODK เป็นตัวเลือกที่ดี
สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ i2b2 หรือ OMOP อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจเลือกใช้เครื่องมือใดๆ ควรทดลองใช้งานและประเมินความเหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของโครงการวิจัย
ลักษณะข้อมูล: ทะเบียนการทดลองทางคลินิกของประเทศไทย
การเข้าถึง: ฟรี สามารถสืบค้นออนไลน์ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
แหล่งข้อมูลหลักสำหรับการทดลองทางคลินิกในประเทศไทย
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองที่กำลังดำเนินการและที่เสร็จสิ้นแล้ว
เหมาะสำหรับนักวิจัย แพทย์ และผู้ป่วยในประเทศไทย
ลิงก์: https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/
ลักษณะข้อมูล: ข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับสมุนไพรไทย
การเข้าถึง: ฟรี สามารถอ่านออนไลน์ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
ให้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสมุนไพรไทย
มีบทความวิชาการที่เข้าใจง่ายสำหรับประชาชนทั่วไป
เหมาะสำหรับนักศึกษา นักวิจัย และผู้สนใจทั่วไป
ลิงก์: http://www.asean-ctn.org/
ลักษณะข้อมูล: เครือข่ายการทดลองทางคลินิกในภูมิภาคอาเซียน
การเข้าถึง: ข้อมูลบางส่วนสามารถเข้าถึงได้ฟรี บางส่วนอาจต้องลงทะเบียน
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองทางคลินิกในภูมิภาคอาเซียน
เชื่อมโยงนักวิจัยและสถาบันในภูมิภาค
เหมาะสำหรับนักวิจัยที่ต้องการทำงานร่วมกันในระดับภูมิภาค
ลักษณะข้อมูล: เครือข่ายทะเบียนการทดลองทางคลินิกของประเทศญี่ปุ่น
การเข้าถึง: ฟรี สามารถสืบค้นออนไลน์ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
แหล่งข้อมูลหลักสำหรับการทดลองทางคลินิกในญี่ปุ่น
มีข้อมูลทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ
เหมาะสำหรับนักวิจัยที่สนใจการทดลองในญี่ปุ่นหรือต้องการร่วมมือกับนักวิจัยญี่ปุ่น
ลักษณะข้อมูล: ทะเบียนการทดลองทางคลินิกของประเทศอินเดีย
การเข้าถึง: ฟรี สามารถสืบค้นออนไลน์ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
แหล่งข้อมูลหลักสำหรับการทดลองทางคลินิกในอินเดีย
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองที่กำลังดำเนินการและที่เสร็จสิ้นแล้ว
เหมาะสำหรับนักวิจัยที่สนใจการทดลองในอินเดียหรือต้องการศึกษาแนวโน้มการวิจัยในประเทศที่มีประชากรมาก
ลักษณะข้อมูล: ทะเบียนการทดลองทางคลินิกของประเทศจีน
การเข้าถึง: ฟรี สามารถสืบค้นออนไลน์ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
แหล่งข้อมูลหลักสำหรับการทดลองทางคลินิกในจีน
มีข้อมูลทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ
เหมาะสำหรับนักวิจัยที่สนใจการทดลองในจีนหรือต้องการเข้าใจแนวโน้มการวิจัยในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
ลักษณะข้อมูล: ทะเบียนการทดลองทางคลินิกของประเทศเกาหลีใต้
การเข้าถึง: ฟรี สามารถสืบค้นออนไลน์ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
แหล่งข้อมูลหลักสำหรับการทดลองทางคลินิกในเกาหลีใต้
มีข้อมูลทั้งภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษ
เหมาะสำหรับนักวิจัยที่สนใจการทดลองในเกาหลีใต้หรือต้องการร่วมมือกับนักวิจัยเกาหลี
ลิงก์: https://www.sgh.com.sg/research/clinical-trials-research-centre/clinical-trials-registry
ลักษณะข้อมูล: ทะเบียนการทดลองทางคลินิกของประเทศสิงคโปร์
การเข้าถึง: ฟรี สามารถสืบค้นออนไลน์ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
แหล่งข้อมูลสำหรับการทดลองทางคลินิกในสิงคโปร์
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองที่กำลังดำเนินการในสิงคโปร์
เหมาะสำหรับนักวิจัยที่สนใจการทดลองในสิงคโปร์หรือต้องการศึกษาแนวโน้มการวิจัยในประเทศที่มีความก้าวหน้าทางการแพทย์สูง
ฐานข้อมูลการทดลองทางคลินิกในเอเชียส่วนใหญ่มีการเชื่อมโยงกับ WHO International Clinical Trials Registry Platform (ICTRP) ซึ่งช่วยให้ข้อมูลจากฐานข้อมูลเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้ในระดับโลก นอกจากนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างฐานข้อมูลในภูมิภาค เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง ASEAN Clinical Trials Network กับฐานข้อมูลของประเทศสมาชิก
แต่ละประเทศในเอเชียมีข้อกำหนดทางกฎหมายและจริยธรรมที่แตกต่างกันในการทำวิจัยทางคลินิก นักวิจัยควรศึกษาข้อกำหนดเหล่านี้อย่างละเอียดก่อนเริ่มการทดลอง ตัวอย่างเช่น:
ในประเทศไทย: ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ และลงทะเบียนกับ Thai Clinical Trials Registry
ในประเทศญี่ปุ่น: ต้องปฏิบัติตาม Good Clinical Practice (GCP) ของญี่ปุ่นและได้รับการอนุมัติจาก Pharmaceuticals and Medical Devices Agency (PMDA)
ในประเทศจีน: ต้องได้รับการอนุมัติจาก National Medical Products Administration (NMPA) และลงทะเบียนกับ Chinese Clinical Trial Registry
ลิงก์: https://trialsearch.who.int/
ลักษณะข้อมูล: รวบรวมข้อมูลการทดลองทางคลินิกจากทะเบียนทั่วโลก
การเข้าถึง: ฟรี สามารถสืบค้นออนไลน์ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
ค้นหาการทดลองทางคลินิกที่กำลังดำเนินการอยู่ทั่วโลก
ช่วยนักวิจัยหลีกเลี่ยงการทำงานซ้ำซ้อน
ให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยเกี่ยวกับการทดลองที่อาจเข้าร่วมได้
ลิงก์: https://clinicaltrials.gov/
ลักษณะข้อมูล: ทะเบียนและฐานข้อมูลการทดลองทางคลินิกที่ใหญ่ที่สุด
การเข้าถึง: ฟรี สามารถสืบค้นออนไลน์ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
แหล่งข้อมูลหลักสำหรับการทดลองในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก
ให้ข้อมูลละเอียดเกี่ยวกับโปรโตคอลและผลการทดลอง
เหมาะสำหรับนักวิจัย แพทย์ และผู้ป่วยที่ต้องการข้อมูลล่าสุด
ลักษณะข้อมูล: ฐานข้อมูลการทดลองทางคลินิกที่ดำเนินการในสหภาพยุโรป
การเข้าถึง: ฟรี สามารถสืบค้นออนไลน์ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
แหล่งข้อมูลหลักสำหรับการทดลองในยุโรป
ให้ข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับกฎระเบียบและมาตรฐานของ EU
เหมาะสำหรับนักวิจัยที่ทำงานในหรือกับสหภาพยุโรป
ลิงก์: https://www.ema.europa.eu/en/medicines/field_ema_web_categories%253Aname_field/Herbal
ลักษณะข้อมูล: Monograph ของสมุนไพรที่ใช้ในยุโรป
การเข้าถึง: ฟรี สามารถดาวน์โหลด PDF ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือสำหรับการใช้สมุนไพรในยุโรป
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสมุนไพร
เหมาะสำหรับนักวิจัย ผู้ผลิตยาสมุนไพร และผู้กำกับดูแล
ลักษณะข้อมูล: ชุด Monograph ของพืชสมุนไพรที่ใช้ทั่วโลก
การเข้าถึง: ฟรี สามารถดาวน์โหลด PDF ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
แหล่งข้อมูลอ้างอิงระดับโลกสำหรับสมุนไพร
ให้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และการใช้งานตามภูมิปัญญาดั้งเดิม
เหมาะสำหรับนักวิจัย ผู้กำหนดนโยบาย และผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์แผนดั้งเดิม
ลิงก์: https://www.dtam.moph.go.th/index.php/th/service-menu/106-general-public/512-2018-07-13-07-47-15
ลักษณะข้อมูล: ข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพรไทย สรรพคุณ และการใช้งานทางการแพทย์
การเข้าถึง: ฟรี สามารถสืบค้นออนไลน์ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
แหล่งข้อมูลหลักสำหรับสมุนไพรไทย
ให้ข้อมูลทั้งตามภูมิปัญญาดั้งเดิมและการวิจัยสมัยใหม่
เหมาะสำหรับนักวิจัย แพทย์แผนไทย และประชาชนทั่วไป
ลิงก์: https://www.ayush.gov.in/publications/ayurvedic-pharmacopoeia-india.html
ลักษณะข้อมูล: มาตรฐานคุณภาพสำหรับยาอายุรเวทของอินเดีย
การเข้าถึง: สามารถดูออนไลน์ได้ฟรี บางส่วนอาจต้องซื้อเป็นรูปเล่ม
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
แหล่งข้อมูลอ้างอิงหลักสำหรับยาอายุรเวท
ให้ข้อมูลมาตรฐานคุณภาพและวิธีการตรวจสอบ
เหมาะสำหรับนักวิจัย ผู้ผลิตยาอายุรเวท และผู้กำกับดูแล
ลักษณะข้อมูล: ฐานข้อมูลครอบคลุมเกี่ยวกับยาสมุนไพรและอาหารเสริม
การเข้าถึง: ต้องสมัครสมาชิกและจ่ายเงิน
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
ข้อมูลละเอียดและทันสมัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
มีข้อมูลเกี่ยวกับปฏิกิริยาระหว่างยาและผลข้างเคียง
เหมาะสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เภสัชกร และนักวิจัย
ลักษณะข้อมูล: ฐานข้อมูลและแพลตฟอร์มวิเคราะห์สำหรับยาแผนจีนโบราณ
การเข้าถึง: ฟรี สามารถสืบค้นออนไลน์ได้
ประโยชน์ต่อผู้ใช้:
ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสารออกฤทธิ์และกลไกการทำงานของยาแผนจีน
มีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับการวิจัยเชิงระบบ
เหมาะสำหรับนักวิจัยด้านยาแผนจีนและการพัฒนายาใหม่
ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ: ใช้ฐานข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น องค์กรรัฐบาลหรือสถาบันวิจัยที่ได้รับการยอมรับ
พิจารณาความทันสมัย: ตรวจสอบวันที่ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลยังคงทันสมัย
ใช้หลายแหล่งข้อมูล: เปรียบเทียบข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อให้ได้มุมมองที่รอบด้าน
ทำความเข้าใจข้อจำกัด: แต่ละฐานข้อมูลอาจมีข้อจำกัดเฉพาะ ควรทำความเข้าใจและพิจารณาในการนำข้อมูลไปใช้
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: สำหรับการตัดสินใจทางคลินิกหรือการวิจัย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ เพิ่มเติม
การใช้ฐานข้อมูลเหล่านี้อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ และการรักษา ทั้งในด้านการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือก
Click >>>
xxx
xxxx