พื้นฐานของเรื่องนี้ มีคร่าวๆอยู่ 4 เรื่อง
เรื่อง แรก ขาของรถเครนโดยส่วนใหญ่มี 4 ขา โดยล้อต้องลอยจากพื้น ห้ามรับน้ำหนัก ห้ามใช้ไม้หมอนรองหนุน ห้ามใช้อะไรมาค้ำขารถเครนไว้ไม่ให้กระดก
เรื่องที่ 2 หลักการของไม้กระดกในสนามเด็กเล่น ฝั่งที่เรานั่งขับเครน คือ ฝั่งนึงของไม้กระดก ส่วนอีกฝั่ง จะเป็นฝั่งของชิ้นงาน น้ำหนักทั้งหมดจะกดลงที่ จุดหมุนของไม้กระดก หรือพูดอีกอย่าง คือ “จุดหมุนในการยกของ” คือ “ขารถเครน”
เรื่องที่ 3 น้ำหนักกดที่เราคำนวณ คิดง่ายๆ คือ น้ำหนักของรถเครนทั้งหมด + น้ำหนักของชิ้นงาน ต่อไปจะเรียกว่า “น้ำหนักกดรวม”
เรื่องสุดท้าย พื้นฐานของการคำนวณ ต้องยึดหลักว่า อยู่ในระดับน้ำทะเล 0 องศาถ้ายังไม่เข้าใจ กลับไปอ่านซ้ำใหม่ แล้วนึกภาพตามครับ ถ้าเข้าใจแล้ว มาต่อเลยครับ จะสอนการคำนวณของจริงกันแล้ว
วิธีการคำนวณมีขั้นตอนดังนี้ครับ
หนึ่ง, เอา “น้ำหนักรวม” (น้ำหนักรถเครน + น้ำหนักชิ้นงาน) เป็นตัวตั้ง
สอง, แรงกดของขารถเครนข้างที่ใกล้ชิ้นงาน ให้คิดข้างละ 75% ของน้ำหนักกด ส่วนข้างที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับชิ้นงาน ให้คิดข้างละ 50%สาม, เอาจำนวนพื้นที่หารน้ำหนักในแต่ละข้าง เราจะได้น้ำหนักแรงกดต่อพื้นที่ ไปเปรียบเทียบกับ วิศวกรโยธา (Civil Engineer) ที่คำนวณไว้
ยกตัวอย่างเช่น รถเครนน้ำหนัก 96 ตัน น้ำหนักถ่วง 135 ตัน ยกของ 49 ตัน ใช้แผ่นเหล็กแบบ 2ม. X 2ม. ขารถเครนแต่ละข้างรับน้ำหนักที่เท่าไหร่น้ำหนักรวม คือ 96 + 135 + 49 ตัน = 280 ตันจำนวนพื้นที่ คือ 2ม. X 2ม. = 4 ตารางเมตรขารถเครนข้างฝั่งที่ยกของคำนวณที่ 75%280 x 0.75 = 210 ตันแรงกดต่อตารางเมตร คือ 210ตัน/4ตารางเมตร = 52.5 ตันต่อตารางเมตร
ขารถเครนข้างฝั่งตรงข้ามคำนวณที่ 50%280 x 0.5 = 140 ตันแรงกดต่อตารางเมตร คือ 140ตัน/4ตารางเมตร = 35 ตันต่อตารางเมตร
คราวนี้ต้องคำนวณดูว่า พื้นที่รับแรงกดพอได้หรือเปล่า ถ้าไม่พอก็มี 2 วิธี คือ หนึ่ง, ปรับสภาพพื้นที่ กับ สอง, ขยายขนาดของแผ่นรองขา ซึ่งวิธีที่สองจะใช้ได้ง่ายกว่า ประหยัดกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับไม่ตายตัว
เตือนกันซักนิดสำหรับผู้ใช้รถเครนไม่ควรยึดติดกับสิ่งเหล่านี้
1.ระดับน้ำ : รถเครนที่ทำงานในเมืองไทย ส่วนใหญ่จะเก่า ผลิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10-20 ปี ระดับน้ำหลายคันมีตามด หรือสนิม ทำให้เชื่อถือไม่ได้เท่ารถเครนใหม่ๆ
2.ไฟสัญญาณ 3 สี : ไฟสัญญาณนี้ คือ สัญญาณเตือนปลายเหตุ/ ต้นเหตุ คือ การอ่านกราฟให้เป็น และการตั้งรถอย่างถูกต้องมากกว่า
3.คอมพิวเตอร์ รถเครน : คอมพิวเตอร์รถเครน ก็เป็นปลายเหตุเหมือนกัน/ ในตำรา OSHA and ANSI บอกว่า ให้เชื่อถือการคำนวณหน้างาน มากกว่าเชื่อถือคอมพิวเตอร์รถ
4.ใส่ หมวก ใส่เข็มขัด ใส่รองเท้าเซฟตี้ ระหว่างขับเครน : ใส่พวกนี้แล้ว (PPE) ไม่ได้ทำให้ทำงานปลอดภัยขึ้น กับเพิ่มความเครียดให้กับ พนักงานขับรถเครน
อ้างอิงจากสภาอุตสาหกรรมรถเครนประเทศออสเตรเลีย และมาตรฐานกระทรวงความปลอดภัยอเมริกา
เครดิต กลุ่มผู้ประกอบการรถเครนแห่งประเทศไทย , http://paitooncrane.blogspot.com/