หนังสือภายใน
ตามระเบียบข้อ ๑๒ หนังสือภายใน คือ หนังสือติดต่อราชการที่เป็นแบบพิธีน้อยกว่าหนังสือภายนอก เป็นหนังสือติดต่อภายในกระทรวง ทบวง กรม หรือจังหวัดเดียวกัน ใช้กระดาษบันทึกข้อความโดยจะต้องจัดทำตามแบบที่ ๒ และกรอกรายละเอียดดังนี้
๑.ส่วนราชการ ให้ลงชื่อส่วนราชการเจ้าชองเรื่อง หรือหน่วยงานที่ออกหนังสือ โดยมีรายละเอียดพอสมควร โดยปกติถ้าส่วนราชการที่ออกหนังสืออยู่ในกรมขึ้นไป ให้ลงชื่อส่วนราชการเจ้าชองเรื่องทั้งระดับกรมและกอง พร้อมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ (ถ้ามี)
ตัวอย่างเช่น
สำนักงายยกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายยกรัฐมนตรี โทร ๐ ๒๘๑๐ ๔๐๔๐
สำนักคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักอำนวย โทร ๐ ๒๒๘๑ ๕๕๕๕
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กองกลาง โทร...........................
ถ้าส่วนราชการที่ออกหนังสืออยู่ในระดับต่ำกว่ากรมลงมา ให้ลงชื่อส่วนราชการเจ้าชองเรื่องเพียงระดับกอง หรือส่วนราชการเจ้าชองเรื่อง พร้อมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ (ถ้ามี)
ตัวอย่างเช่น
แบบที่ ๑ ส่วนราชการเจ้าของเรื่องระดับกอง
สำนักอำนวยการ โทร. ๐ ๒๒๘๑ ๕๕๕๕
แบบที่ ๒ ส่วนราชการเจ้าของเรื่องภายในหน่วยงาน
กลุ่มงานสิทธิประโยชน์และข้อมูลบุคคล โทร. ๐๒๒๘๑ ๕๕๕๕ ต่อ ๑๖๐๗
๒. ที่ ให้ลงรหัสตัวพยัญชนะ และเลขประจำตัวของเจ้าของเรื่องตามที่กำหนดไว้ ทับเลขทะเบียนหนังสือส่ง สำหรับหนังสือของคณะกรรมการ ให้กำหนดรหัสพยัญชนะเพิ่มขึ้นตามความจำเป็น
ตัวอย่างเช่น
ที่ ศธ ๐๕๘๑.๐๓/๕๐๕ มีความหมายดังนี้
ศธ หมายถึง รหัสตัวพยัญชนะของกระทรวงการศึกษาธิการ
ตัวเลขสองตัวแรก ๐๕ หมายถึง รหัสส่วนตัวราชการระดับกรม
ตัวเลขสองตัวหลัง ๘๑ หมายถึง รหัสส่วนตัวราชการระดับกอง
ตัวเลขหลังจุดสองตัว .๐๓ หมายถึง หน่วยงานในสังกัด
/๕๐๕ หมายถึง ทะเบียนเลขที่หนังสือ
๓. วันที่ ให้ลงตัวเลขชองวันที่ ชื่อเต็มชองเดือน และตัวเลขของปีพุทธศักราชที่ออกหนังสือ
ตัวอย่างเช่น
๒๐ พฤษภาคม ๒๕..........
๔. เรื่อง ให้ลงเรื่องย่อที่เป็นใจความสั้นที่สุดของหนังสือฉบับนั้น ในกรณีที่เป็นหนังสือต่อเนื่องให้ลงเรื่องเดิมของหนังสือฉบับเดิม
ตัวอย่างเช่น
เรื่อง ขอให้สำรวจนักเรียน/นักศึกษาพ้นสภาพ
เรื่อง การใช้ระเบียบสำนักนายยกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสรบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖
๕. คำขึ้นต้น ให้ใช้คำขึ้นต้นตามฐานะของผู้รับหนังสือตามตารางการใช้คำขึ้นต้น สรรพนามและคำลงท้ายที่กำหนดไว้ แล้วลงตำแหน่งของผู้ที่หนังสือนั้นมีถึง หรือชื่อบุคคล ในกรณีที่มีถึงตัวบุคคลไม่เกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่
๖. ข้อความ ให้ลงสาระสำคัญของเรื่องให้ชัดเจนและเข้าใจง่าย หากมีความประสงค์หลายประการ ให้แยกเป็นข้อๆ ในกรณีที่มีการอ้างอิงหนังสือที่เคยมีการติดต่อ หรือมีสิ่งที่ส่งมาด้วย ให้ระบุไว้ในข้อนี้
ในการเขียนข้อความ ควรให้ย่อหน้าแรกเป็นภาคเหตุ ย่อหน้าที่ ๒ เป็นภาคความประสงค์และย่อหน้าสุดท้ายเป็นภาคสรุป
๗. การลงชื่อและตำแหน่ง ให้ลงลายมือชื่อเจ้าของหนังสือ และให้พิมพ์ชื่อเต็มของเจ้าของลายมือชื่อไว้ใต้ลายมือชื่อ ส่วนตำแหน่งของเจ้าของหนังสือ ตัวอย่างเช่น
ลายมือชื่อ
(นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์)
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ในกรณีที่กระทรวง ทบวง กรม หรือจังหวัด ประสงค์จะกำหนดแบบการเขียนโดยเฉพาะเพื่อใช้ตามความเหมาะสม ก็ให้กระทำได้