1. ดิสโทเนีย
ดิสโทเนีย (dystonia; dys: ผิดปกติ, tonia: ความตึงเครียด) เป็นความผิดปกติทางสรีระที่กล้ามเนื้อเกิดการบิดเนื่องจากความตึงเครียดของกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่อง หรือการเคลื่อนไหวซ้ำๆ พบได้บริเวณคอ เปลือกตา ใบหน้า ปาก เป็นต้น ดิสโทเนียเป็นโรคเกี่ยวกับความผิดปกติในการเคลื่อนไหวที่พบมากที่สุดเป็นอันดับสาม ถัดจากโรคพาร์กินสัน และโรคสั่น (essential tremor) ที่จำเป็น ดิสโทเนียเกิดตั้งแต่วัยเด็กถึงวัยชรา และมีแนวโน้มที่จะเป็นทั่วร่างกายหากเกิดตั้งแต่อายุน้อย (ดู บทความอ้างอิง 26 หนังสืออ้างอิง 1)
•ดิสโทเนียในช่องปากและขากรรไกร
ดิสโทเนียในช่องปากและ/หรือขากรรไกร (oromandibular dystonia) พบเห็นอาการได้ที่ปากและขากรรไกร โดยจะมี ดิสโทเนียขากรรไกรปิด (jaw closing dystonia) อาการที่ปากปิดนอกเหนือการควบคุม (รูปที่ 1), ดิสโทเนียขากรรไกรเปิด (jaw opening dystonia) อาการที่ปากเปิดนอกเหนือการควบคุม (รูปที่ 2), ดิสโทเนียลิ้นยื่น (tongue protrusion dystonia) อาการที่ลิ้นยื่นออกมาด้านนอก (รูปที่ 3), ดิสโทเนียขากรรไกรเคลื่อน (jaw deviation dystonia) อาการที่ขากรรไกรล่างเลื่อนออกด้านข้าง (รูปที่ 4), ดิสโทเนียขากรรไกรยื่น (jaw protrusion dystonia) อาการที่ขากรรไกรล่างยื่นออกมาด้านหน้า (รูปที่ 5) เป็นต้น (ดู บทความอ้างอิง 13, 17-22, 26) ดิสโทเนียในช่องปากและขากรรไกรมักถูกวินิจฉัยผิดว่าป่วยเป็นโรคข้อต่อขากรรไกรหรือโรคทางจิต ด้วยเหตุนี้ผู้ป่วยหลายรายที่มีอาการมักจะต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัยในโรงพยาบาลและหน่วยงานหลายแห่งเป็นเวลานานหลายปีก่อนที่จะได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเข้ารับการตรวจวินิจฉัยที่แผนก ทันตกรรม หรือศัลยกรรมช่องปาก มักถูกวินิจฉัยว่าเป็นอาการของข้อต่อขากรรไกรหรืออาการกัดฟัน ภาพถ่ายของผู้ป่วยที่แสดงอยู่ในเว็บไซต์นี้ได้รับความยินยอมจากเจ้าของภาพ
รูปที่ 1. กรณีตัวอย่างของดิสโทเนียขากรรไกรปิด ผู้ป่วยรายนี้เมื่อเริ่มที่จะพูด กล้ามเนื้อที่ทำงานขณะกัดปาก (กล้ามเนื้อสำหรับกัด masseter) จะหดตัวและไม่สามารถเปิดปากได้ ผู้ป่วยรายนี้ยังเป็นดิสโทเนียตา ซึ่งมีอาการกล้ามเนื้อกระตุกของ เปลือกตา (blepharospasm) ร่วมด้วย ซึ่งในกรณีนี้เรียกว่ากลุ่มอาการของโรค Meige.
Video 1. Jaw closing dystonia (Meige syndrome)
รูปที่ 2. กรณีตัวอย่างของดิสโทเนียขากรรไกรเปิดใ ผู้ป่วยนี้เมื่อเริ่มที่จะพูด กล้ามเนื้อที่ทำงานเปิดปาก (กล้ามเนื้อ pterygoid ด้านข้าง) จะหดตัวนอกเหนือการควบคุม ทำให้ไม่สามารถพูดได้ ผู้ป่วยไม่แสดงอาการในระหว่างการรับประทานอาหารและขณะอยู่นิ่ง
รูปที่ 3. กรณีตัวอย่างของดิสโทเนียลิ้นยื่น เมื่อผู้ป่วยเริ่มที่จะพูดคุย กล้ามเนื้อของลิ้น (musculus genioglossus) จะค่อยๆทำงานจนลิ้นยื่นออกมาจากปาก ผู้ป่วยไม่แสดงลิ้นหดตัวในระหว่างการเคลื่อนไหวอื่น ๆ เช่นการกินหรือกลืน.
Video 2. Tongue protrusion dystonia
รูปที่ 4. กรณีตัวอย่างของดิสโทเนียขากรรไกรเคลื่อน เมื่อผู้ป่วยรายนี้ปิดปากขากรรไกรล่างจะเคลื่อนไปทางขวาประมาณ 8 mm ไปสาเหตุเป็นเพราะกล้ามเนื้อ pterygoid ด้านข้างซ้ายหดตัวนอกเหนือการควบคุม ผู้ป่วยได้แสดงอาการนี้เป็นเวลานาน แม้ในขณะอยู่นิ่งก็มีอาการกล้ามเนื้อหดตัวผิดปกติ ขากรรไกรอาจเคลื่อนได้ในกรณีที่เป็นโรคข้อต่อขากรรไกร แต่ในกรณีดังกล่าวขณะเปิดปาก หมอนรองข้อต่อขากรรไกรจะเลื่อนออกด้านข้าง จากการถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI) ไม่พบความผิดปกติใดของข้อต่อขากรรไกรในผู้ป่วยนี้
รูปที่ 5. กรณีตัวอย่างของดิสโทเนียขากรรไกรยื่น ขากรรไกรของผู้ป่วยนี้ยื่นออกมาด้านหน้า เนื่องจากการหดตัวนอกเหนือการควบคุมของกล้ามเนื้อpterygoidด้านข้างทั้งสองด้าน ผู้ป่วยได้แสดงอาการนี้มาเป็นเวลานาน แต่ไม่มีความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร สามารถออกแรงบังคับตำแหน่งขากรรไกรบนล่างให้สามารถเคี้ยวอาหารได้
2. ลักษณะเด่นทางการตรวจรักษาดิสโทเนียช่องปากและขากรรไกร
ลักษณะทางการตรวจรักษาดิสโทเนียมีดังต่อไปนี้ (บทความอ้างอิง 13, 26 หนังสืออ้างอิง1)
•รูปแบบตายตัวในการหดตัวของกล้ามเนื้อ
ผู้ป่วยแต่ละรายจะมีรูปแบบของการหดตัวของกล้ามเนื้อของที่ตายตัว ดิสโทเนียช่องปากและขากรรไกรจะมีทิศทางการเคลื่อนไหวขณะปิดปากและเปิดปากเช่นเดิมเสมอ
•การกระทำที่เฉพาะเจาะจง
ดิสโทเนียมักจะเกิดขึ้นและมีอาการมากขึ้นเมื่อมีการกระทำที่เฉพาะเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อออกเสียงพูดหรือบดเคี้ยวภายในช่องปาก ปากจะเปิด ลิ้นจะยื่นออกด้านนอก หรือเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติอื่นๆ แต่ในขณะที่ขากรรไกรเคลื่อนไหวแบบอื่นหรือขณะอยู่นิ่งมักจะไม่พบอาการผิดปกติ ทั้งนี้อาการของดิสโทเนียที่เกิดขึ้นเป็นประจำอาจพบเห็นได้ในผู้ป่วยที่เป็นมาเป็นเวลานานหรือมีอาการหนัก
•เทคนิคทางประสาทสัมผัส
การกระตุ้นประสาทสัมผัส สามารถบรรเทาอาการหรือทำให้อาการเป็นมากขึ้นได้ สำหรับภายในช่องปาก การให้คาบหมากฝรั่ง ผ้าเช็ดหน้า หรือบุหรี่ หรือแตะขากรรไกรล่างหรือฟันเบาๆ อาจสามารถที่จะหยุดดิสโทเนียได้ชั่วคราวหรือทำให้อาการหายได
•ประโยชน์ของการตื่นเช้า
ขณะตื่นนอนตอนเช้า หรือการตื่นแต่เช้าจะช่วยบรรเทาอาการดิสโทเนียได้ อาการของดิสโทเนียมากกว่าครึ่งมีแนวโน้มที่จะลดความรุนแรงลงในขณะตื่นนอนตอนเช้า แต่สำหรับกรณีโรคข้อต่อขากรรไกรแบบที่หนึ่งซึ่งเกิดจากการกัดฟันหรือความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคี้ยวอาหารมักเกิดอาการในขณะตื่นนอน ลักษณะนี้เป็นสิ่งสำคัญในการตรวจวินิจฉัยแยกโรค
•การหดตัวร่วม
โดยปกติ กล้ามเนื้อที่หดตัวทางเดียวกันและกล้ามเนื้อที่หดตัวต้านกันจะไม่ขัดขวางการเคลื่อนที่ของกันและกัน ยกตัวอย่างเช่นในระหว่างเปิดปาก กล้ามเนื้อที่ใช้ในการปิดปากจะไม่หดตัว ส่วนในระหว่างที่ปิดปาก กล้ามเนื้อที่ใช้ในการเปิดปากก็จะไม่หดตัว ในกรณีของดิสโทเนีย กล้ามเนื้อทั้งสองจะสูญเสียสมดุลของการยับยั้งซึ่งกันและกัน กล้ามเนื้อที่หดตัวต้านกันจะหดตัวพร้อมกัน ทำให้เกิดการขัดขวางการเคลื่อนที่ที่ต้องการกระทำ กรณีกล้ามเนื้อสำหรับกัด กล้ามเนื้อใช้ในการเปิดปากและกล้ามเนื้อที่ใช้ในการปิดปากจะหดตัวพร้อมกัน เป็นอุปสรรคในการออกเสียงหรือการบดเคี้ยว
•ปรากฏการณ์กลับไปกลับมา
อาการของดิสโทเนียสามารถปรากฏทันทีหรือหายไปในทันที เมื่อมีการกระทำบางสิ่งบางอย่าง กรณีที่อาการเกิดขึ้นได้ไม่นาน อาจรักษาให้หายขาดได้โดยฉับพลันระหว่างการรักษา
•อาการสั่น
อาการสั่นเกิดกับบางส่วนของร่างกายหรือทั่วทั้งตัวโดยไม่ได้บังคับ เป็นการเคลื่อนไหวกลับไปมาซ้ำๆอย่างรวดเร็วและมีลักษณะแน่นอน การสั่นในระหว่างอยู่นิ่งบริเวณศีรษะอาจพบที่ริมฝีปาก ลิ้น และขากรรไกรล่าง ดิสโทเนียเชิงกรรมพันธุ์อาจแสดงเฉพาะอาการสั่นเท่านั้น
หากไม่มีลักษณะของดิสโทเนียดังกล่าวข้างต้น ผู้ป่วยอาจมีการเคลื่อนไหวนอกเหนือการควบคุมที่เกิดจากอาการทางจิต (psychogenic) การเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (มีการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบ การกระจายตัว ความเร็ว) การที่อาการบรรเทาลงเองตามธรรมชาติหรือการกลับมาเป็นใหม่ เป็นลักษณะเฉพาะของการเคลื่อนไหวนอกเหนือการควบคุมที่เกิดจากอาการทางจิต
3. ดิสคีเนเซีย (dyskinesia)
Dyskinesia (dyskinesia; dys: ผิดปกติ, kinesia:การเคลื่อนไหว)หมายถึงการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ซึ่งต่างจากดิสโทเนียที่แสดงอาการตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ดิสคีเนเซียบริเวณปากหรือลิ้นจะแสดงอาการที่ลิ้น ริมฝีปาก ขากรรไกรล่าง เป็นการเลีย หรือการเคี้ยวบางสิ่งบางอย่างนอกเหนือการควบคุมซ้ำแล้วซ้ำอีก พบได้ในผู้สูงอายุหรือผู้ที่ใช้ยาทางจิตเวชเป็นเวลานาน ลิ้นหรือริมฝีปากที่เคลื่อนไหวซ้ำๆจากอาการดิสคิเนเซีย อาจกระทบกับฟันจนเป็นแผลได้ (รูปที่ 6) (ดิสคีเนเซีย)
รูปที่ 6. กรณีตัวอย่างของการที่ริมฝีปากล่างเคลื่อนไหวขูดกับฟันหน้าบริเวณขากรรไกรล่างจนถูกเจาะเป็นรู
Video 3. Oral dyskinesia
4. โรคกัดฟัน (bruxism)
โรคกัดฟันเป็นชื่อเรียก การสบฟันอย่างแรงที่เกิดขึ้นนอกเหนือการควบคุมจนเป็นนิสัย ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างนอน หรือตั้งสมาธิทำงานที่ละเอียด หรือในขณะที่ตื่นเต้น ก่อนให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อสำหรับกัด หรือกล้ามเนื้อส่วนข้างศีรษะ (จากแก้มถึงขมับ ตลอดบริเวณข้างศีรษะ) ขณะตื่นนอนตอนเช้า และอาการฟันสึกเนื่องจากฟันเสียดสีกัน การกัดฟันที่มีอาการรุนแรงและเป็นในระยะเวลานานอาจทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อสำหรับกัดโต, โรคกล้ามเนื้อยืดตัวเกิน (coronoid), โรคเส้นเอ็นยึดกล้ามเนื้อกลุ่มบดเคี้ยว-พังผืดเจริญเติบโตผิดปกติจนไม่สามารถเปิดปากได้ (โรคกัดฟัน)