ละครรุ่นที่ 38 ฉันชื่อบุษบา

ฉันชื่อบุษบา

ละครเวทีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รุ่น 38

โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม

“ฉันชื่อบุษบา” เป็นบทละครเวทีดัดแปลงจากสุดยอดงานประพันธ์ของศ.ดร.มัทนี โมชดารารัตนิน สมัยที่ท่านสร้างสรรค์ผลงานของแผนกการละคอนคณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในชื่อเรื่อง “บุษบาริมทาง-อีสาน” ซึ่งเป็นผลงานละครสำหรับประชาชนอันดับที่ 8 แต่เดิมบทละครบุษบาริมทาง-อีสานนั้นได้รับการดัดแปลงมาจากละครตะวันตกจากบทละครเพลง My Fair Lady ของ Alan Jay Lerner จากเค้าโครงเรื่อง Pygmalion ของ George Bernard Shaw ซึ่งมีรายละเอียดที่งดงามและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทุกท่าน

เมื่อกาลเวลาผันเปลี่ยนมาจนถึงปี พ.ศ. 2558 นี้ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงได้ตัดสินใจนำผลงาน บุษบาริมทาง-อีสานกลับมามีชีวิตบนเวทีอีกครั้งสำหรับเทศกาลละครประจำปีของนักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ในรุ่น ที่ 38 แต่หลังจากการฝึกซ้อมและปฏิบัติงานสักระยะหนึ่งค้นพบว่าเวลาเป็นอีกหนึ่งข้อจำกัดที่มีผลต่อการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ให้ดำเนินต่อไปได้ ด้วยองค์ประกอบของโปรดักชั่น จำนวนนักแสดง และระยะเวลาการซ้อม ดังนั้นข้าพเจ้าในฐานะ ผู้ฝึกซ้อมการแสดงจึงตัดสินใจดัดแปลงบทละครนี้เพื่อให้ง่ายต่อการฝึกซ้อมและจัดแสดงทั้งในแง่ลักษณะนิสัยของ ตัวละครและช่วงวัยที่มีความใกล้เคียงต่อนักแสดงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อให้มีความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและเป็นเรื่องใกล้ตัวอันจะนำมาใช้เทียบเคียงกับสิ่งที่ตนและตัวละครมีร่วมกันหรือปรับยุคสมัยรวมทั้งภาษาให้อยู่ใน สมัยปัจจุบัน ทั้งนี้ข้าพเจ้ายังคงรักษาแก่นของเรื่อง (Theme) ไว้ไม่ให้สูญหายไป เพียงแต่ดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยและถูกใจผู้ชมเพื่อให้ได้รับอรรถรสและยังคงความต้องการเดิมที่ผู้ประพันธ์สอดแทรกไว้

จะเป็นอย่างไรเมื่อเด็กสาว “สา” หรือ “นริสา” เด็กหญิงจากภาคอีสาน ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็น “บุษบา” สาวน้อยที่จากถิ่นฐานเดิมของตนมาขายมาลัยในเมืองกรุง สำเนียงเหน่อที่เป็นเอกลักษณ์และตัดไม่ขาดนี่เองที่คนทั่วไปจะเห็นได้และหลงรักในความซื่อใสของตัวละครนี้ ท่ามกลางชีวิตที่เร่งรีบและฉาบไปด้วยความสวยงามที่ห่อหุ้มมนุษย์อย่างเราๆไว้ทำให้เราเห็นชัดเจนถึงเส้นกั้นระหว่างชนชั้น “ผู้ดี” และ “ชนชั้นล่าง” ในเมื่อความสุขของคนในปัจจุบันคือ “เงิน” แต่เงินนั้นจะสามารถทำให้เรามีความสุขที่แท้จริงได้หรือไม่ บุษบาจะเดินทางพาท่านทั้งหลายไปพิสูจน์ว่าช่องว่างระหว่างชนชั้นของสังคมโดยมี “เป็นเอก” นักศึกษาหนุ่มผู้ที่มีความเนี้ยบและรอบรู้กับ “กรุณย์” เพื่อนสนิทที่อ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษเป็นคนคอยขัดเกลาและดูแลให้บุษบากลายเป็นผู้ดีที่ไม่มีใครจับได้ได้อย่างไร และในสังคมปัจจุบันของเรานั้นยังแบ่งแยกอะไรอีกบ้าง หวังว่าทุกท่านคงได้ขบคิดและหัวเราะไปกับความสนุกที่ข้าพเจ้าพยายามสอดแทรกไว้ในแต่ละฉาก

คำพูดหนึ่งของเป็นเอกในฉากสุดท้ายที่พูดกับบุษบาที่ข้าพเจ้าชื่นชอบอย่างมากนั่นคือ “ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไรแล้ว ฉันไม่สนด้วยว่าดอกไม้จะต้องอยู่ในแจกันหรือกระจาด มันอยู่กับว่าใครสนใจดอกไม้นั่นแล้วมันมีความหมายกับเขายังไง” ข้าพเจ้าเองอยากให้ผู้อ่านและผู้ชมได้มองเห็นคุณค่าและความหมายของชีวิตมากกว่าสิ่งที่เราปรุงแต่งขึ้นมา และไม่ว่าท่านจะอยู่ในกระจาดหรือแจกัน ขอให้ท่านทั้งหลายจงภูมิใจในความงามและความสามารถของท่านเสมอ ทั้งนี้ข้าพเจ้าเองต้องขอชื่นชมในความสามารถและความพยายามของนักแสดงและทีมงานซึ่งส่วนมากไม่เคย ผ่านงานแสดงหรือการทำละครมาก่อนเลย หากจะมีข้อผิดพลาดใดที่เกิดขึ้นบ้างก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ และขอให้ความน่าเอ็นดูของพวกเขาทั้งหลายเป็นส่วนที่จะเติมเต็มรอยยิ้มให้กับทุกท่านด้วย และอีกหนึ่งบุคคลที่ข้าพเจ้าต้องขอขอบคุณในความเมตตาของท่าน คุณครูบุญรัตน์ แจ่มกระจ่าง ผู้ที่พยายามอบรมสั่งสอนและเคี่ยวเข็ญจนเกิดเป็นละครธรรมศาสตร์คลองหลวงขึ้นมาได้ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่าละครนั้นสามารถขัดเกลาทุกคนได้ และคุณครูเป็นผลพิสูจน์ในข้อนี้ว่าละครที่คุณครูทำนั้น แม้จะเริ่มต้นจากรายวิชาเล็กๆแต่สามารถต่อยอดมาได้อย่างมากมายและละครนำพาเราทุกคนมาพบกัน แต่ละคนจะได้เรียนรู้การทำงานละครที่ไม่ได้ง่ายไปกว่าศาสตร์สาขาวิชาไหน คุณครูมีจิตใจที่จะขัดเกลาให้เด็กๆเป็นคนมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนและเป็นคนที่สามารถใช้ศักยภาพของตัวเองเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้ ข้าพเจ้าอยาก เรียนขอให้คุณครูได้โปรดสานต่อการทำละครต่อไปเพื่อให้นักเรียนอีกหลายๆคนได้มีโอกาสพัฒนาตัวเอง พบเจอมิตรภาพระหว่างทาง แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะต้องพบกับความยากลำบากในกระบวนการทำงานก็ตาม

หากผู้อ่านหรือผู้ชมท่านใดที่เคยศึกษาหรือรับชมบุษบาริมทาง-อีสาน หรือผลงานอื่นๆของ ศ.ดร.มัทนี โมชดารา รัตนิน เล็งเห็นว่ามีข้อบกพร่องหรืออาจเสียอรรถรสของบทประพันธ์เดิมนั้น ข้าพเจ้าขอน้อมรับทุกข้อผิดพลาดด้วยใจจริงต่อผู้อ่าน ผู้ชม และผู้ประพันธ์ ด้วยข้าพเจ้าเองเพียงต้องการสร้างสรรค์ผลงานให้มีความเหมาะสมกับยุคสมัยและเป็นไปเพื่อความสะดวกต่อการผลิตผลงานนี้ให้ลุล่วงตามเป้าหมายและระยะเวลาที่กำหนดไว้ ข้าพเจ้าต้องขออภัยอย่างสูงต่อ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในการนำบทประพันธ์นี้มาดัดแปลงเท่าที่ศักยภาพของข้าพเจ้ามีในขณะนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่าน ผู้ชม และผู้ประพันธ์จะให้ความกรุณาต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และขอให้ทุกท่านมีความสุขกับตัวละครและนักแสดงตัวน้อยที่จะนำพาท่านเชื่อมระหว่าง “โลกละคร” และ “โลกชีวิตจริง” ที่เหลื่อมล้ำจนแทบจะเป็นผืนแผ่นเดียวกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทละครฉบับใหม่นี้จะช่วยฉุกคิดอะไรจากผู้ชมถึงช่องว่างบางประการในสังคม ที่เราเผลอมองข้ามหรือตั้งใจจะมองข้ามในบางเวลา

ด้วยความเคารพอย่างสูง

กันตพัฒน์ สุดใจ

ดูรูปภาพเพิ่มเติมได้ ที่นี้