วินัย บัวประดิษฐ์ นักศึกษาปริญญาเอกสาขายุทธศาสตร์การพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์
รศ.ดร.สุชาติ แสงทอง อาจารย์ที่ปรึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์
ดร.ประกอบ สาระวรรณ อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารนโยบายด้านการท่องเที่ยวจังหวัดหนองบัวลำภู ใช้ระเบียบวิธีการศึกษาแบบผสมทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ เก็บข้อมูลจากกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดและนักท่องเที่ยวในงานเทศกาล “เที่ยวหอยหิน กินลำไย ไหว้หลวงปู่ขาว” จำนวน 398 ตัวอย่าง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาและสถิติพรรณนา ผลการศึกษาพบว่า เครือข่ายองค์กรทั้งในระดับจังหวัด อำเภอและตำบลมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนารูปแบบของการบริหารนโยบายด้านการท่องเที่ยวจังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีการวิเคราะห์ผ่านกรอบแนวคิด 7s Model เป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวให้มีมาตรฐาน ผลการประเมินการใช้รูปแบบการบริหารดังกล่าว พบว่า ความพึงพอใจต่อความเหมาะสมและความสอดคล้องของหน้าที่กับนโยบายการจัดงาน คิดเป็นร้อยละ 86.7 ความเพียงพอของบุคลากรในการจัดงาน คิดเป็นร้อยละ 80.0 และความชัดเจนของการอำนวยการที่เอื้อต่อการจัดงาน คิดเป็นร้อยละ 77.8 ในขณะที่นักท่องเที่ยวมีความพึงพอใจต่อการเที่ยวงาน คิดเป็นร้อยละ 87.4 ข้อมูลข่าวสารการแสดงป้ายข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว คิดเป็นร้อยละ 88.4 ความสะดวกของเส้นทางเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว คิดเป็นร้อยละ 89.0 ความสวยงามบริเวณการจัดงานท่องเที่ยว คิดเป็นร้อยละ 85.0 และการดูแลของเจ้าหน้าที่มีต่อนักท่องเที่ยว คิดเป็นร้อยละ 88.5 โดยทั่วไปการจัดงานในปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า รูปแบบของการบริหารนโยบายด้านการท่องเที่ยวจังหวัดที่นำมาใช้นั้นมีประสิทธิภาพ ควรนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารการท่องเที่ยวที่มีบริบททั่วไปใกล้เคียงกันต่อไป
คำสำคัญ: การบริหารนโยบาย การท่องเที่ยว