จากการวิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสบการณ์การทะเลาะวิวาทอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ประกอบด้วย ปัจจัยที่ไวต่อการตอบสนอง (Sensitivity) อันดับแรกคือ การขัดเกลาทางสังคมโดยตรง (b=.392;P-value<001) รองลงมาคือ พฤติกรรมส่วนบุคคล (b=.225;P-value=.001) การทะเลาะวิวาทของครอบครัว (b=.500;P-value=.001) ความไม่คาดหวังอนาคต (b=.521;P-value=.001) และคาดหวังจะเป็นที่พึ่งของครอบครัว (b=-.170;P-value=.027) ตามลำดับ ทั้ง 5 ปัจจัยสามารถพยากรณ์พฤติกรรมการทะเลาะวิวาทของเด็กวัยรุ่นได้ร้อยละ 23.4 (R2=.234)
พอสรุปได้ว่าพฤติกรรมการทะเลาะวิวาทของเด็กวัยรุ่นนั้นได้รับอิทธิพลมาจากทั้งที่เป็นปัจจัยทางสังคมเป็นอันดับแรกผ่านการขัดเกลาทางสังคมโดยตรง ทำให้เกิดพฤติกรรมการส่วนบุคคล อีกทั้งเสริมด้วยการรับรู้ถึงการทะเลาะวิวาทของครอบครัว ทำให้วัยรุ่นไม่สามารถคาดหวังอนาคตได้ ส่วนปัจจัยด้านความคาดหวังจะเป็นที่พึ่งของครอบครัวมีอิทธิพลทางลบกับประสบการณ์การทะเลาะวิวาท สามารถเขียนในรูปสมการได้ดังนี้
พฤติกรรมการทะเลาะวิวาทของเด็กวัยรุ่น= 4.448+.393 (การขัดเกลาทางสังคมโดยตรง) + .225 (พฤติกรรมการส่วนบุคคล) + .500 (การทะเลาะวิวาทของครอบครัว) + .521 (ไม่คาดหวังอนาคตได้) -.170 (คาดหวังจะเป็นที่พึ่งของครอบครัว); R2=.234