ประเภทการส่งข้อมูลโดยใช้สื่อกลาง
ประเภทการส่งข้อมูลโดยใช้สื่อกลาง
ประเภทของสื่อกลางที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูล
ประเภทของสื่อกลางที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลแบ่งได้ 2 ประเภท ดังต่อไปนี้
1. สื่อสัญญาณทางสาย มี 3 แบบ ได้แก่
1.1 สายคู่บิดเกียว (Twisted Pair Cable) สายคู่บิดเกลียว ประกอบด้วยสายทองแดง 2 เส้น แต่ละเส้นมีมุมฉนวนหุ้มพันกันเป็นเกลียว มีการส่งสัญญาณ สายคู่บิดเกลียว 1 คู่ แทนการสื่อสารได้
- สายคู่บิดเกลียวแบบไม่มีฉนวนหุ้ม (Unshielded Twisted Pair: UTP) เป็นสายคู่บิดเกลียวมีฉนวนชั้นนอกที่บางอีกชั้น ทำให้สะดวกในการโค้งงอ
- สายคู่บิดเกลียวแบบมีฉนวนหุ้ม (Shielded Twisted Pair: STP) เป็นสายคู่บิดเกลียวที่หุ้มลวดถัดชั้นนอกที่หนาอีกชั้น เพื่อป้องกันการรบกวนของคลื่น
ข้อดีของสายคู่บิดเกลียว
1. มีราคาถูก
2. ใช้งานง่ายมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน
3. ติดตั้งง่ายและมีน้ำหนักเบา
ข้อเสียของสายบิดคู่เกลียว
1. ถูกรวบกวนจากสัญญาณภายนอกได้ง่าย
2. ระยาทางถูกจำกัด
หัวเชื่อมต่อ (Modular Plugs) สายคู่บิดเกลียวที่ใช้หัวเชื่อมต่อแบบ RJ-45 ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับหัวเชื่อมต่อแบบ RJ-11 ที่เป็นหัวที่ใช้กับสายโทรศัพท์ทั่วๆ ไป จะเชื่อมสายคู่บิลเกลียว 4 คู่ ในขณะที่หัว RJ-11 ใช้ได้กับสายเพียง 2 คู่เท่านั้น
1.2 สายโคแอ็กเซียล (Coaxial Cable) ประกอบด้วยลวดทองแดงอยู่ตรงกลางหุ้มด้วยฉนวนพลาสติก 1 ชั้น ความเร็วในการส่งข้อมูล 350 Mbps ส่งได้ในระยะทาง 2-3 ไมล์ แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ สายโคแอ็กเซียลแบบาง (Thin Coaxial) สายโคแอ็กเซียลแบบหนา (Thick Coaxial)
สายโคแอ็กเซียลสามารถถ่ายทอดสัญญาณได้ 2 แบบ คือ
1. บอร์ดแบนด์
- ส่งสัญญาณแบบอนาล็อก
- ใช้ในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ได้หลายร้อยช่อง
2. เบสแบนด์
- มีเพียงช่องสัญญาณเดียว
- มีความกว้างของช่องสัญญาณมาก
ข้อดีของสายโคแอ็กเซียล
1. มีประสิทธิภาพและความต้านทานต่อการรบกวนสูง
2. สามารถส่งข้อมูลได้ไกล
3. สามารถส่งได้ทั้งเสียง
ข้อเสียของสายโคแอ็กเซียล
1.ราคาแพงกว่าสายคู่
2. ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูง
3. จำกัดจำนวนของการเชื่อมต่อ
4. ระยะทางจำกัด
หัวเชื่อมต่อ สายหัวเชื่อมที่เรียกว่า BNC
1. หัวเชื่อมต่อแบบ BNC (BNC Connector) หัวเชื่อมเข้ากับปลายสาย
2. หัวเชื่อมต่อสายรูปตัว T (T Connector) เชื่อมต่อระหว่างสายสัญญาณ
3 ตัวสิ้นสุดสัญญาณ (Terminator) ใช้ในการสิ้นสุดสัญญาณที่ปลายสาย
1.3 สายใยแก้วนำแสง (Optical Fiber) ประกอบด้วยเส้นใยที่ทำมาจากใยแก้ว 2 ชนิด ชนิดหนึ่งจะอยู่ที่แกนกลาง อีกชนิดหนึ่งอยู่ที่ด้านนอก
ข้อดีของสายใยแก้วนำแสง
1. ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง
2. ไม่มีการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า
3. ส่งมูลได้ในปริมาณมาก
ข้อเสียสายใยแก้วนำแสง
1. มีราคาแพงกว่าสายส่งข้อมูล
2. ต้องใช้ความชำนาญ ในการติดตั้งมากกว่าสายส่งข้อมูล
3. มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูง
2. สื่อสัญญาณไร้สาย
สื่อกลางที่นำมาใช้ในการสื่อสารข้อมูลอีกประเภทหนึ่งซึ่งไม่มีลักษณะทางกายภาพปรากฏให้เห็นแต่อาศัยการแพร่กระจายคลื่นในรูปแบบต่าง ๆ
2.1 ระบบไมโครเวฟ การส่งสัญญาณข้อมูลไปกลับคลื่นไมโรเวฟเป็นการส่งสัญญาณข้อมูลแบบรับช่วงต่อกันจากหอสถานี
ส่ง – รับสัญญาณหนึ่งไปยังอีกหอหนึ่ง แต่ละแห่งจะครอบคลุมพื้นที่
2.2 การสื่อสารด้วยดาวเทียม ดาวเทียมคือไมโครเวฟลอยฟ้า ซึ่งทำหน้าที่ขยายและทบทวนสัญญาณข้อมูล รับและส่งสัญญาณข้อมูล
ลักษณะการใช้งานดาวเทียวสื่อสาร มีดังนี้
- การแพร่ภาพโทรทัศน์
- โทรศัพท์ทางไกล
- โครงข่ายธุรกิจส่วนบุคคล
2. ระบบที่ใช้คลื่นวิทยุเป็นพาหะ
คลื่นวิทยุเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าขั้นตอนการส่งสัญญาณคือ มีการแพร่ภาพกระจายพลังงานคลื่นจากสายอากาศด้านผู้ส่ง
ส่วนประกอบทั่ว ๆไปของระบบที่ใช้คลื่นวิทยุ
1. เครื่องส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ
2. เครื่องรับสัญญาณ
3. สายส่งและสายอากาศ
3. ระบบที่ใช้คลื่นแสงเป็นพาหะ
ระบบการสื่อสารข้อมูลโดยใช้แสงเป็นพาหะ ส่วนมากใช้แสงอินฟราเรดเป็นตัวกลางในการสื่อสารที่เห็นกันชัดเจน คือระบบ LAN
ระบบอินฟราเรด (Infrared) เป็นระบบที่ใช้เทคโนโลยีเช่นเดียวกับ Remote Control ของเครื่องโทรทัศน์ ระบบนี้จะมีข้อจำกัดที่ต้องใช้งานเป็นเส้นตรงต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง