ขออนุญาตท่านประธานยูรนะครับ
ขอแจ้งข่าวเรื่องของน้องนงนุช รุ่น27 และขออนุเคราะห์ความช่วยเหลือจากพี่ๆ ตามกำลังความสามารถ
เกี่ยวกับน้องนุช รุ่น27 ปราจีนบุรี
เมื่อวันปัจฉิมฯ รุ่น21, 23 ถ้าใครยังจำได้ ผมได้พูดถึงประสบการณ์ในการไปเยี่ยมบ้านน้องในต่างจังหวัด มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่พูดถึงบ้านน้อง (ซึ่งไม่ได้เอ่ยชื่อ) ว่าเป็นบ้านที่ทรุดโทรม และมีความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบาก เมื่อเทียบกับอีกหลายๆ คน เคสนั้นผมหมายถึงบ้านของน้องนุชนี่แหละครับ
ด้วยความที่บ้านมีฐานะยากจน พ่อมีสุขภาพไม่แข็งแรง(ประสบอุบัติเหตุ) ทำงานหนักไม่ได้ ปัจจุบันแยกทางกับแม่ของน้อง(ตั้งแต่น้องยังเล็กๆ) แม่มีครอบครัวใหม่ น้องนุชอยู่ในความดูแลของแม่ กับพ่อเลี้ยงที่(น้องบอกว่า)ไม่ค่อยจะเอางานเอาการสักเท่าไหร่ แม่ต้องรับจ้าง ทำงานไร่ เช่น เก็บข้าวโพด ถางหญ้า ฯลฯ และหากิ่งไม้ข้างทางมาเผาถ่านขาย พอมีเงินเลี้ยงชีพ
ตั้งแต่เริ่มโตและเข้าเรียน ด้วยความที่ทางบ้านมีฐานะยากจน ทำให้ครูที่โรงเรียนเดิมเมตตารับอุปการะ ให้ไปอยู่ด้วย ส่วนหนึ่งก็เพื่อป้องกันตัวน้องจากพ่อเลี้ยง หลังจากที่ครูคนดังกล่าวย้ายไปสอนที่อื่น ก็มีคุณป้าท่านหนึ่ง ช่วยอุปการะน้องต่อ โดยให้ไปพักอาศัยและช่วยทำงานที่ร้าน "เบเกอรี่นักวิชาการ" ท่านใดเคยไปสระแก้ว (สาย 359 เขาหินซ้อน-สระแก้ว) อาจจะเคยเห็นร้านนี้บ้าง
หลังจากจบ ม.6 น้องสอบเข้าเรียนได้ที่ ม.ราชภัฏราชนครินทร์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงไม่ได้พักอยู่ที่ร้านเบเกอรี่ เพราะไม่สามารถเดินทางมาเรียนได้ จะไปหาอยู่หอพักก็ไม่มีเงินพอค่าใช้จ่าย ซึ่งสุดท้ายแล้ว ผมจึงรับอุปการะเป็นผู้ปกครอง และให้น้องได้มาพักอยู่ที่บ้านผม ที่ลาดกระบัง (ดังที่เพื่อนๆ บางคนพอจะทราบกันบ้างแล้ว) ในวันที่มีเรียน น้องก็จะขึ้นรถไฟไปเรียน แม้จะต้องเดินทางไปร่วมๆ ชั่วโมง แต่ก็ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง (มีแค่ค่ารถสองแถวจากบ้านไปสถานีรถไฟ ส่วนรถไฟไม่เสียตังค์)
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของน้องนุช
เมื่อประมาณเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา น้องกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านในวันหยุด และน้องโทรกลับมาบอกว่า บ้านน้องโดนเจ้าของที่มารื้อออก เพราะเจ้าของที่ต้องการเอาบริเวณนั้นไปสร้างบ้านให้ลูก โดยเจ้าของที่บอกว่าจะอนุญาตให้ไปปลูกบ้านใหม่ในที่ของเค้า แต่เป็นอีกบริเวณหนึ่งซึ่งเข้าไปลึกจากที่ปัจจุบัน น้องไม่รู้ว่าเจ้าของที่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือไม่ เพราะแม่ไม่ได้บอกอะไรกับน้องมาก่อนเลย
คืนนั้นฝนตก น้องบอกว่า ข้าวของต่างๆ เปียกฝนหมด น้องต้องนอนใต้โต๊ะไม้ตัวหนึ่ง ที่พอจะใช้เป็นที่หลบฝนได้ เพราะหลังคาและอีกครึ่งหนึ่งของบ้าน ได้ถูกรื้อออกไปหมดแล้ว รุ่งขึ้นแม่ไล่ให้น้องกลับมา บอกว่าไม่ต้องห่วงทางบ้าน เป็นหน้าที่ของแม่จะจัดการเอง (พ่อเลี้ยงหายหน้าไปไหนไม่รู้หลายวันแล้ว)
เมื่อปลายเดือน ผมลองถามความคืบหน้าว่าเรื่องบ้านเป็นอย่างไรบ้าง? น้องบอกว่า แม่เอาสังกะสีเก่าที่ถูกรื้อออก ไปสร้างเพิงพักชั่วคราว เพื่อเก็บของไม่ให้เปียกฝน และอาศัยหลับนอน น้องบอกว่า เจ้าของที่รับปากว่า จะช่วยสร้างบ้าน(ที่พัก)ให้ใหม่ แต่ก็ยังไม่รู้เมื่อไหร่
ความช่วยเหลือในเบื้องต้น
ทีแรก ผมตั้งใจว่าอยากจะไปเยี่ยมบ้านน้อง เพื่อไปดูว่า สภาพล่าสุดเป็นอย่างไรบ้าง แต่เนื่องจากรถผมยังซ่อมไม่เสร็จ จึงไม่สะดวกที่จะเดินทางไป (บ้านน้องอยู่ใกล้ๆ กับ รร.บ้านเขาปูน ที่พวกเราเคยไปช่วยทำกิจกรรมวันเด็กเมื่อสองปีก่อน) กะว่าจะไปดูด้วยตนเองก่อน เพื่อประเมินความช่วยเหลือที่จำเป็น แล้วค่อยมาเขียนเมล์แจ้งข่าวนี้
แต่เมื่อวาน น้องมาเอ่ยปากขอยืมเงิน 10,000 บาท เพื่อเอาไปช่วยทางบ้าน ปกติน้องจะค่อนข้างขี้เกรงใจ แต่เมื่อน้องเอ่ยปาก ผมก็คิดว่า น้องน่าจะลำบากที่สุดแล้ว ผมจึงโอนเงินน้องไปโดยไม่ได้ซักไซร้อะไรมากนัก เพราะก็พอจะทราบเรื่องอยู่แล้ว แต่ลองประเมินดูแล้วก็คิดว่า แม้การจะสร้างบ้านด้วยไม่ไผ่ก็ตาม บวกกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว เงินจำนวนดังกล่าวไม่น่าจะเพียงพอ
ดังนั้น จึงได้เขียนเมล์นี้แจ้งมายังเพื่อนๆ น้องๆ (เฉพาะรุ่นพี่ๆ) หากท่านใดพอจะให้ความช่วยเหลือได้ ก็เป็นไปตามกำลังศรัทธาครับ
1. โอนเงินเข้าบัญชี ธ.กรุงไทย สาขากบินทร์บุรี
ชื่อบัญชี น.ส.นงนุช สิงห์โข่ง เลขที่ 233-0-23973-4
2. หรือ โอนเข้าบัญชี ธ.กรุงเทพ สาขาย่อยเซ็นทรัลรามอินทรา
ชื่อบัญชี นายสำเริง ยิ่งถาวรสุข เลขที่ 930-0-00274-9
หากพี่ๆ ท่านใด ได้มีการโอนเงินช่วยเหลือน้องแล้ว กรุณาช่วยแจ้งกลับมาทางเมล์ หรือโทรแจ้งด้วยนะครับ จะโอนเข้าบัญชีน้องโดยตรง หรือจะโอนเข้าบัญชีผมก็ได้ จะรวบรวมให้น้องอีกทีหนึ่ง
ยาวสักหน่อย หากเป็นการรบกวนเพื่อนๆ หรือน้องๆ ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง
ขอบคุณครับ
เอก/1
(สำเริง ยิ่งถาวรสุข)
สรุปรายการเงินช่วยเหลือ น้องนุช รุ่น27 ปราจีนบุรี
https://docs.google.com/spreadsheet/ccc?key=0AuMJ6o5HJdn5dDI2NFk2STZQNDlfdHVsXzQwSUNfUFE
ในเบื้องต้น หลังจากได้แจ้งข่าวไปยังกลุ่มพี่ๆ นักเรียนทุนสาธิตเสริมสมอง ความช่วยเหลือเบื้องต้นก็ค่อยๆ ทะยอยมา ดังรายละเอียดข้างล่างนี้
ภาพล่าสุด จากการลงพื้นที่กับ พี่สาคร/1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา
เนื่องจากพี่ๆ หลายท่านเป็นห่วงว่า การช่วยเหลือในเบื้องต้นนั้น อาจจะไม่สามารถช่วยเหลือได้ครอบคลุม จึงควรไปดูสภาพความเป็นจริงก่อน เพื่อวางแผนให้ความช่วยเหลือต่อไป ดังนั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ผมและพี่สาคร/1 จึงได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านน้อง โดยไม่ได้บอกให้น้องรู้ล่วงหน้า น้องคิดว่าพี่ๆ คงแค่อยากไปเที่ยวเฉยๆ แต่เมื่อรู้ว่าพวกพี่ๆ คิดอะไรกันอยู่ ทำให้น้องและแม่ รู้สึกตื้นตันจนพูดอะไรไม่ออก เพราะแม้แต่ญาติๆ ที่อยู่ใกล้กัน ก็ไม่มีใครที่คิดจะให้ความช่วยเหลือใดๆ ก่อนหน้านี้เลย
(เรื่องและภาพ โดยพี่สาคร/1)
บทสรุป