นาฏศิลป์ได้หมายรวมไปถึงการร้องรำทำเพลง ดังนั้นองค์ประกอบของนาฏศิลป์ก็จะประกอบไปด้วยการขับร้อง การบรรเลงดนตรีและการฟ้อนรำ ทั้งนี้เพราะการแสดงออกของนาฏศิลป์ไทยจะต้องอาศัยบทร้อง ทำเพลงประกอบ
การแสดง เพราะฉะนั้นก่อนที่จะมาเป็นนาฏศิลป์ไทยได้จะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบสำคัญ ๆ ดังต่อไปนี้
1.เรื่องที่ใช้ในการแสดง
ละคร คือการแสดงที่เป็นเรื่องราว การดำเนินเรื่องราวจะนำ เรื่องราวจะนำเสนอให้ดำเนินไปผ่านบทพูดของตัวละคร บทเจรจาจะบ่งบอกฐานะของตัวละครยุคสมัย วิถีชีวิต ผู้ชมสามารถศึกษาเรื่องราวมาก่อนและจะได้รับอรรถรสในการชมการแสดงตามความต้องการของการจัดการแสดง
2.ผู้แสดงหรือตัวละคร
ตัวละคร คือ ผู้สื่อสารการแสดงไปยังผู้ชมให้เข้าใจเนื้อเรื่องที่แสดงผู้แสดงจึงต้องแสดงให้เหมาะสมกับบุคลิกของตัวละครในเรื่องโดยผ่านน้ำเสียงและกิริยาท่าทางในการแสดงออก
3.ฉากและสถานที่
ผู้ชมจะรู้สึกคล้อยตามไปกับการดำเนินเรื่อง จึงต้องสร้างบรรยากาศในการแสดง เช่น เครื่องแต่งกาย ฉาก แสง สี เสียงให้เหมาะสมกับสถานภาพของผู้แสดงและบรรยากาศในเรื่องราวที่เกิดขึ้น
4.เพลงและดนตรีใช้ประกอบการแสดง
การแสดงนาฏศิลป์จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เครื่องดนตรีบรรเลงประกอบการแสดง ดังนั้นผู้แสดงจะต้องรำให้สอดคล้องตามเนื้อร้องและทำนองเพลงในขณะเดียวกัน ดนตรีก็เป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญในการช่วยเสริมให้การ แสดงสมบูรณ์ และสามารถสื่อความหมายได้ชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างบรรยากาศในการแสดงให้สมจริงยิ่งขึ้นด้วย
เพลงและดนตรีใช้ประกอบการแสดง
ละครชาตรี ละครชาตรี การร้องมีต้นเสียงและลูกคู่รับเพลงที่ขับร้องและบรรเลงจะมีลักษณะเฉพาะ
ละครใน มีการปรับปรุงอารมณ์ทำนองเพลงให้มีความไพเราะนุ่มนวลน่าฟังมากขึ้นมักมีชื่อเพลงลงท้ายด้วย “ใน”
ละครนอก ใช้วงปี่พาทย์เครื่องห้าเพลงที่นำละครนอกใช้วงปี่พาทย์เครื่องห้าเพลงที่นำมาใช้จัดให้อารมณ์เพลงตามเนื้อร้องมักใช้เพลงที่มีชื่อ “นอก” ปิดท้ายกับเพลง
ละครพันทาง มีการขับร้องและบรรเลงเพลงสำเนียงภาษาของชาติต่างๆ ตามเนื้อร้องโดยใช้ทำนองอย่างไทยมีอารมณ์เพลงตามเนื้อหาของเรื่อง
5.เครื่องแต่งกาย
การแต่งกายในการแสดงนาฏศิลป์สามารถบ่งบอกถึงยศ ฐานะ และบรรดาศักดิ์ของผู้แสดงละครนั้นๆ โดยเฉพาะ การแสดงโขน การแต่งกายจะเปรียบเสมือนแทนสีกายของตัวละคร เช่น เมื่อแสดงเป็นหนุมานจะต้องแต่งกายด้วยชุดสีขาว มีลายปักเป็นลาย ทักษิณาวัตร สวมหัวโขนลิงสีขาวปากอ้า เป็นต้น
การแต่งกายแบบยืนเครื่อง (การแสดงโขน-ละคร)
การแต่งกายสำหรับการแสดงเบ็ดเตล็ด (สี่ภาค)
ภาคเหนือ การแต่งกายพื้นเมืองของภาคเหนือ มีลักษณะแตกต่างกันไปตามเชื้อชาติของกลุ่มชนคนเมือง เนื่องจากผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ แต่ละพื้นถิ่น สำหรับผู้หญิงชาวเหนือจะนุ่งผ้าซิ่นล้านนา หรือส่วนเสื้อจะเป็นเสื้อคอกลม มีสีสัน ลวดลายสวยงาม สำหรับผู้ชายนิยมนุ่งกางเกงขายาวแบบ 3 ส่วน ส่วนเสื้อเป็นผ้าฝ้ายคอกลมแขนสั้น สีน้ำเงิน หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า เสื้อม่อฮ่อม
ภาคกลาง ในอดีตเป็นภาคกลางที่เป็นศูนย์กลางของเมืองหลวง และมีวัฒนธรรมการแต่งกายสวยงามเรียกง่าย ๆ ว่า ชุดไทย ผู้ชายสมัยก่อนนิยมสวมใส่โจงกระเบน สวมเสื้อสีขาว ติดกระดุม 5 เม็ด ที่เรียกว่า "ราชประแตน" ส่วนผู้หญิงนุ่งผ้าลายโจงกระเบน เสื้อผ่าอก แขนยาว ห่มแพรจีบตามขวาง สไบเฉียงทาบบนเสื้ออีกชั้นหนึ่งพร้อมสวมเครื่องประดับ
ภาคอีสาน ส่วนใหญ่ใช้ผ้าทอมือ ซึ่งทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้ายและผ้าไหม ชาวอีสานถือว่าการทอผ้าเป็นกิจกรรมยามว่าง ผู้ชายส่วนใหญ่นิยมสวมเสื้อแขนสั้น สีเข้ม ๆ สวมกางเกงจรดเข่า นิยมใช้ผ้าคาดเอวด้วยผ้าขาวม้า ผู้หญิงการแต่งกายส่วนใหญ่นิยมสวมใส่ผ้าซิ่นแบบทอทั้งตัว สวมเสื้อคอเปิดเล่นสีสัน
ภาคใต้ ด้วยความที่ภูมิประเทศภาคใต้ ตั้งอยู่แถบศูนย์สูตมีผลให้อากาศร้อน ชาวใต้จึงนิยมแต่งกายแบบเรียบง่าย หลวม ๆ ส่วนมากใช้ผ้าฝ้าย รูปแบบเครื่องนุ่งห่มส่วนใหญ่คล้ายกับของมาเลเซียและอินโดนีเซีย เพราะอยู่ในลักษณะอากาศแบบเดียวกัน ผ้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของภาคใต้คือผ้ามัดย้อม ผ้ายก ผ้าจวน ผ้าไหม พุมเรียง และผ้าปาเต๊ะ
ในการแสดงนาฏศิลป์ไทยส่วนใหญ่จะนำเอกลักษณ์ของการแต่งกายประจำภูมิภาคมาประดับด้วยเครื่องประดับต่างๆ ทัดดอกไม้เพิ่มเติม ให้เหมาะกับการแสดง
ที่มา: https://50510ubonrat.wordpress.com/การแต่งกาย-4ภาค
การแต่งกายสร้างสรรค์
เป็นการแต่งกายที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ตามแนวคิดของ ผู้สร้างสรรค์ผลงาน โดยมีพื้นฐานของนาฏศิลป์ไทย
6.การแต่งหน้า
การแต่งกายที่ใช้ในการแสดงนาฏศิลป์ไทยจะมีความสวยงามวิจิตรและบ่งบอกถึงความเป็นไทยทำให้การแสดงมีเอกลักษณ์ เช่น การแสดงโขนที่มีการแต่งกายที่งดงาม มีศีรษะโขนที่ตกแต่งลวดลายประดิษฐ์ขึ้นอย่างวิจิตร ซึ่งศีรษะโขนก็จะแตกต่างกันไปตามลักษณะของตัวละครทำให้ผู้ชมเข้าใจการแสดงได้มากขึ้น
การแต่งหน้าเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้ผู้แสดงสวยงามและอำพรางข้อบกพร่องของใบหน้าของผู้แสดงได้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถใช้วิธีการแต่งหน้าเพื่อบอกวัย บอกลักษณะเฉพาะของตัวละครได้ เช่น แต่งหน้าคนหนุ่มให้เป็นคนแก่แต่งหน้าให้ผู้แสดง เป็นตัวตลก เป็นต้น
7.อุปกรณ์ในการแสดง
การแสดงนาฏศิลป์ไทยบางชุดต้องมีอุปกรณ์ประกอบการแสดงละครด้วย อุปกรณ์แต่ละชนิดที่ใช้ประกอบการแสดงจะต้องสมบูรณ์ สวยงามและสวมใส่ได้พอดี หากเป็นอุปกรณ์ ที่ต้องใช้ประกอบ การแสดง เช่น ร่ม ผู้แสดงจะต้องมีทักษะในการใช้อุปกรณ์ ได้อย่างคล่องแคล่ว วางอยู่ในระดับที่ถูกต้องสวยงาม
8.การฟ้อนรำหรือลีลาท่ารำ
การฟ้อนรำหรือลีลาท่ารำเป็นท่าทางของการเยื้องกรายฟ้อนรำที่สวยงาม โดยมีมนุษย์เป็นผู้ประดิษฐ์ ท่ารำเหล่านั้นได้ถูกต้องตามแบบแผน รวมทั้งบทบาทและลักษณะของตัวละคร ประเภทของการแสดง และการสื่อความหมายที่ชัดเจน