วัฒนธรรมของประเทศเมียนมาร์
ศิลปะการแสดงถือว่าเป็นส่วนสำคัญในงานบุญของพม่า เพราะเป็นสิ่งที่สร้างความบันเทิงแก่ผู้ร่วมงาน ซึ่งศิลปะการแสดงต่างๆ นั้นส่วนใหญ่เป็นการแสดงที่มีรักสนุก เป็นประเพณีที่นิยม โดยได้รับการพัฒนาปรับเปลี่ยนมาจากการแสดงในราชสำนักพม่าในอดีต
ประวัตินาฏศิลป์พม่า ที่มีหลักฐานแน่นอนภายหลังพ.ศ. 2310 คือหลังจากกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่สองพม่าได้รับอิทธิพลนาฏศิลป์ไปจากไทย ก่อนหน้านี้นาฏศิลป์ของพม่าเป็นแค่พื้นเมืองมากกว่าที่จะได้รับอิทธิพลมาจากนอกประเทศเหมือนเหมือนกับประเทศอื่นๆนาฏศิลป์พม่าเริ่มต้นจากพิธีทางศาสนาและต่อมาพม่ามีการติดต่อกับอินเดียและจีน ท่าร่ายรำ ของ 2 ชาติดังกล่าวก็จะมีอิทธิพลซึ่งแทรกซึมไปในนาฏศิลป์พื้นเมืองของพม่า แต่ถ้ารารามของเดิมมีความเป็นเอกลักษณ์ของพม่าจริง ๆ
การแสดงในประเทศเมียนมาร์ ได้แก่
ยามะซะตอ
ยามะซะตอแปลว่า: "รามชาดก"เป็นรามายณะฉบับไม่เป็นทางการของประเทศพม่า มีทั้งหมดเก้าบท ส่วนชื่อ "ยามะ" คือพระราม ส่วน "ซะตอ" คือชาดก ตัวละครในยามะซะตอมีความใกล้เคียงกับรามายณะดั้งเดิม การแต่งกายของตัวละครนั้นเป็นการผสมผสานระหว่างพม่ากับไทย ส่วนชื่อตัวละครนั้นเป็นคำพม่าที่ทับศัพท์มาจากภาษาสันสกฤต
ในยุคราชวงศ์คองบอง กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าในปี พ.ศ. 2310 พม่าได้กวาดต้อนผู้คนจากกรุงศรีอยุธยาไปเป็นเชลย คนเหล่านี้มีทั้งเจ้านาย ช่างฝีมือ นักแสดง และนักดนตรีรวมอยู่ด้วย หลังจากนั้นเป็นต้นมารามายณะฉบับพม่าจึงรับอิทธิพลจากรามเกียรติ์ของอาณาจักรอยุธยาค่อนข้างสูงผ่านเชลยเหล่านี้ เหล่าเชลยจึงก่อตั้งคณะละครที่ยังแต่งกายตามประเพณีและการร่ายรำแบบอยุธยาดั้งเดิม เกิดเป็นโขนรามเกียรติ์ภาษาพม่าในราชสำนักอังวะจนได้รับความนิยม
ตัวละคร พม่า- ไทย
หย่ามะ - พระราม
แหม่ตี่ด่า - สีดา
แลดขนะ - พระลักษมณ์
ห่านุหมั่น - หนุมาน
หย่าวะนะ - ทศกัณฑ์
มายิซซะ - มารีศ
บิบิตะนะ - พิเภก
โย่วเต หุ่นชักพม่า
หุ่นชักพม่าเป็นศิลปะที่นิยมในราชสำนักพม่า เป็นการแสดงที่สื่อถึงนัยยะสำคัญทางการเมือง เรื่องราวต่างๆ ในราชสำนักที่ไม่สามารถพูดถึงอย่างตรงไปตรงมาได้ ในอดีตผู้ชักหุ่นต้องเป็นชายเท่านั้น นักเล่นหุ่นชักหลายคนได้รับการยกย่องให้เป็นถึงขุนนางการแสดงหุ่นชักได้แพร่กระจายจากราชสำนักในช่วงปลายสมัยราชวงศ์คองบองไปสู่พม่าตอนล่าง หลังจากที่อังกฤษยึดครอง โดยนิยมเล่นกันในเมือย่างกุ้ง ความล่มสลายของราชสำนักพม่าทำให้คณะหุ่นชักเดินทางไปแสดงนอกเมืองมัณฑะเลย์มากขึ้น
ฟ้อนเทียน (Oil Lamp Dance)
ฟ้อนเทียน (Oil Lamp Dance) เป็นศิลปะการแสดงฟ้อนรำดั้งเดิมของประเทศพม่า (เมียนมาร์) เพื่อเป็นการบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธด้วยดวงประทีป โดยในการฟ้อนจะใช้การจุดดวงประทีป หรือ ดวงไฟ กับไส้ตะเกียงที่ในแช่น้ำมัน ซึ่งมีถ้วยดินเผารองไว้อีกทีหนึ่ง ผสมผสานกับลีลาท่วงท่าในการร่ายรำที่ต้องคอยประคับประคองดวงประทีปไม่ให้ดับ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของการแสดงฟ้อนนี้ ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นการสื่อความหมายถึงความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาจะไม่มีวันดับสูญจากพุทธศาสนิกชน นับว่าเป็นการแสดงที่มีจุดเด่นที่ดึงดูดใจจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้เทียนไขในการแสดงฟ้อนรำนี้แทน โดยผู้แสดงจะถือไว้ในมือซ้ายและขวาประกอบการฟ้อนรำ
ที่มา : https://board.postjung.com/1244491