ข้าวเปิ๊บ เป็นอาหารพื้นเมืองของจังหวัดสุโขทัย โดยเฉพาะที่อำเภอศรีสัชนาลัย ซึ่งได้รับฉายาว่า "ก๋วยเตี๋ยวพระร่วง" เนื่องจากมีลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยว แต่มีกรรมวิธีการทำที่เป็นเอกลักษณ์
ข้าวเปิ๊บ เป็นอาหารพื้นเมืองของจังหวัดสุโขทัย โดยเฉพาะที่อำเภอศรีสัชนาลัย ซึ่งได้รับฉายาว่า "ก๋วยเตี๋ยวพระร่วง" เนื่องจากมีลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยว แต่มีกรรมวิธีการทำที่เป็นเอกลักษณ์
ข้าวเปิ๊บเป็นอาหารพื้นเมืองของชุมชนบ้านนาต้นจั่น อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย โดยมีประวัติความเป็นมายาวนานหลายชั่วอายุคน สันนิษฐานว่ามีต้นกำเนิดจากการพัฒนาอาหารของชาวบ้านที่ต้องการสร้างสรรค์เมนูจากวัตถุดิบท้องถิ่น โดยดัดแปลงจากการทำก๋วยเตี๋ยวแบบดั้งเดิมให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
คำว่า "เปิ๊บ" ในภาษาเหนือหมายถึง "พับ" หรือ "ห่อ" ซึ่งสอดคล้องกับวิธีการทำข้าวเปิ๊บที่นำแป้งข้าวเจ้ามานึ่งบนผ้าขาวบางที่ขึงไว้บนปากหม้อ แล้วพับเป็นชั้น ๆ ก่อนนำมารับประทานพร้อมเครื่องเคียงต่าง ๆ จึงเป็นที่มาของชื่อ "ข้าวเปิ๊บ"
พัฒนาการของข้าวเปิ๊บ
1. ยุคแรกเริ่ม ข้าวเปิ๊บเกิดจากการดัดแปลงการทำเส้นก๋วยเตี๋ยวแบบจีน แต่ชาวบ้านนาต้นจั่นใช้วิธีนึ่งแป้งข้าวเจ้าบนผ้าขาวบางเพื่อให้ได้แป้งที่นุ่มและเหนียวคล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยว
2. ยุครักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น ข้าวเปิ๊บกลายเป็นเมนูสำคัญของชุมชนบ้านนาต้นจั่น ชาวบ้านนิยมทำกินกันในครัวเรือน และใช้เสิร์ฟแก่แขกที่มาเยี่ยมเยียน
3. ยุคส่งเสริมการท่องเที่ยว ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา บ้านนาต้นจั่นได้รับการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวสามารถมาเรียนรู้การทำข้าวเปิ๊บจากชาวบ้านโดยตรง ทำให้ข้าวเปิ๊บเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
กรรมวิธีการทำแบบโบราณ – ใช้วิธีการนึ่งแป้งบนผ้าขาวบางที่ขึงบนปากหม้อ แทนการลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวแบบทั่วไป
ไม่มีการใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวสำเร็จรูป – ใช้แป้งข้าวเจ้าที่โม่เอง ทำให้มีความนุ่มและสดใหม่
เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงที่หลากหลาย – เช่น เต้าหู้ทอด หมูสับ ไข่ลวก และผักสด ซึ่งทำให้รสชาติอร่อยและกลมกล่อม
แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม – บ้านนาต้นจั่นเปิดให้คนมาเรียนรู้การทำข้าวเปิ๊บและสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน รักษาภูมิปัญญาดั้งเดิม
1. การเตรียมแป้ง
ใช้ ข้าวเจ้าพื้นเมือง ที่นำมาล้างและแช่น้ำให้เมล็ดข้าวอ่อนตัว
นำไปโม่จนได้เป็นแป้งเหลวที่เนียนละเอียด
เติมน้ำเปล่าให้ได้ความข้นเหลวที่เหมาะสม
2. การนึ่งแป้งบนผ้าขาวบาง
นำหม้อดินหรือหม้ออะลูมิเนียมที่มีปากกว้าง ใส่น้ำลงไปประมาณครึ่งหม้อ
ขึงผ้าขาวบางให้ตึงคลุมปากหม้อ แล้วรัดด้วยเชือกเพื่อให้แน่น
ตั้งไฟให้น้ำเดือดจนเกิดไอน้ำพุ่งขึ้นมาที่ผ้าขาวบาง
ตักแป้งที่เตรียมไว้ เทลงบนผ้าขาวบาง แล้วใช้ทัพพีกระจายแป้งให้เป็นแผ่นบาง ๆ
ปิดฝาครอบ ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 วินาที จนแป้งสุกใส
3. การพับแป้ง (เปิ๊บแป้ง)
เมื่อแป้งสุก ใช้ไม้พายค่อย ๆ พับแป้งเป็นชิ้น ๆ คล้ายการพับกระดาษ
ตักใส่ชามโดยไม่ให้แป้งติดกัน
4. การเติมเครื่องเคียง
ใส่ หมูสับหรือหมูแดง ตามชอบ
ใส่ ไข่ลวกหรือไข่ต้ม ที่ช่วยเพิ่มรสชาติ
เติม เต้าหู้ทอด หรือถั่วงอกเพิ่มความกรุบกรอบ
โรยด้วย ต้นหอม ผักชี และกระเทียมเจียว
5. การทำน้ำซุป
ใช้กระดูกหมูเคี่ยวกับหัวไชเท้าและเครื่องเทศต่าง ๆ เพื่อให้ได้น้ำซุปที่หวานกลมกล่อม
เมื่อต้มจนหอมและได้รสชาติที่เข้มข้น กรองเอาแต่น้ำซุปใส แล้วราดลงบนข้าวเปิ๊บ
6. การเสิร์ฟ
ข้าวเปิ๊บเสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมเครื่องปรุง เช่น พริกป่น น้ำส้มสายชู น้ำตาล และซีอิ๊วขาว เพื่อปรับรสชาติตามความชอบ
มักทานคู่กับ เต้าหู้ทอดหรือแคบหมู เพื่อเพิ่มรสสัมผัส
ปัจจุบันยังคงมีร้านอาหารที่ใช้วิธีการทำข้าวเปิ๊บแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะที่บ้านนาต้นจั่น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้และลองทำข้าวเปิ๊บด้วยตนเอง เป็นการรักษาและเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารพื้นบ้านของไทยให้คงอยู่ต่อไป