บุคคลสำคัญ
ศาสตราจารย์นิคม จันทรวิทุร
ศาสตราจารย์นิคม จันทรวิทุร เกิดเมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ ณ.บ้านท่าล้อ อำเภอสูงเม่น เป็นบุตรของนายจันทร์และนางจีน จนั ทรวิทุร สมรสกับ นางวรรณี มีบุตร ๓ คนคือ นายนิค นายนนท์และนางสาวนุชรีย์ จันทรวิทุล ท่านเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่า มีความเชี่ยวชาญทางด้านปัญหาแรงงานมากที่สุดท่านหนึ่งของประเทศไทย
ประวัติการศึกษา
ท่านสาเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนสูงเม่นวิทยาคาร อำเภอสูงเม่น ระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนพิริยาลัยจังหวัด แพร่ จบปริญญาตรีธรรมศาสตร์ บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโททางด้านการบริหารสังคมมหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา ปริญญาโททางด้านเศรษฐศาสตร์แรงงานมหาวิทยาลัยวิสคอนชินสหรัฐอเมริกา ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ทางกฎหมาย มหาวิทยาลัยรามคาแหง ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ด้านการพัฒนาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)
ประวัติการทำงาน
ท่านเริ่มทางานในตาแหน่งเจ้าหน้าที่กรมแรงงาน และเลื่อนถึงตาแหน่งอธิบดีกรมแรงงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงาน องค์กรแรงงานระหว่างประเทศ ที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทย ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ที่ปรึกษามหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ผลงาน
ศาสตราจารย์ นิคม จันทรวิทุร ได้รับการยกย่องและมีผลงานดัง นี้ ศาสตราจารย์พิเศษวิชาแรงงานและสังคม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า ) กรรมการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ปรึกษาคณะกรรมการสังคม นักวิชาการของมหาวิทยาลัยวิสคอนชิน องค์ปาฐกถา “ป๋วย อึ้ภากรณ์” มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นักวิชาการมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นักวิชาการสถาบันวูดโรว์วิลสัน กรุงวอชิงตันสหรัฐอเมริกา ได้รับโล่เกียรติยศจากมหาวิทยาลัยชิคาโก ในฐานะศิษย์เก่าดีเด่น ได้รับโล่เกียรติยศในฐานะนักต่อสู้เพื่อมนุษยชน โดยสมาคมสิทธิเสรีภาพประชาชน ได้รับโล่เกียรติยศในฐานะผู้ส่งเสริมคนพิการ โดยสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย ได้รับโล่เกียรติยศในฐานะคนไทยตัวอย่า ง โดยคณะกรรมการเอกลักษณ์แห่งชาติ พ.ศ.๒๕๓๗ศาสตราจารย์ นิคม จันทรวิทุร จึงเป็นบุคคลหนึ่งที่ชาวอำเภอสูงเม่นและจังหวัดแพร่ภูมิใจในผลงานที่ได้สร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติ
นางสาวเจียร ดุษณีย์วงศ์
นางสาวเจียร ดุษณีย์วงศ์ เกิดเมื่อวันที่ ๕ กันยายน พ.ศ.๒๔๘๑ ที่ตำบลสูงเม่น อำเภอ สูงเม่น จังหวัดแพร่ เป็นบุตรของนายอยู่ และนางบุญมา แก้วสกุล ได้รับการยอมรับจากบุคคล ทั่วไปว่าเป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านวัฒนธรรมท้องถิ่น มีผลงานปรากฏอย่างกว้างขวาง ในวัยเด็กได้เข้ารับการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนสูงเม่นวิทยาคาร ระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสูงเม่นอำนวยศิลป์ แต่เรียนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ได้ย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนสตรีแพร่ “นารีรัตน์” จนจบมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ด้วยคะแนนเป็นที่ ๑ ของโรงเรียนนางสาวเจียร ดุษณีย์วงศ์ สอบชิงทุนของจังหวัดแพร่ ได้ไปเรียนต่อวิชาครู (ป.กศ.) ที่โรงเรียนสวนสุนันทาวิทยาลัย กรุงเทพฯ แล้วได้สอบบรรจุเป็นครูที่โรงเรียนนารีรัตน์ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๑ ระหว่างทำงานก็สมัครสอบชุดครู พ.ม. ไปด้วย ในปี พ.ศ.๒๕๐๓ ลาสอบเข้าศึกษาต่อหลักสูตรปริญญาตรีที่วิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตรได้ และเมื่อเริ่มเรียนไปได้ระยะหนึ่ง จึงทราบผลสอบชุดครู พ.ม. ว่าผ่านหมด ดังนั้นจึงใช้เวลาในการเรียนหลักสูตรปริญญาตรีที่ประสานมิตรด้วยเวลาเพียง ๓ ปี ซึ่งไม่เหมือนใคร สอนหนังสือไปได้ ๓ ปีการศึกษา ก็ลาไปศึกษาต่อที่สถาบันเดิมอีกในหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงวิชาเฉพาะ วิชาเอกภาษาไทยและวรรณคดีไทย สำเร็จหลักสูตรเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๐
“อาจารย์เจียร” เป็นผู้ที่มีความสามารถสูงในหลายด้าน มีทั้งศาสตร์และศิลป์ในการสอนปกครองนักเรียน บริหารโรงเรียน ท่านมีนโยบายหลักในการทำงานว่า “ความรู้ต้องคู่คุณธรรม” ขณะเดียวกันก็เป็นนักพัฒนาชั้นแนวหน้า โรงเรียนที่ท่านดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการจึงล้วนได้รับพระราชทานทั้งสิ้น ผลงานดีเด่นด้านศิลปวัฒนธรรมเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์จังหวัดเชียงราย คือ งานแปรอักษรในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติและงานกีฬาเยาวชนแห่งชาติ งานส่งเสริมดนตรีและนาฏศิลป์พื้นเมืองจนเป็นที่ยอมรับของชาวเชียงรายและกว้างไกลถึงระดับประเทศ เมื่อมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ก็สนับสนุนและส่งเสริมกิจกรมด้านนี้อย่างเข้มแข็ง นาฏศิลป์และดนตรีพื้นเมืองของเยาวชนชาวแพร่จึงชนะการประกวดระดับประเทศ ได้เป็นตัวแทนของจังหวัด ของเขตการศึกษาและของภาคเหนือในการจัดงานวัฒนธรรมระดับประเทศอยู่เป็นประจำ ผลงานที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ การส่งเสริมสนับสนุนให้ครูอาจารย์ศึกษาค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมและศิลปกรรมท้องถิ่นจัดพิมพ์เผยแพร่เป็นแหล่งข้อมูลเบื้องต้นให้มีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมอย่างกว้างขวางต่อไป ผลงานที่ท่านทุ่มเทให้แก่จังหวัดด้านวัฒนธรรมและด้านการศึกษาส่งผลดีแก่เยาวชนลูกหลานชาวเชียงรายและลูกหลานชาวแพร่ ให้มีความก้าวหน้าในชีวิตและเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อมา นางสาวเจียร ดุษณีย์วงศ์ จึงสมกับสมญานาม “นางแก้ว นารีรัตน์” ที่ชาวแพร่ภูมิใจ