เรื่องที่ 2 การวิเคราะห์ข้อมูล ความหมาย
การวิเคราะห์ข้อมูล (Analysis) เป็นการจัดระเบียบแยกแยะส่วนต่าง ๆ ของหลักฐาน หรือข้อมูลที่ได้ออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อหาคำตอบตามความมุ่งหมาย และตามสมมติฐานที่ได้กำหนดไว้ การวิเคราะห์ข้อมูลนี้เป็นขั้นการทำงานที่ต่อเนื่องมาจากการวัด การนับ และจัดเรียงลำดับข้อมูล ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำเอาวิธีการทางสถิติมาวิเคราะห์หาค่าตัวแปรหรือหาลักษณะของตัวแปร ผู้วิจัยจะต้องวางแผนและเตรียมการณ์ล่วงหน้าตั้งแต่เริ่มทำการวิจัยโดยมีข้อแนะนำในการวิเคราะห์ดังนี้
1. กลับไปอ่านจุดมุ่งหมายหรือข้อความที่เป็นปัญหาจนแจ่มแจ้งก่อน
2. ดูแต่ละหัวข้อปัญหาว่าต้องการข้อมูลประเภทใด และจะใช้วิธีการสถิติอะไร
3. สถิติเหล่านั้นหาได้หรือไม่จากข้อมูล เพื่อไปแก้ปัญหาจากจุดมุ่งหมายแต่ละข้อ
4. เลือกข้อมูลที่ได้มา นำมาจัดเป็นหมวดหมู่ แบ่งตามเนื้อหาของปัญหาแต่ละข้อ
5. คำนวณค่าสถิติให้ตรงตามหัวข้อปัญหาที่จะตอบ
6. พยายามแปลความหมายของข้อมูลเป็นระยะ ๆ ไป
7. พยายามนึกถึงรูปร่างของตารางที่จะเสนอ ลักษณะควรย่อ สั้น แต่บรรยายความได้มาก
8. ถ้าข้อมูลจัดเสนอเป็นกราฟชนิดต่าง ๆ ก็ต้องหาวิธีการทำให้เข้าใจได้ง่ายที่สุด อย่าให้ซับซ้อน
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ข้อมูลใด ๆ มักไม่พ้นการใช้วิธีการทางสถิติ ดังนั้น ในการวิเคราะห์ข้อมูล ควรมีขั้นตอนในการดำเนินการ ดังนี้
ขั้นตอนในการวิเคราะห์ข้อมูล
1. จัดหรือแยกประเภทข้อมูลที่จะศึกษาออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อสะดวกและง่ายต่อการที่จะนำไปวิเคราะห์ต่อไป รวบรวมและจดบันทึกข้อมูลลงในกระดาษที่ได้เตรียมไว้
2. ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยเลือกใช้เทคนิคต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับลักษณะของข้อมูลและระดับของข้อมูลที่นำมาศึกษาและสามารถตอบคำถามตามจุดมุ่งหมายการวิจัยที่ตั้งไว้
3. เสนอผลการวิเคราะห์ที่ได้ โดยพยายามเสนอให้มีความแจ่มชัดและเข้าใจง่าย ซึ่งนิยมเสนอในรูปตารางหรือแผนภูมิ
4. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล เป้าหมายหลักในการดำเนินการวิจัย คือ การศึกษาหาข้อสรุปเกี่ยวกับคุณลักษณะของประชากร การที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ได้ โดยหลักการควรศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากประชากร แต่เป็นการยากมากหรือในบางครั้งอาจเป็นไปไม่ได้ตามหลักการดังกล่าว ในทางปฏิบัติงานวิจัย จึงใช้วิธีการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชากรนั้น ๆ การวิเคราะห์ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจึงเป็นการหาค่าคุณลักษณะประจำกลุ่มตัวอย่างนั้น แล้วจึงใช้ค่าสถิติของกลุ่มตัวอย่างไปประมาณค่าคุณลักษณะของประชากร โดยการทดสอบสมมติฐานและการสรุปอ้างอิง
เรื่องที่ 2 การวิเคราะห์ข้อมูล
การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นขั้นตอนการนำข้อมูลที่ได้มาประมวลผลและทำการวิเคราะห์โดย เลือกค่าสถิติที่นำมาใช้ให้เหมาะสม ค่าสถิติที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
1. ยอดรวม (Total) คือ การนำข้อมูลสถิติมารวมกันเป็นผลรวมทั้งหมด เช่น จำนวนนักศึกษา กศน. ระดับมัธยมศึกษาตอนด้นในจังหวัดลำปาง จำนวนประชากรทั้งหมดในจังหวัดลำปาง จำนวนคนที่ ป็นไข้เลือดออกในภาคเหนือ จำนวนคนว่างงานทั้งประเทศ เป็นต้น
2. ค่าเฉลี่ย (Average, Mean) หมายถึง ค่าเฉลี่ยซึ่งเถิดจากข้อมูลของผลรวมทั้งหมดหารด้วย จำนวนรายการของข้อมูล เช่น การวัดส่วนสูงของนักศึกษา กศน.ตำบลเวียงเหนือ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 10 คน วัดได้เป็นเซนติเมตร มีดังนี้
คนที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
ส่วนสูง 155 165 152 170 163 158 160 168 167 171
ส่วนสูงโดยเฉลี่ยของนักศึกษา กศน.ตำบลเวียงเหนือ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คือ
155 + 165 + 152 + 170 + 163 + 158 + 160 + 168 + 167 + 171
= 1629 / 10
= 162.9 เซนติเมตร
3. สัดส่วน (Proportion) คือความสัมพันธ์ของจำนวนย่อยกับจำนวนรวมทั้งหมดโดยให้ลือว่า จำนวนรวมทั้งหมดเป็น 1 ส่วน เช่น การสำรวจการลงทะเบียนเรียนของนักศึกษา กศน. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จังหวัดลำปาง จำนวน 500 คน, ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาภาษาไทย จำนวน 300 คน ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาภาษาอังกฤษ จำนวน 200 คน ดังนั้น สัดส่วนของนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียน
ในรายวิชาภาษาไทย = 300/500 = 0.60
และสัดส่วนของนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียน
ในรายวิชาภาษาอังกฤษ = 200/500 หรือ 1 – 0.60 = 0.40
4. ร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ (Percentage or Percent) คือ สัดส่วน เมื่อเทียบต่อ 100 สามารถคำนวณได้ โดยนำ 100 ไปคูณสัดส่วนที่ต้องการหาผลลัพธ์ก็จะออกมาเป็นร้อยละ หรือเปอร์เซ็นต์
ตัวอย่าง ใน กศน. อำเภอแห่งหนึ่ง มีนักศึกษาทั้งหมด 650 คน แยกเป็นนักศึกษาระดับ ประถมศึกษา จำนวน 118 คน นักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 250 คน และนักศึกษาระดับ มัธยมศึกษาตอนปลายจำนวน 282 คน เราจะหาร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ของนักศึกษาแต่ละระดับได้ดังนี้
ระดับประถมศึกษา = 118 x 1002/650 = 18.15%
ะดับมัธยมศึกษาตอนต้น = 250 x 100 /650 = 38.46%
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย = 282 x 100/650 = 43.38%
รวมทั่งสิ้นทั้งหมด 100%