3.1 การจัดเก็บข้อมูล
เรื่องที่ 1 การจัดเก็บข้อมูล
การเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นขั้นตอนที่ให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ต้องการมีความหมายรวมทั้งการเก็บข้อมูลขั้นมาใหม่ และการรวบรวมข้อมูลจากผู้อื่นที่ได้เก็บไว้แล้ว หรือได้รายงานไว้ในเอกสารต่างๆ เพื่อนำมาศึกษาต่อไป การเก็บรวบรวมข้อมูลมีวิธีการหลายวิธี ดังนี้
1. การรวบรวมข้อมูลจากรายงาน (ระบบการรายงาน) เป็นผลพลอยได้จากระบบการบริหารงานจัดเก็บรวบรวมข้อมูลจากรายงานที่ทำไว้หรือจากเอกสารประกอบการทำงานการเก็บรวบรวมข้อมูลจากรายงานส่วนมากใช้เพียงครั้งเดียวจากรายงานดัง ข้อมูลเบื้องต้นที่สามารถนำมาประมวลผลได้เป็นยอดรวมข้อมูลสถิติได้วิธีการรวบรวมข้อมูลจากรายงานของหน่วยงานบริหารนับว่าเ ็นวิธีการรวบรวมข้อมูลสถิติโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการดำเนินการมากนักนักใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อการดำเนินการต่างๆ หน่วยงานรัฐบาลและหน่วยงานหน่วยงานของรัฐที่มีข้อมูลสถิติที่รวบรวมจากรายงานกรมศุลกากรมีระบบการรายงานเกี่ยวกับการส่งสินค้าออก ระทรวงการศึกษามีรายงานผลการปฏิบัติงานของโรงเรียนภายในสังกัดสามารถนำมาใช้ในการประมวลผลสถิติทางการศึกษาได้
2. การเก็บรวบรวมข้อมูลจากการลงทะเบียน (ลงทะเบียน) เป็นข้อมูลสถิติที่รวบรวมจากระบบการลงทะเบียนมีลักษณะคล้ายกันกับการรวบรวมจากรายงานตรงที่เป็นผลพลอยได้จากการลงทะเบียน ลักษณะต่อเนื่องมีการปรับแก้หรือเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องทันสมัยทำให้ได้สถิติที่เก็บถาวรโดยใช้วิธีการ เนื่องจากียนข้อะข้อข้อข้อข้อเนื่องจากเนื่องจากเบเนื่องจากเบเนื่องจากเบเนื่องจากเบเนื่องจากเนื่องจากนักเนื่องจากเนื่องจากเบเนื่องจากเบนักเบเนื่องจากเบเนื่องจากเบเนื่องจากนักเนื่องจากเบเนื่องจากเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะะะะเบะะะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบเบเบะเบเบะะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบะเบ นอกจากทะเบียนราษฎร์แล้วก็มีทะเบียนยานพาหนะของกรมตำรวจที่จะช่วยให้ได้ข้อมูลสถิติจำนว รถยนต์จำแนกตามชนิดหรือประเภทของรถยนต์เป็นด้น
3. การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีสำมะโน (การสำรวจสำมะโนประชากร) การเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติของทุก ๆ พื้นที่ที่กำหนดและภายในระยะเวลาที่กำหนดการเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติด้วยวิธีนี้จะช่วยให้ได้ข้อมูลในระดับพื้นที่ ย่อยเช่นหมู่บ้านตำบลและทำให้ได้รับข้อมูลที่เป็นค่าจริง
ตามพระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. 2508 ได้บัญญัติไว้ว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติเป็นหน่วยงานเดียวที่สามารถจัดทำสำมะโนประชากรและเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติด้วยวิธีการสำมะโนเป็นงานที่ต้องใช้เงินงบประมาณเวลาและกำลังคนเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะจัดทำสำมะโนทุก ๆ 10 ปีหรือ 5 ปี
4. การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีสำรวจ (Sample Survey) เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติ จากบางหน่วยของประชากรด้วยวิธีการเลือกตัวอย่าง การเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติด้วยวิธีนี้ จะทำให้ได้ข้อมูลในระดับรวม เช่น จังหวัด ภาค เขตการปกครอง และรวมทั่วประเทศ และข้อมูลที่ได้จะเป็นค่า โดยประมาณ การสำรวจเป็นวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ใช้งบประมาณ เวลา และกำลังคนไม่มากนัก จึงสามารถจัดทำได้เป็นประจำทุกปี หรือทุก 2 ปี ปัจจุบันการสำรวจเป็นวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติที่มี ความสำคัญ และใช้ลันอย่างแพร่หลายมากที่สุด ทั้งในวงการราชการและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจ เพื่อหาข้อมูลทางด้านการเกษตร อุตสาหกรรม สาธารณสุข การคมนาคม การศึกษา และข้อมูลทาง เศรษฐกิจและสังคมอื่น ๆ เป็นต้น
5. วิธีสังเกตการณ์ (Observation) เป็นวิธีการเก็บข้อมูลโดยสังเกตจากเหตุการณ์ประหลาดหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่หนึ่งและจดบันทึกไว้โดยไม่มีการสัมภาษณ์วิธีการใช้กันอย่างกว้างขวางในการวิจัยเช่นจะ การสำรวจผู้ขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนภายใต้การประกาศสถานการณ์ที่ประสบความสำเร็จ ลูกค้าและการบันทึกปริมาณการขายของสถานที่ประกอบการโดยพนักงานเก็บภาษีของกรมสรรพากรประกันการสัมภาษณ์
6. วิธีการบันทึกข้อมูลจากการวัดหรือนับจำนวนอุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดจำนวนเงินที่จำเป็นและความเหมาะสมเช่นการนับจำนวนรถยนต์ที่แล่นผ่านจุดใดจุดหนึ่งก็สามารถใช้งานได้โดยให้รถ แล่นผ่านเครื่องนับจำนวนหรือการเก็บข้อมูลจำนวนผู้ใช้บริการในห้องสมุดประชาชน