"พระธาตุดอยเวียง" เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจศรัทธาธรรม
วัดพระธาตุดอยเวียง ตั้งอยู่บนภูเขา ณ บ้านดอยเวียง หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน การเดินทางอยู่บนทางหลวงหมายเลข 1147 ไปทางอำเภอสันกำแพง เลยสามแยกบ้านธิไปเล็กน้อย มีทางแยกขวา ให้เลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร พบสามแยกให้เลี้ยวขวาไปตามถนนทางหลวงชนบทสายบ้านธิ-ดอยเวียง ประมาณ 5 กิโลเมตร วัดพระธาตุดอยเวียงจะอยู่ขวามือ
-- ประวัติวัดพระธาตุดอยเวียง --
วัดพระธาตุดอยเวียง เป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์เก่าแก่ซึ่งมีพระธาตุบรรจุอยู่ สันนิษฐานว่า สร้างเมื่อ พุทธศักราช 1220 ซึ่งตรงกับสมัยของพระนางเจ้าจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย สมัยก่อนเรียกว่า "เวียงน้อย" เพราะเป็นเมืองหน้าด่านสมัยเจ้าแม่จามเทวี และมาบูรณะครั้งใหญ่ เมื่อ พ.ศ.2395 ตลอดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ตามตำนานซึ่งจารึกในใบลานเป็นภาษาล้านนาของพระสงฆ์ที่เป็นหลักฐานยืนยันในเรื่องนี้ ว่า ขุนหลวงปาละวิจา ได้มาตั้งเมืองนี้เป็นเมืองหน้าด่าน และได้สร้างวัดไว้บนดอยนี้ด้วย ต่อมาถูกไฟป่าไหม้ลุกลาม ทำให้ปัจจุบันเหลือแต่เจดีย์ธาตุและศาลาเล็ก ๆ หนึ่งหลังเท่านั้น
พระนางเจ้าจามเทวี
วัดพระธาตุดอยเวียง
พระเจดีย์ธาตุ
ศาลาวัดพระธาตุดอยเวียง
-- โบราณสถานและโบราณวัตถุ ณ วัดพระธาตุดอยเวียง --
วัดพระธาตุดอยเวียง ปรากฎหลักฐานทางโบราณคดีที่หลากหลาย ได้แก่
พระพุทธรูปปางวิชัย รูปที่ 1 "หลวงพ่อสายฝน" หน้าตักกว้าง 29 นิ้ว ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ เหตุที่ได้ชื่อว่าหลวงพ่อสายฝนก็เพราะว่า มีครั้งหนึ่งดินฟ้าอากาศแห้งแล้งฝนไม่ตก ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันแห่พระพุทธรูปองค์นี้ เพื่อขอฝนปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างน่ามหัศจรรย์ ตั้งแต่นั้นมาชาวบ้านจึงพร้อมใจกันเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า "หลวงพ่อสายฝน"
พระพุทธรูปปางวิชัย รูปที่ 2 หน้าตักกว้าง 99 นิ้ว ประดิษฐานที่ศาลาการเปรียญ
พระพุทธรูปปางวิชัย รูปที่ 3 "หลวงพ่อดำดิน" หน้าตักกว้าง 89 นิ้ว ประดิษฐานนอยู่ที่ดอยชั้นล่าง ซึ่งทั้งสองรูปข้างในเป็นศิลาแลงข้างนอกฉาบด้วยปูนให้เต็มองค์ ซึ่งเดิมพระพุทธรูปทั้งสององค์นี้อยู่ที่หมู่บ้านตำหนัก ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ซึ่งก็ได้ปลักหักพังเหลือไม่เต็มองค์ อยู่ในสภาพล้มเศียรปักดิน ชาวบ้านจึงเรียก "พระเจ้าดำดิน" หรือ "หลวงพ่อดำดิน"
แท่นช้าง เป็นแท่นที่ก่อด้วยอิฐโบราณปั้นด้วยมือ สูงประมาณ 2 เมตร มีบันไดขึ้นทางทิศตะวันออก หากวิเคราะห์ถึงจุดประสงค์ของการสร้างแท่นช้างของผู้คนในยุคนั้นก็สามารถบอกได้ว่า ผู้ที่จะมานมัสการพระธาตุดอยเวียง นอกจากจะมีชาวบ้านธรรมดาสามัญที่เคารพบูชาในพระธาตุแล้ว ยังมีเจ้าขุน-มูลนายของเมืองหริภุญชัยเสด็จมาที่นี่ เพราะแท่นช้างเป็นที่สำหรับขึ้นลงของเจ้าขุนมูลนาย ในขณะที่ประทับอยู่บนหลังช้าง
เหล่าคอก “เหล่า” หมายถึง ป่า “คอก” หมายถึง ที่กักขังสัตว์เลี้ยง เมื่อรวมกันจึงหมายถึง บริเวณป่าที่อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหาร น้ำ ที่สามารถเป็นที่พักหรือกักขังสัตว์เลี้ยงที่เป็นพาหนะ ซึ่งในปัจจุบันหากเราอยู่บริเวณแท่นช้าง มองลงไปทางทิศตะวันออกของวัดพระธาตุ ดอยเวียง จะมองเห็นสภาพของป่าหรือเหล่าคอกดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นพื้นที่สวนลำไยไปหมดแล้ว
หลวงพ่อสายฝน
แท่นช้าง
หลวงพ่อดำดิน
--สืบฮีตตวยฮอย เตียวขึ้นดอย ไหว้สาพระธาตุดอยเวียง --
ข้อมูลเนื้อหา โดย:
เว็บไซต์สำนักงานจังหวัดลำพูน เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยว :: วัดพระธาตุดอยเวียง (https://www.lamphun.go.th/th/attractions/31/วัดพระธาตุดอยเวียง)
เว็บไซต์ไตลื้อบ้านธิลำพูน เรื่อง วัดพระธาตุดอยเวียง (https://www.tailuebanthi.com/15382672/วัดพระธาตุดอยเวียง)
เรียบเรียงเนื้อหา โดย : นางสาวกานต์ชนก แก้วทิพย์ และนางวิไลวรรณ อุ๋ยสกุล
ถ่ายภาพ/ภาพประกอบ โดย :
เพจ Facebook : ณ บ้านธิ/ At Banthi Lamphun
เพจ Facebook : ชมรมสืบฮีตสานฮอยวัฒนธรรมบ้านธิ