5. จิตวิญญาณความเป็นครู
5. จิตวิญญาณความเป็นครู
คำว่า “จิตวิญญาณ” มาจากคำว่า “จิต” และ “วิญญาณ” โดยสรุปหมายถึง สิ่งที่สิงอยู่ในตนทำให้เป็นบุคคลขึ้น เป็นความรู้แจ้ง ความรู้สึกตัว จิตใจ (ราชบัณฑิตยสถาน. 2546)
ผลของการมีจิตวิญญาณความเป็นครู การมีจิตวิญญาณความเป็นครู จะก่อให้เกิดผลต่อตัวครู ดังต่อไปนี้ 1) ช่วยพัฒนาหรือยกระดับความคิดและทักษะที่จำเป็น ในการสอน 2) มีศีลธรรม คุณธรรม และมีความรับผิดชอบมากขึ้น 3) มีความยืดหยุ่นและเข้าใจในความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น 4) มองนักเรียนว่ามีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และมีศักยภาพ 5) มีแรงจูงใจให้แสดงภาวะผู้นำออกมาเพิ่มขึ้น 6) มีความสุขและ มีความภาคภูมิใจในอาชีพครู 7) ได้รับการยอมรับและ ความศรัทธาจากผู้พบเห็น ข้าพเจ้าปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ เต็มเวลา เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างสม่ำเสมอ โดยมีการวางแผนการสอนล่วงหน้า จัดทำ และจัดหาสื่อ จัดกิจกรรมโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ไม่ละทิ้งการสอนกลางคันมีการปรับปรุงพัฒนางานการสอนอยู่เสมอ5.1 การเข้าสอนตรงเวลาและสอนเต็มเวลา
ข้าพเจ้าปฏิบัติหน้าที่ด้วยใจที่รักการสอนอย่างจริงจัง ข้าพเจ้าเข้าสอนตรงเวลา และเต็มเวลา การที่ข้าพเจ้าเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในการสอนอย่างตรงเวลาและเต็มเวลากับนักเรียนนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงการทำตามกฎระเบียบหรือหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น
แต่เป็นเพราะข้าพเจ้าตระหนักดีว่าทุกวินาทีที่อยู่ในห้องเรียนมีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ของนักเรียน
การเข้าสอนตรงเวลาเป็นดั่งการเคารพและให้เกียรตินักเรียน และเพื่อให้นักเรียนได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
5.2 การตระหนักในความรู้และทักษะที่ถูกต้องรวมถึงสิ่งที่ดี ๆ ให้กับผู้เรียน
ข้าพเจ้าตระหนักในความรู้และทักษะที่ถูกต้องรวมถึงสิ่งที่ดี ๆ ให้กับผู้เรียนนั้น เป็นหัวใจสำคัญของการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ
เนื่องจาก การตระหนักรู้ในบริบทนี้ หมายถึง การเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า อะไรคือสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับผู้เรียนในโลกปัจจุบัน เป็นการกลั่นกรองและเลือกสรรข้อมูลที่ถูกต้อง ครอบคลุม และเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง รวมถึงการให้ความสำคัญกับทักษะที่จำเป็น
1) ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
ข้าพเจ้าสอนให้ผู้เรียนไม่เพียงแค่ท่องจำ แต่ให้รู้จักตั้งคำถาม วิเคราะห์ข้อมูล และหาทางแก้ปัญหาด้วยตนเอง
2) ทักษะการสื่อสาร และการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ข้าพเจ้าส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างมีเหตุผล รับฟังผู้อื่น และทำงานเป็นทีมได้
3) ความฉลาดทางอารมณ์และจริยธรรม
ข้าพเจ้าปลูกฝังให้ผู้เรียนรู้จักเข้าใจ และจัดการกับอารมณ์ของตนเอง รวมถึงมีคุณธรรมและจริยธรรมในการอยู่ร่วมกัน
ในสังคม
การมอบสิ่งดี ๆ ให้กับผู้เรียนนั้น กว้างกว่าแค่การให้ความรู้ทางวิชาการ แต่คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการเติบโตอย่างรอบด้าน
1) ความปลอดภัยและพื้นที่ที่ยอมรับ
ข้าพเจ้าสร้างบรรยากาศในห้องเรียนที่ผู้เรียนรู้สึกปลอดภัยที่จะแสดงความคิดเห็น กล้าที่จะผิดพลาด และได้รับการยอมรับในความเป็นตัวเอง
2) กำลังใจและแรงบันดาลใจ
ข้าพเจ้าเป็นผู้จุดประกายให้ผู้เรียนมองเห็นคุณค่าในตัวเองและมีความใฝ่ฝันที่จะพัฒนาตนเองต่อไป
3) ความเมตตาและความเข้าใจ
ข้าพเจ้าเข้าใจในความแตกต่างของผู้เรียนแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานครอบครัว ความถนัด หรือรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนที่เหมาะสม
5.3 การสร้างความเสมอภาคเป็นธรรมกับผู้เรียนทุกคน
ข้าพเจ้าปฏิบัติการสร้างความเสมอภาคเป็นธรรมกับผู้เรียนทุกคน ดังต่อไปนี้
1. ข้าพเจ้าปฏิบัติต่อนักเรียนทุกคนอย่างเท่าเทียม คือ
ข้าพเจ้าให้โอกาสที่เท่ากัน เปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในและนอกห้องเรียนอย่าง
เท่าเทียมไม่แบ่งแยก ให้ความรัก ความสนใจ และการดูแลนักเรียนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าพวกเขาจะมีพื้นเพหรือความสามารถ
เป็นอย่างไรหลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบ ซึ่งเน้นการชื่นชมความพยายาม และความก้าวหน้าของนักเรียนแต่ละคนแทนการเปรียบเทียบ
กับผู้อื่น
2. จัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน คือ
ข้าพเจ้าปรับวิธีการสอนใช้สื่อการสอนที่หลากหลายและปรับวิธีการสอนให้เหมาะกับความสามารถ และความถนัด
ที่แตกต่างกันของนักเรียนแต่ละคน ให้การช่วยเหลือ สังเกตและให้ความช่วยเหลือแก่นักเรียนที่เรียนรู้ช้าหรือมีปัญหาในการเรียนรู้
เป็นพิเศษ
3. สร้างบรรยากาศในห้องเรียนที่ปลอดภัยและเป็นมิตร
ข้าพเจ้าส่งเสริมการทำงานร่วมกัน จัดกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้ทำงานร่วมกัน เพื่อเรียนรู้ที่จะยอมรับความแตกต่าง
และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สอนเรื่องความเห็นอกเห็นใจ สอนให้นักเรียนรู้จักความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และไม่รังแกหรือแบ่งแยกเพื่อน
การสร้างความเสมอภาคและเป็นธรรมจะช่วยให้นักเรียนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและมีทัศนคติที่ดีต่อผู้อื่นในอนาคต
5.4 การรู้จักให้อภัย ปราศจากอคติ ช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียน
ประสบความสำเร็จ ตามศักยภาพ ความสนใจหรือความตั้งใจ
1) เมื่อผู้เรียนทำผิดพลาด ข้าพเจ้าให้อภัยโดยไม่ตัดสิน และช่วยผู้เรียนหาทางแก้ไข
2) เมื่อผู้เรียนไม่เข้าใจบทเรียน ข้าพเจ้าจะใช้ความอดทน และวิธีที่หลากหลายในการสอน เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจตามศักยภาพของผู้เรียน
3) เมื่อผู้เรียนมีความสนใจที่แตกต่างจากคนอื่น ข้าพเจ้าจะสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาในสิ่งที่ผู้เรียนสนใจ
4) เมื่อผู้เรียนมีความท้อแท้ ข้าพเจ้าจะเป็นกำลังใจและให้การสนับสนุนทางอารมณ์ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนก้าวผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้
5.5 การเป็นที่พึ่งให้กับผู้เรียนได้ตลอดเวลา
ข้าพเจ้าเป็นที่พึ่งให้กับผู้เรียนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน กล่าวคือ ข้าพเจ้าใช้กลยุทธ์ที่ฉลาดเพื่อสร้าง ความพร้อม และ
ความไว้วางใจ ดังนี้
ข้าพเจ้ากำหนดขอบเขตและช่วงเวลาให้ชัดเจน บอกให้ผู้เรียนรู้ว่า เวลาใดที่ข้าพเจ้าสะดวกให้คำปรึกษา เช่น ช่วงพัก
กลางวัน หรือหลังเลิกเรียน การทำเช่นนี้ทำให้ข้าพเจ้ายังคงมีเวลาส่วนตัว มีเวลาให้การทุ่มเททำงานต่าง ๆ และยังคงช่วยเหลือนักเรียน
ได้เสมอ
ข้าพเจ้าเป็นผู้ฟังที่ดี รับฟังอย่างตั้งใจและไม่ตัดสินเมื่อนักเรียนมีปัญหา บางครั้งสิ่งที่ผู้เรียนต้องการ อาจไม่ใช่คำตอบ
แต่คือการที่มีคนรับฟัง
ข้าพเจ้าให้กำลังใจและสนับสนุน ให้คำชมเชยที่เจาะจงและเป็นกำลังใจให้นักเรียนเติบโต และเรียนรู้ด้วยตนเอง
5.6 การจัดกิจกรรมส่งเสริม การใฝ่รู้ ค้นหา สร้างสรรค์ ถ่ายทอด
ปลูกฝังและเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้เรียน
ข้าพเจ้าจัดกิจกรรมส่งเสริม การใฝ่รู้ ค้นหา สร้างสรรค์ ถ่ายทอด ปลูกฝังและเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้เรียน ดังนี้
1. สร้างแรงบันดาลใจด้วยการตั้งคำถามปลายเปิด
ข้าพเจ้าตั้งคำถามง่าย ๆ ที่ชวนให้ผู้เรียน คิด เช่น "ถ้าตัวละครในเรื่องป็นคนสมัยนี้จะทำยังไง" หรือ "ทำไมคำนี้ถึงสะกดแบบนี้" ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสงสัยและอยากหาคำตอบด้วยตนเอง
2. เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์ผลงาน
ข้าพเจ้าให้ผู้เรียนนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลายตามความถนัด เช่น การเล่าเรื่องประกอบท่าทาง การวาดภาพ เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
3. สนับสนุนการถ่ายทอดและการแบ่งปัน
ข้าพเจ้าให้ผู้เรียนได้นำเสนอผลงานของตนเองหน้าชั้นเรียน เพื่อฝึกทักษะการพูด การใช้ภาษา และการสื่อสารอย่างมั่นใจ นอกจากนี้ การให้เพื่อน ๆ ได้ซักถามและแสดงความคิดเห็นยังช่วยให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันอีกด้วย
5. แบบอย่างที่ดี
ข้าพเจ้าแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ รับฟังความคิดเห็นของผู้เรียนอย่างตั้งใจ และให้คำชื่นชมเมื่อผู้เรียนมีความพยายาม เพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เป็นมิตรและปลอดภัย
5.7 การทุ่มเทเสียสละในการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน
ข้าพเจ้าอุทิศเวลาให้กับราชการ ไม่ว่าการสอนนั้นจะอยู่ในเวลาราชการหรือนอกเวลาราชการเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความสามารถ เช่น ผู้เรียนขาดความมั่นใจในการแต่งประโยค สิ่งที่ข้าพเจ้าทำ คือ ออกแบบกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ เช่น การเล่านิทานจากภาพ การเขียนไดอารี่สั้น ๆ หรือการแต่งกลอนง่าย ๆ โดยข้าพเจ้าจะให้กำลังใจ และชื่นชมทุกความพยายาม
ไม่ตัดสินว่าถูกหรือผิด การทุ่มเทเสียสละนี้ ข้าพเจ้าใช้ความอดทนและเข้าใจในการรับฟังความคิดของผู้เรียนทุกคน และใช้เวลาเพิ่มเติม
ในการตรวจงาน และให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลอย่างละเอียด ทำให้ข้าพเจ้าได้ผลลัพธ์ คือ ผู้เรียนกล้าที่จะแสดงความคิดสร้างสรรค์
ของตัวเองมากขึ้น และมองว่าภาษาไทยเป็นวิชาที่สนุกสนาน ไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่อ
สรุป
การทุ่มเทเสียสละของข้าพเจ้า คือ การ ให้ใจ และ ใช้เวลาส่วนตัว เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของนักเรียนแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการสละเวลาสอนเสริม การออกแบบกิจกรรมที่สนุกและเหมาะสม การรับฟังอย่างเข้าใจ หรือการให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วย สร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง ให้กับผู้เรียน และ จุดประกายความรักในภาษาไทย ได้ในระยะยาว