3. จรรยาบรรณวิชาชีพครู
3. จรรยาบรรณวิชาชีพครู
ข้าพเจ้าปฏิบัติตนเหมาะสมกับความเป็นครู ตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู มีการเข้าอบรมสัมมนา พัฒนาทางด้านความรู้ต่าง ๆ เพื่อพัฒนาวิชาชีพ อาทิ การอบรมโครงการพัฒนาข้าราชการครู และบุคลาการทางการศึกษาให้มีความเชี่ยวชาญทางด้านวิชาชีพกิจกรรมอบรมพัฒนาครู และประเมินผล, การอบรมโครงการพัฒนาข้าราชการครู และบุคลาการทางการศึกษาให้มีความเชี่ยวชาญ ทางด้านวิชาชีพ การอบรมแนวทางสู่โรงเรียนพระราชทาน และการอบรมโครงการพัฒนาข้าราชการครู และบุคลาการทางการศึกษาให้มีความเชี่ยวชาญทางด้านวิชาชีพ การอบรมการจัดการเรียนรู้แบบ STEAM
ณ เหตุการณ์ปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าพยายามศึกษาค้นคว้าติดตามข่าวสาร ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน โดยเฉพาะข้าพเจ้ามีนักเรียนจากทั้งสองประเทศอยู่ในห้องเรียนเดียวกัน การอธิบายเรื่องนี้ในหัวข้อ การมีวิสัยทัศน์ ข้าพเจ้าเน้นที่การมองความสัมพันธ์ในเชิงสร้างสรรค์ และเข้าใจร่วมกัน
"ข้าพเจ้าเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของไทย และกัมพูชาเหมือนกับการอยู่ร่วมกันของเพื่อนในห้องเรียน คือ เด็ก ๆ ทุกคนเป็นเพื่อนกัน บางคนมาจากครอบครัวคนไทย บางคนมาจากครอบครัวคนกัมพูชา เราอยู่ด้วยกัน ช่วยเหลือกัน เล่นด้วยกัน การที่เราจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เราต้องรู้จัก และเข้าใจกันให้มากขึ้น เปรียบเสมือนประเทศไทยกับประเทศกัมพูชาของเรา เราเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันมานานมาก เรามีเรื่องราวที่คล้ายกันหลายอย่าง และก็มีเรื่องราวที่แตกต่างกันบ้าง การมีวิสัยทัศน์ คือ การที่เราคอยมองดูว่าตอนนี้ประเทศของเรา และประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาเขามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เช่น เขามีการสร้างถนนใหม่ หรือมีโรงเรียนใหม่ ๆ
เราก็ควรจะเรียนรู้ และทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้ เพื่อให้เราอยู่ร่วมกันได้ดีขึ้น และช่วยกันทำให้ภูมิภาคของเราเจริญขึ้น"
ข้าพเจ้ากล่าวคำว่า "เพื่อนบ้าน" แทนคำว่า "ศัตรู" หรือ "คู่กรณี" เพื่อสร้างบรรยากาศเชิงบวก
ข้าพเจ้าเน้นย้ำถึงความคล้ายคลึง เช่น วัฒนธรรม และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อเชื่อมโยงกับเรื่องที่ผู้เรียนเข้าใจง่าย เช่น การเล่นกับเพื่อน, การช่วยเหลือกัน เป็นต้น
ข้าพเจ้าสอนอย่างยุติธรรมและเต็มที่ เต็มความสามารถ เต็มเวลา ไม่ใช้อำนาจหน้าที่เพื่อรับผลประโยชน์ส่วนตัว
ที่ไม่ชอบธรรม เพราะการทำเช่นนี้ ข้าพเจ้ามองว่า เป็นการรักษาศักดิ์ศรีและความน่าเชื่อถือของความเป็นครู เป็นต้น
ข้าพเจ้ามุ่งมั่น พัฒนาความรู้ความสามารถของผู้เรียน ข้าพเจ้าตั้งใจส่งเสริมให้ผู้เรียนของข้าพเจ้า พัฒนาทักษะภาษาไทยอย่างครบถ้วน ทั้งการอ่าน การเขียน การฟัง และการพูด ให้เหมาะสมกับวัย โดยเน้นกระบวนการเรียนรู้ที่สนุกสนานและสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้เรียนเติบโตเป็นผู้ใช้ภาษาไทยที่ดีในอนาคต
ข้าพเจ้าเน้นการสร้างความร่วมมือ และพัฒนาวิชาชีพครูอย่างต่อเนื่อง การเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
จะช่วยให้ข้าพเจ้าพัฒนาทักษะการสอนให้ทันสมัย แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนครู และสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน ซึ่งจะส่งผลดีต่อคุณภาพการเรียนการสอน และนักเรียนโดยตรง
ข้าพเจ้าในฐานะครูสอนภาษาไทย ข้าพเจ้าคือผู้ที่รัก และเมตตา ผู้เรียนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เอาใจใส่ รับฟังปัญหาและความต้องการของนักเรียนแต่ละคน ส่งเสริมและสนับสนุน ให้ผู้เรียนได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ และให้บริการ การเรียนรู้ที่มีคุณภาพแก่ทุกคนอย่างเสมอภาค โดยไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษา สำเนียง หรือพื้นเพทางสังคม เพื่อให้การศึกษาเป็นเครื่องมือที่ช่วยยกระดับชีวิตของผู้เรียนทุกคนได้อย่างแท้จริง
ข้าพเจ้าปฏิบัติตามบทบาทและบริบทของตนเอง ดังนี้
ผู้เรียน ข้าพเจ้าเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน มีเมตตา อดทน และเข้าใจธรรมชาติของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังเรียนรู้โลกกว้าง
ผู้บริหาร ข้าพเจ้าแสดงความรับผิดชอบในหน้าที่ ปฏิบัติตามนโยบาย และสามารถร่วมงานกับผู้อื่นได้
เพื่อนร่วมงาน ข้าพเจ้าให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีน้ำใจช่วยเหลือ และทำงานเป็นทีม
ผู้ปกครอง ข้าพเจ้าสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง เปิดใจรับฟังความคิดเห็น และสื่อสารเรื่องพัฒนาการของผู้เรียนอย่างสม่ำเสมอ
ชุมชน ข้าพเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาชุมชน ในฐานะ ผู้สร้างคน
ข้าพเจ้าวิเคราะห์ไม่เพียงแต่พฤติกรรมร้ายแรง แต่สังเคราะห์ถึงพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในทุกวัน เช่น การขาดความรับผิดชอบ, การลำเอียง, การใช้คำพูดรุนแรง, หรือการขาดความเข้าใจในพัฒนาการของเด็ก เพราะพฤติกรรมเหล่านี้ สามารถสร้างผลกระทบ
ที่ลึกซึ้งต่อตัวผู้เรียนได้
ข้าพเจ้าสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และเอื้อต่อการเรียนรู้ การไม่ปฏิบัติตนต่อวิชาชีพเพียงเล็กน้อย ก็สามารถสร้างบาดแผลทางใจที่ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กได้อย่างยาวนาน ดังนั้น การใส่ใจในทุกการกระทำ คำพูด และความรู้สึกของเด็กแต่ละคน จึงเป็นหัวใจสำคัญของการทำหน้าที่ครู
ข้าพเจ้าแสดงออกถึง จรรยาบรรณวิชาชีพ ในการทำงานร่วมกับผู้อื่นถือเป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะการยึดหลัก ความสามัคคีเกื้อกูล ซึ่งสามารถปฏิบัติได้จริงและเห็นผลเป็นรูปธรรม ดังนี้
ข้าพเจ้าแสดงความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน และเสนอตัวช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานอย่างเต็มใจ ไม่ว่าจะเป็นงานสอน หรืองานจัดสถานที่ (มีส่วนร่วมและให้ความช่วยเหลือ)
ข้าพเจ้าพูดคุยอย่างสุภาพและให้เกียรติผู้อื่นเสมอ พร้อมเปิดใจรับฟังคำแนะนำจากครูรุ่นพี่ครู เพื่อนำมาปรับปรุงตนเอง (สื่อสารเชิงบวกและรับฟัง)
ข้าพเจ้าพยายามทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ และเมื่อเกิดปัญหา ข้าพเจ้าแสดงความรับผิดชอบและร่วมกันหาทางแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ (รับผิดชอบและร่วมมือ)
ข้าพเจ้าใช้จรรยาบรรณวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาผู้เรียน โรงเรียน และชุมชนอย่างครอบคลุม ดังนี้
1) การพัฒนาผู้เรียน ข้าพเจ้าเน้นการสอนให้ผู้เรียนอ่านออกเขียนได้ ด้วยความสนุกสนาน ปลูกฝังคุณธรรมผ่านวรรณคดี เนื้อเรื่องแต่ละบทของภาษาพาที และส่งเสริมการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง สร้างสรรค์ในชีวิตประจำวัน
2) การพัฒนาโรงเรียน ข้าพเจ้าสร้างสรรค์สื่อการสอนที่น่าสนใจและทันสมัย เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทยให้ดีขึ้น
3) พัฒนาชุมชน ข้าพเจ้าในฐานะครูภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 การที่ข้าพเจ้าใช้ความรู้ความสามารถเพื่อส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้ของผู้เรียน แล้วยังขยายผลไปถึงการอธิบายและสร้างความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง ถือเป็นการพัฒนาชุมชนในระดับรากฐานที่สำคัญอย่างยิ่ง
ซึ่งสอดคล้องกับจรรยาบรรณวิชาชีพครูในด้านการมุ่งมั่นพัฒนาผู้เรียนและร่วมมือกับชุมชน
ข้าพเจ้าเล็งเห็นความสำคัญของการยกระดับ "ทรัพยากรมนุษย์" การที่ผู้เรียนในชุมชนสามารถอ่านออกเขียนได้ดีขึ้น ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มทักษะพื้นฐานส่วนบุคคล แต่ยังเป็นการยกระดับ "ทุนมนุษย์" (Human Capital) ของชุมชนโดยรวมด้วย เพราะทักษะการอ่านเขียน
เป็นประตูสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นพื้นฐานของการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น และเป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและการประกอบอาชีพ
ที่มีคุณภาพในอนาคต
การที่ข้าพเจ้าใช้จรรยาบรรณในวิชาชีพมาเป็นแรงผลักดันให้เกิดการสื่อสาร และสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครองจนนำไปสู่การพัฒนาการอ่านออก เขียนได้ของผู้เรียนนั้น ไม่ใช่แค่การทำงานในหน้าที่ แต่คือการใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง และ
ยกระดับศักยภาพของคนในชุมชนอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นคุณค่าสูงสุดของจรรยาบรรณวิชาชีพครูในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน
การปกครองระบอบประชาธิปไตย
ข้าพเจ้าสอนเรื่องประชาธิปไตยในห้องเรียน โดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ข้าพเจ้าจะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ออกเสียงและแสดงความคิดเห็นในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเลือกนิทานที่จะดู และเรียนรู้ร่วมกันร่วมกัน และการช่วยกันคิดชื่อกลุ่มในห้องเรียน
ข้าพเจ้าสร้างกติกาของห้องเรียนร่วมกัน โดยช่วยกันคิดว่า กฎของห้องเรียนที่เราจะทำตามมีอะไรบ้าง เช่น
ควรยกมือก่อนพูด ไม่ส่งเสียงดังในเวลาเรียน เพื่อให้ผู้เรียน รู้สึกว่าเป็นเจ้าของกฎ และปฏิบัติตามด้วยความเต็มใจ
การสอนเรื่องพระมหากษัตริย์และสถาบันหลัก
ข้าพเจ้าเล่านิทานและเรื่องราวเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลต่าง ๆ ในฐานะผู้ทรงดูแลและพัฒนาประเทศ ทำให้ผู้เรียนรู้สึกรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
ข้าพเจ้าจัดกิจกรรมเกี่ยวกับวันสำคัญของชาติ เช่น วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของในหลวงรัชกาล
ที่ 10 หรือวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ
การเป็นแบบอย่างที่ดี
ข้าพเจ้าแสดงความเคารพต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อย่างสม่ำเสมอ เช่น การยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ การให้ความเคารพต่อภาพในหลวง เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้ผู้เรียน ได้เห็นและปฏิบัติตาม
ข้าพเจ้าสอนให้ผู้เรียนภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย และปลูกฝังคุณธรรมที่สำคัญ เช่น ความซื่อสัตย์ ความมีวินัย เพื่อให้ผู้เรียนเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีและมีคุณภาพของประเทศต่อไป