หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การสืบค้น ความเป็นมาของท้องถิ่น
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การสืบค้น ความเป็นมาของท้องถิ่น
วิธีการทางประวัติศาสตร์ที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอดีตนั้น มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. การตั้งคำถามหรือกำหนดเรื่องที่จะศึกษา
2. การรวบรวมหลักฐาน
3. การตรวจสอบและประเมินหลักฐาน
4. การตีความหลักฐาน
5. การเรียบเรียงและการนำเสนอ
หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร-หลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
หลักฐานทางประวัติศาสตร์สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักคือ หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร และหลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร. หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร คือหลักฐานที่บันทึกเป็นตัวอักษรหรือภาษาเขียน เช่น หนังสือ พงศาวดาร ศิลาจารึก. ในขณะที่หลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร คือหลักฐานที่ไม่ได้เป็นตัวหนังสือ แต่ยังคงมีร่องรอยหรือร่องรอยของเหตุการณ์ เช่น โบราณสถาน โบราณวัตถุ สถาปัตยกรรม ศิลปะการแสดง.
หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร (Written Sources):
หนังสือ:
เอกสารต่างๆ ที่เขียนขึ้น เช่น พงศาวดาร ตำนาน บันทึกคำบอกเล่า.
ศิลาจารึก:
สลักคำจารึกบนหิน หรือวัสดุอื่นๆ.
สมุดข่อย:
เอกสารที่เขียนบนใบลานหรือวัสดุอื่นๆ.
คัมภีร์ใบลาน:
หนังสือที่เขียนบนใบลาน.
จดหมายเหตุ:
บันทึกเหตุการณ์สำคัญต่างๆ.
หลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร (Non-Written Sources):
โบราณสถาน: สิ่งก่อสร้างในอดีต เช่น พระพุทธรูป โบสถ์ วิหาร กำแพงเมือง.
โบราณวัตถุ: สิ่งของโบราณ เช่น ภาชนะดินเผา เครื่องมือเครื่องใช้จากโลหะและไม้.
สถาปัตยกรรม: ลักษณะของอาคารและสิ่งก่อสร้าง.
ศิลปะการแสดง: นาฏศิลป์ ดนตรี จิตรกรรม.
ภาพถ่าย: ภาพถ่ายบุคคลหรือเหตุการณ์ในอดีต.
ภาพสไสด์: แผ่นสไสด์ที่ใช้ในการถ่ายภาพ.
แผนที่: แผนที่ที่แสดงภูมิภาคหรือพื้นที่ในอดีต.
โปสเตอร์: โปสเตอร์ที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์.
แถบ บันทึกเสียง แผ่นเสียง ภาพยนตร์: บันทึกเสียงหรือภาพยนตร์ที่บันทึกไว้.
ดวงตราไปรษณียากร: ดวงตราที่ใช้ในการส่งจดหมาย.
โครงกระดูก: โครงกระดูกมนุษย์หรือสัตว์.
หม้อสามขา: หม้อสามขาจากดินเผา.
ตะเกียงโรมัน: ตะเกียงที่ทำจากสำริด.
หลักฐานทางโบราณคดี: หลักฐานจากการขุดค้น
หลักฐานชั้นต้น-หลักฐานชั้นรอง
หลักฐานชั้นต้น คือ หลักฐานที่เกิดร่วมสมัยกับเหตุการณ์ที่ศึกษา หรือบันทึกโดยผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง.
หลักฐานชั้นรอง คือ หลักฐานที่ถูกสร้างขึ้นภายหลังเหตุการณ์ โดยบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง.
หลักฐานชั้นต้น (Primary Sources):
ลักษณะ:
หลักฐานที่เกิดในยุคสมัยของเหตุการณ์ที่ศึกษา, เช่น เอกสารทางราชการ, จดหมาย, บันทึก, วัตถุโบราณคดี.
ตัวอย่าง:
หนังสือ, เอกสารสนธิสัญญา, บันทึกประจำตัว, สมุดบันทึก, ศิลาจารึก, จดหมาย.
หลักฐานชั้นรอง (Secondary Sources):
ลักษณะ:
หลักฐานที่ถูกสร้างขึ้นภายหลังเหตุการณ์, โดยผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง, เช่น บทความวิชาการ, หนังสือประวัติศาสตร์, พงศาวดาร, ตำนาน.
ตัวอย่าง:
หนังสือประวัติศาสตร์, บทความทางวิชาการ, พงศาวดาร, ตำนาน, หนังสือชีวประวัติ.
ความแตกต่าง:
ความน่าเชื่อถือ:
หลักฐานชั้นต้นมีโอกาสที่จะเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้มากกว่า เนื่องจากมาจากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์.
วัตถุประสงค์:
หลักฐานชั้นต้นมักมีวัตถุประสงค์หลักในการบันทึกหรือสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะตัว, ในขณะที่หลักฐานชั้นรองถูกสร้างขึ้นเพื่อการวิเคราะห์, ตีความ, และนำเสนอเรื่องราวของเหตุการณ์.
วิธีการ:
หลักฐานชั้นต้นมักจะบันทึกหรือสร้างขึ้นในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริง, ในขณะที่หลักฐานชั้นรองมักจะถูกเขียนขึ้นหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว.
สรุป: หลักฐานชั้นต้นเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญที่สุดสำหรับศึกษาเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์, แต่หลักฐานชั้นรองก็มีประโยชน์ในการให้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์และตีความเหตุการณ์.
https://create.kahoot.it/details/debb4b2d-a0af-4e33-8d8a-ce7d13e0b134
ความจริง (Truth):
คือเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง ตาม DLTV มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม.
ข้อเท็จจริง (Fact):
คือข้อความหรือเหตุการณ์ที่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นจริงหรือไม่จริง ตาม DLTV มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม. ข้อเท็จจริงต้องมีลักษณะดังนี้:
มีความเป็นไปได้
มีความสมจริง
มีหลักฐานเชื่อถือได้
มีความสมเหตุสมผล.
อ่านให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนตั้งคำถาม 5 ข้อ
Don't THAI to Me
วันนี้ ศัพท์แสลงที่กําลังฮิตในหมู่วัยรุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ซึ่งกําลังแพร่ระบาดในโซเชียลเน็ตเวิร์ก
ก็คือคําว่า Don't Thai to me แปลความธรรมดาอาจจะหมายถึง อย่ามาทําเป็น ไทยกับผม
แต่ถ้าแปลในความหมายของศัพท์แสลงก็คือ “อย่ามา โกงฉัน...อย่ามาโกหกฉัน....อย่ามาต้มตุ๋นฉันน่า..."
คําว่า THAI กลายเป็นศัพท์แสลงที่หมายถึง การโกง การโกหกตอแหล การต้มตุ๋น การเอาเปรียบ
คําว่า “ไทย” ที่คนไทยเราภาคภูมิใจมาหลายพันปี วันนี้กลายเป็น “คำด่า คำเหยียดหยาม" ไปอย่างน่าเจ็บปวด
อันเมืองทอง คือระนองมองวิไล แดนอำไพ ไม่น้อยหน้าใครในสยาม
มีสินทรัพย์นับอนันต์ทั่วเขตคาม เกาะเขางามธรรมชาติหาดทรายและทะเล
ชาวระนอง นองน้ำใจสดใสยิ่ง มีความจริงใจ รักผูกพันไม่หันเห
มุ่งมานะหากินไม่เกเร ถิ่นพื้นเพเรามีทรัพย์มากมายไว้แสดง
โลกบรรจงสร้างสิ่งตรึงตาไว้หลายอย่าง และยังได้สร้างสิ่งแปลกใจก็หลายแห่ง
มีน้ำตก บ่อน้ำแร่อันร้อนแรง ไม่แห้งแล้ง ฝนพรมชุ่มฉ่ำป่างามขจี
เมืองเราดีมีศีลธรรมคอยค้ำส่ง คอยจรรโลง คอยชี้ช่องทางสร้างศักดิ์ศรี
รัตนรังสรรค์สร้างแต่ทางดี สามัคคีรวมใจรักรวมกันสันต์สุขเอย