สไลด์หัวข้อที่ ๒ "การปกครองสมัยอยุธยา"
หน่วยการเรียนรู้: อาณาจักรอยุธยา หัวข้อที่ ๒: การปกครองสมัยอยุธยา
การปกครองของอยุธยาเป็นแบบ สมบูรณาสิทธิราชย์ (Absolute Monarchy) โดยมีแนวคิดสำคัญ 2 ประการที่ผสมผสานกัน:
ธรรมราชา (Dharmaraja)
ได้รับอิทธิพลจาก พระพุทธศาสนา (แนวคิดสุโขทัย)
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้ปกป้องศาสนา
ปกครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรม (หลักธรรม 10 ประการ)
เทวราชา (Devaraja)
ได้รับอิทธิพลจาก ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู (แนวคิดขอม)
พระมหากษัตริย์ทรงมีสถานะเป็น สมมติเทพ (เทพเจ้าจำแลง)
ทำให้กษัตริย์มีอำนาจสิทธิ์ขาดสูงสุด และเกิดพิธีกรรมต่างๆ (เช่น พิธีราชาภิเษก, ภาษาเฉพาะ (ราชาศัพท์))
ในสมัยอยุธยาตอนต้น (รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง) ได้จัดระเบียบการปกครองส่วนกลาง โดยเลียนแบบมาจากขอม เรียกว่า "จตุสดมภ์" ประกอบด้วย 4 กรมหลัก:
กรมเวียง (นครบาล): ดูแลความสงบเรียบร้อยในเมืองหลวง (ตำรวจ/นครบาล)
กรมวัง (ธรรมาธิกรณ์): ดูแลกิจการในราชสำนัก, พระราชพิธี และการพิจารณาคดี (ยุติธรรม)
กรมคลัง (โกษาธิบดี): ดูแลการเงิน, การคลัง, ภาษีอากร และการค้ากับต่างประเทศ
กรมนา (เกษตราธิการ): ดูแลการเกษตร, การทำนา, และเก็บภาษีข้าว (หางข้าว)
ในสมัยอยุธยาตอนกลาง สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงปฏิรูปการปกครองครั้งใหญ่ เพื่อ รวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง และเพิ่มประสิทธิภาพ
สมุหนายก (อัครมหาเสนาบดีฝ่ายพลเรือน):
ตำแหน่ง: นายกรัฐมนตรี
หน้าที่: ดูแลกิจการพลเรือนทั้งหมด และควบคุม จตุสดมภ์
สมุหกลาโหม (อัครมหาเสนาบดีฝ่ายทหาร):
ตำแหน่ง: ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
หน้าที่: ดูแลกิจการทหาร การป้องกันประเทศ และการสงคราม
สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงตรา "กฎหมายศักดินา" เพื่อกำหนดสถานะ สิทธิ และหน้าที่ของคนทุกชนชั้นในสังคม
ศักดินา คืออะไร?
เครื่องกำหนดลำดับชั้นทางสังคม และควบคุมกำลังคน
มีหน่วยเป็น "ไร่" (แต่ไม่ได้หมายถึงการถือครองที่ดินจริงเสมอไป)
จุดประสงค์: เพื่อจัดระเบียบการปกครองและการเกณฑ์แรงงาน (ไพร่)
ตัวอย่างศักดินา:
พระมหาอุปราช (รัชทายาท): 100,000 ไร่
ขุนนาง (ชั้นเจ้าพระยา): 10,000 ไร่
ไพร่ (คนทั่วไป): 10 - 25 ไร่
ทาส: 5 ไร่
การควบคุมหัวเมืองต่างๆ นอกราชธานี แบ่งออกเป็น 3 ระดับ:
เมืองลูกหลวง (หัวเมืองชั้นใน):
เมืองที่อยู่ใกล้ราชธานี (เช่น ลพบุรี, สุพรรณบุรี)
ส่ง เจ้านายหรือพระบรมวงศานุวงศ์ (ลูกหลวง) ไปปกครอง
เมืองพระยามหานคร (หัวเมืองชั้นนอก):
เมืองที่อยู่ไกลออกไป (เช่น พิษณุโลก, นครศรีธรรมราช)
ส่ง ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ที่ไว้วางใจ ไปปกครอง
เมืองประเทศราช (Vassal States):
ดินแดนต่างชาติที่ยอมอ่อนน้อม (เช่น สุโขทัย (ในยุคแรก), มะละกา, กัมพูชา)
มีเจ้าเมืองของตนเองปกครอง แต่ต้องส่ง เครื่องราชบรรณาการ (Tribute) และ กำลังคน ให้อยุธยาเมื่อมีศึกสงคราม
การปกครองอยุธยาเป็นแบบ สมบูรณาสิทธิราชย์ ที่มีกษัตริย์เป็นศูนย์กลางอำนาจ
กษัตริย์ทรงมีสถานะเป็นทั้ง ธรรมราชา (ผู้มีธรรม) และ เทวราชา (สมมติเทพ)
การปกครองส่วนกลางใช้ระบบ จตุสดมภ์ (เวียง วัง คลัง นา)
สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงปฏิรูปครั้งใหญ่:
ตั้ง สมุหนายก (พลเรือน) และ สมุหกลาโหม (ทหาร)
ใช้ ระบบศักดินา เพื่อควบคุมสังคมและกำลังคน
คุณต้องการไปต่อที่หัวข้อที่ ๓ "เศรษฐกิจสมัยอยุธยา" เลยไหมครับ