สไลด์หัวข้อที่ ๓ "เศรษฐกิจสมัยอยุธยา"
หน่วยการเรียนรู้: อาณาจักรอยุธยา หัวข้อที่ ๓: เศรษฐกิจสมัยอยุธยา
โครงสร้างเศรษฐกิจของอยุธยาตั้งอยู่บนพื้นฐาน 2 ประการหลัก:
เศรษฐกิจแบบยังชีพ (เกษตรกรรม):
เป้าหมาย: เพื่อการบริโภคภายในอาณาจักร
พืชหลัก: ข้าว (เป็นทั้งอาหารหลักและสินค้าส่งออก)
อาศัยความอุดมสมบูรณ์ของที่ราบลุ่มแม่น้ำ
เศรษฐกิจการค้า (พาณิชยกรรม):
เป้าหมาย: เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ราชสำนัก
อาศัยทำเลที่ตั้งที่ติดต่อกับทะเลได้สะดวก
เป็น "เมืองท่า" (Port City) ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ความสำคัญ: เป็นแหล่งอาหารหลักหล่อเลี้ยงประชากร และเป็นพื้นฐานของระบบไพร่ (ไพร่ต้องทำนา)
ระบบชลประทาน: แม้จะอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก แต่ก็มีการขุดคลองเพื่อการคมนาคมและการระบายน้ำ
การถือครองที่ดิน: ที่ดินทั้งหมดยังคงเป็นของพระมหากษัตริย์ (ตามแนวคิดศักดินา) ประชาชนมีสิทธิ์ทำกิน แต่ไม่มีกรรมสิทธิ์เด็ดขาด
ระบบส่วย (Tribute): หากไพร่ไม่ต้องการถูกเกณฑ์แรงงาน (เข้าเวร) สามารถส่งผลผลิตหรือสิ่งของอื่นมาทดแทนได้ เรียกว่า "ส่วย" (เช่น ดีบุก, งาช้าง, พริกไทย)
รูปแบบ: ส่วนใหญ่เป็นการแลกเปลี่ยนสินค้ากันเอง (Barter Trade) ระหว่างชุมชน
"ตลาดน้ำ": การค้าขายทางเรือตามลำคลองและแม่น้ำเป็นหลัก ถือเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลัก
"ตลาดบก": มีตลาดในชุมชน (เรียกว่า "ป่า") สำหรับสินค้าเฉพาะอย่าง เช่น ป่าผ้า ป่าเหล็ก
เงินตรา: เริ่มมีการใช้เงินตราในการแลกเปลี่ยน เช่น "เงินพดด้วง"
อยุธยาเป็น "คนกลาง" เชื่อมโยงการค้าระหว่างตะวันตกและตะวันออก
คู่ค้าสำคัญ:
เอเชีย: จีน, ญี่ปุ่น, อินเดีย, เปอร์เซีย (อิหร่าน), ชวา, มะละกา
ตะวันตก (ยุโรป): โปรตุเกส (ชาติแรก), ฮอลันดา (เนเธอร์แลนด์), อังกฤษ, ฝรั่งเศส
สินค้าส่งออกสำคัญ:
ของป่า: ไม้ฝาง (สำหรับย้อมสี), หนังกวาง, งาช้าง, นอแรด, พริกไทย
ทรัพยากร: ดีบุก
เกษตร: ข้าว
สินค้านำเข้า:
ผ้าแพร, ผ้าไหม, เครื่องถ้วยชาม (จากจีน)
ปืน, อาวุธยุทโธปกรณ์ (จากยุโรป)
ผ้าทอ (จากอินเดีย)
การค้าระหว่างประเทศไม่ได้เป็นไปอย่างเสรี แต่ถูกควบคุมโดยราชสำนักผ่านองค์กรที่เรียกว่า "พระคลังสินค้า" (ดูแลโดยกรมคลัง/โกษาธิบดี)
บทบาทของพระคลังสินค้า:
ผูกขาดสินค้า: กำหนด "สินค้าต้องห้าม" (เช่น อาวุธ, ไม้ฝาง, ดีบุก) ที่ราชสำนักเท่านั้นมีสิทธิ์ซื้อขาย
เก็บภาษี:
จังกอบ: ภาษีผ่านด่าน (ทั้งทางบกและทางน้ำ)
อากร: ภาษีจากการประกอบอาชีพ (เช่น อากรสุรา, อากรตลาด)
ฤชา: ค่าธรรมเนียมที่รัฐเรียกเก็บ
ดูแลการค้าสำเภา: จัดเรือสำเภาหลวงไปค้าขายยังต่างประเทศ (โดยเฉพาะกับจีน)
เศรษฐกิจอยุธยาอยู่ได้ด้วย เกษตรกรรม (ข้าว)
แต่ "ความมั่งคั่ง" มาจาก การค้าระหว่างประเทศ
ทำเลที่ตั้งที่ออกสู่ทะเลได้ง่าย คือ จุดแข็ง ที่สำคัญที่สุด
พระคลังสินค้า คือกลไกหลักของรัฐในการควบคุมและผูกขาดการค้าเพื่อสร้างรายได้ให้กับอาณาจักร
หัวข้อถัดไปคือ หัวข้อที่ ๔ "ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา" ต้องการให้ทำต่อเลยไหมครับ