สไลด์ที่ 1: หน้าปก
การก่อตั้งอาณาจักรอยุธยา:ร่องรอยแห่งความยิ่งใหญ่และมรดกทางวัฒนธรรม
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 2: อยุธยา: มหานครแห่งอดีต
• อาณาจักรอยุธยาเคยรุ่งเรืองถึงขีดสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
• อาณาจักรอยุธยาดำรงอยู่ยาวนานกว่า 4 ศตวรรษ หรือเป็นเวลา 417 ปี (พ.ศ. 1893 ถึง พ.ศ. 2310)
• อยุธยาเป็นศูนย์กลางอำนาจทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการค้านานาชาติ
• ปัจจุบัน ร่องรอยความยิ่งใหญ่ยังคงปรากฏผ่านซากปรักหักพังบริเวณเกาะกลางเมือง
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 3: ชัยภูมิที่ตั้ง: จุดบรรจบของสายน้ำ
• ที่ตั้งของกรุงศรีอยุธยาอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางเหนือราว 80 กิโลเมตร
• กรุงศรีอยุธยาตั้งอยู่บนเกาะกลางซึ่งถูกโอบล้อมด้วยแม่น้ำ 3 สาย:
1. แม่น้ำเจ้าพระยา
2. แม่น้ำป่าสัก
3. แม่น้ำลพบุรี
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 4: ความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์
• การตั้งกรุงศรีอยุธยาในบริเวณที่ราบลุ่มและมีแม่น้ำล้อมรอบ ทำให้มีสภาพอุดมสมบูรณ์
• แม่น้ำทั้งสามสายเป็นเสมือน “เส้นเลือดสายใหญ่” ที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนและเชื่อมโยงการค้าและวัฒนธรรมของคนต่างชาติ
• ชัยภูมิลักษณะเกาะเมืองที่ล้อมรอบด้วยน้ำ เป็นปราการธรรมชาติที่สำคัญในการป้องกันการรุกรานจากข้าศึก
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 5: อยุธยากับบทบาทเมืองท่า (The Trading Port)
• อยุธยาเป็นศูนย์กลางการค้าที่รุ่งเรืองที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
• เรือเดินทะเลจากต่างประเทศสามารถแล่นจากปากแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นมาจอดถึงบริเวณเกาะเมืองอยุธยาได้โดยสะดวก
• การตั้งถิ่นฐานในทำเลที่เหมาะสมนี้ทำให้กรุงศรีอยุธยาติดต่อกับหัวเมืองใกล้เคียงได้สะดวก
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 6: พื้นที่ก่อนการสถาปนา
• พื้นที่บริเวณนี้เคยรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีตในฐานะเมืองท่าการค้า
• อยุธยามีรากฐานมาจากการรวมกลุ่มเมืองบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างระหว่างพุทธศตวรรษที่ 16-18
• ในช่วงแรก เมืองแห่งนี้มีการรวมกลุ่มของแคว้นสำคัญในลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง คือ ลพบุรี (ฝั่งตะวันออก) และ สุพรรณภูมิ (ฝั่งตะวันตก)
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 7: เมืองอโยธยา (Ayothaya)
• ก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา เคยมีบ้านเมืองตั้งอยู่บริเวณนี้และถูกเรียกขานว่า “เมืองอโยธยา” หรือ อโยชยาปุระ
• สันนิษฐานว่า เมืองอโยธยาตั้งอยู่บริเวณ ด้านตะวันออกของเกาะเมืองอยุธยา
• เชื่อกันว่าเมืองอโยธยาเกิดขึ้นตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 17 ก่อนกรุงศรีอยุธยาถึง 200 ปี
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 8: หลักฐานสำคัญในยุคก่อนสถาปนา
• พระพุทธรรัตนายก หรือ หลวงพ่อโต วัดพนันเชิง เป็นหลักฐานสำคัญ
• พระพุทธรูปองค์นี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พุทธศักราช 1867
• ปีที่สร้างพระพุทธรรัตนายกนั้น อยู่ก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยาถึง 26 ปี
• ความยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูปองค์นี้สะท้อนถึงความมั่งคั่งและศรัทธาอันแรงกล้าของผู้คนในแถบนี้
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 9: ปฐมกษัตริย์ผู้สถาปนา
• สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงเป็นผู้สถาปนาอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา
• สันนิษฐานว่า พระเจ้าอู่ทองอาจเป็นเชื้อพระวงศ์จากแคว้นละโว้ (ลพบุรี)
• พระองค์นำกำลังพลเข้าสู่ที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและสถาปนาอาณาจักรขึ้น
• พระเจ้าอู่ทองทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมื่อ พ.ศ. 1893
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 10: การเตรียมการสร้างเมือง
• ก่อนการสถาปนาเมืองหลวงใหม่ (พ.ศ. 1893)
• ใน พ.ศ. 1890 พระเจ้าอู่ทองทรงมาตั้งทัพชั่วคราวอยู่ที่ เวียงเหล็ก (หรือเวียงเล็ก) ซึ่งปัจจุบันคือที่ตั้งของวัดพุทไธสวรรค์
• ต่อมา พระองค์จึงโปรดให้สร้างเมืองใหม่เป็นศูนย์กลาง
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 11: ราชวงศ์แรก: ราชวงศ์อู่ทอง
• ราชวงศ์แรกที่ปกครองกรุงศรีอยุธยาคือ ราชวงศ์อู่ทอง
• มีที่มาของพระนามจากสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ผู้ทรงสถาปนา
• ราชวงศ์อู่ทองปกครองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อมา 3 พระองค์
• ระยะเวลาการปกครองของราชวงศ์นี้คือ 59 ปี ก่อนจะสูญเสียอิทธิพลให้กับราชวงศ์สุพรรณภูมิ
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 12: พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (1)
• ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
• ทรงวางระเบียบการปกครองบ้านเมือง
• ทรงแบ่งการปกครองออกเป็น 4 ฝ่าย เรียกว่า จตุสดมภ์
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 13: พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (2)
• ทรงประกาศใช้กฎหมายปกครองบ้านเมือง
• ทรงขยายอำนาจไปยังอาณาจักรสุโขทัย ทำให้กรุงศรีอยุธยามีความเข้มแข็งขึ้น
• ทรงนำแบบแผนราชพิธีและธรรมเนียมจากเขมรมาปรับใช้ในราชสำนักอยุธยา
• ทรงสร้างวัดและพระราชวังหลายแห่ง เช่น วัดพุทไธศวรรย์
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 14: ปัจจัยส่งเสริมความรุ่งเรือง: ภูมิปัญญาในการจัดการน้ำ
• การที่กรุงศรีอยุธยาตั้งอยู่ในที่ลุ่มน้ำและมีน้ำล้อมรอบ ทำให้มีการใช้ ภูมิปัญญาด้านการบริหารจัดการน้ำ
• คลองที่ขุดขึ้นใหม่ในเมืองตัดกันเป็นรูปตาข่าย (คลองตาราง)
• คลองเหล่านี้ทำหน้าที่ระบายน้ำ (Flow) และเป็นเส้นทางคมนาคมติดต่อค้าขายที่สำคัญ
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 15: ปัจจัยส่งเสริมความรุ่งเรือง: พื้นฐานทางวัฒนธรรม
• กรุงศรีอยุธยาเกิดจากการผสมผสานกันของวัฒนธรรมโบราณในพื้นที่ (เช่น ลพบุรี/ละโว้-สุพรรณภูมิ)
• ได้รับวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาผสมผสาน เช่น เขมร มอญ อินเดีย จีน อาหรับ และตะวันตก
• ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของผู้คนจากทั่วทุกทิศทางทำให้เกิดการหล่อหลอมเป็นเอกลักษณ์ของอยุธยา
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 16: การปกครองส่วนกลาง: ระบบจตุสดมภ์ (Jatusadom)
การปกครองส่วนกลางแบ่งออกเป็น 4 ฝ่ายตามแบบอย่างที่ได้รับอิทธิพลจากเขมร: | ฝ่าย | ชื่อหน่วยงาน (สมัยต้น) | หน้าที่ความรับผิดชอบ | | :--- | :--- | :--- | | 1 | กรมเวียง (นครบาล) | ดูแลความสงบเรียบร้อยและคดีความในเมือง | | 2 | กรมวัง (ธรรมาธิกรณ์) | ดูแลกิจการในราชสำนัก, พิธีการต่างๆ | | 3 | กรมคลัง (โกษาธิบดี) | ดูแลผลประโยชน์ (รายรับ-รายจ่าย), ติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ | | 4 | กรมนา (เกษตรธิการ) | ดูแลเรื่องทำนาและการรักษาเสบียงอาหาร |
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 17: การปกครองหัวเมือง (อยุธยาตอนต้น): 4 ระดับ (1)
การปกครองหัวเมือง แบ่งออกเป็นเขตเมืองหลวง (ราชธานี) และหัวเมืองที่อยู่รอบนอก:
• เมืองลูกหลวง (Mueang Luk Luang): เมืองที่อยู่ใกล้เมืองหลวง พระโอรสปกครอง ทำหน้าที่เป็นเมืองป้อมปราการ เช่น ลพบุรี สุพรรณบุรี
• หัวเมืองชั้นใน (Mueang Chan Nai): เมืองที่อยู่ใกล้เมืองหลวงและตามเส้นทางคมนาคม เช่น ปราจีนบุรี ราชบุรี
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 18: การปกครองหัวเมือง (อยุธยาตอนต้น): 4 ระดับ (2)
• เมืองพระยามหานคร (Mueang Phraya Mahanakhon): เมืองที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง มีเจ้าเมืองปกครองสืบทอดจากเจ้าเมืองท้องถิ่น เช่น ไชยา สงขลา นครศรีธรรมราช (ในสมัยต้น)
• เมืองประเทศราช (Mueang Prathetsarat): เป็นเมืองต่างชาติที่อยู่ห่างไกล ได้รับการปกครองอิสระ แต่ต้องส่งเครื่องราชบรรณาการและแสดงความจงรักภักดีต่ออยุธยา เช่น สุโขทัย
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 19: พัฒนาการในช่วงแรกของอาณาจักร
• ในช่วงแรกหลังสถาปนา กรุงศรีอยุธยาต้องควบคุมกำจัดผู้คนให้เข็ดหลาบ
• อาณาจักรขยายอำนาจไปสู่หัวเมืองอื่น ๆ เช่น สุโขทัย
• กรุงศรีอยุธยามีความเข้มแข็งมากขึ้นและสามารถขยายอำนาจไปยังอาณาจักรเขมร
• ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อยุธยาพัฒนาเป็นกองทัพที่เข้มแข็ง
--------------------------------------------------------------------------------
สไลด์ที่ 20: มรดกและความต่อเนื่อง
• แม้กาลเวลาจะผันผ่าน อาณาจักรอยุธยาก็ได้ทิ้งร่องรอยอารยธรรมโบราณอันรุ่งเรืองไว้
• อยุธยาเป็นรากฐานสำคัญของความเจริญทางด้านศิลปวัฒนธรรม ที่สืบทอดมาสู่กรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์ (ประเทศไทยปัจจุบัน)
• ในปี พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991) อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยยูเนสโก