สไลด์หัวข้อที่ ๔ "ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา"
หน่วยการเรียนรู้: อาณาจักรอยุธยา หัวข้อที่ ๔: ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา
ภูมิปัญญาที่สำคัญที่สุดคือการวางรากฐานระบบกฎหมายเพื่อควบคุมสังคม
คัมภีร์พระธรรมศาสตร์ (ที่มา):
อยุธยารับหลักกฎหมายนี้มาจาก "มอญ" (ซึ่งรับมาจากอินเดียอีกทอด)
เป็นกฎหมายแม่บทที่ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์
พระอัยการ (กฎหมายลูก):
พระมหากษัตริย์ทรงตรากฎหมายย่อยๆ ขึ้นใช้โดยอิงหลักจากพระธรรมศาสตร์
เช่น กฎหมายลักษณะโจร, กฎหมายลักษณะผัวเมีย, กฎหมายลักษณะทาส
กฎหมายตราสามดวง:
แม้จะรวบรวมในสมัยรัตนโกสินทร์ (ร.๑) แต่ เนื้อหาส่วนใหญ่คือ "กฎหมายอยุธยา" ที่ถูกชำระสะสางใหม่
สะท้อนถึงการจัดระเบียบสังคม, การควบคุมไพร่, และหลักอาญาและแพ่งในสมัยอยุธยา
สถาปัตยกรรมอยุธยาสะท้อนการผสมผสานอิทธิพลต่างๆ (โดยเฉพาะขอมและสุโขทัย)
เจดีย์ทรงปรางค์ (อิทธิพลขอม):
นิยมสร้างในยุคต้น
มีลักษณะสูงตระหง่าน คล้ายปราสาทขอม แต่มีการปรับปรุงให้เพรียวบางกว่า
ตัวอย่าง: ปรางค์ประธาน วัดราชบูรณะ, ปรางค์ประธาน วัดมหาธาตุ
เจดีย์ทรงระฆัง (อิทธิพลสุโขทัย):
เริ่มนิยมในยุคกลาง (รับอิทธิพลจากสุโขทัย)
มีฐานสี่เหลี่ยมหรือแปดเหลี่ยม รองรับองค์ระฆัง
ตัวอย่าง: เจดีย์ประธาน วัดพระศรีสรรเพชญ์
วรรณกรรมสมัยอยุธยาส่วนใหญ่สร้างขึ้นเพื่อ รับใช้สถาบันกษัตริย์และศาสนา
ลิลิตโองการแช่งน้ำ:
ใช้ในพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา (พิธีสาบานตนแสดงความจงรักภักดี)
สะท้อนคติความเชื่อเรื่อง "เทวราชา" และการควบคุมกำลังคน
มหาชาติคำหลวง:
วรรณคดีทางพระพุทธศาสนาเรื่องแรกที่แต่งด้วย "คำหลวง" (สำหรับสวดในราชสำนัก)
เกิดขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
ลิลิตพระลอ:
ได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดแห่งวรรณคดีประเภท "ลิลิต"
สะท้อนเรื่องราวความรัก (แม้จะขัดต่อจารีต) และความงามของภาษา
ด้วยที่ตั้งที่เป็นเกาะเมืองล้อมรอบด้วยแม่น้ำ 3 สาย ชาวอยุธยาจึงเชี่ยวชาญการจัดการน้ำอย่างยิ่ง
การขุดคลอง (คมนาคมและป้องกัน):
มีการขุดคลองเชื่อมแม่น้ำสายต่างๆ ทั้งในและนอกเกาะเมือง
ทำให้เกิดเส้นทางลัดทางการค้า (เช่น "คลองบางกอก" ที่กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบัน)
ใช้เป็น "คูเมือง" ธรรมชาติและเส้นทางลำเลียงยุทโธปกรณ์
ป้อมปราการริมน้ำ:
สร้างป้อมปราการตามจุดยุทธศาสตร์ริมแม่น้ำเพื่อป้องกันข้าศึก
ตัวอย่าง: ป้อมเพชร (บริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำ)
ระบบชลประทาน:
ควบคุมน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภคในฤดูแล้ง
เครื่องเบญจรงค์ (Benjarong):
ภูมิปัญญาในการออกแบบ "ลวดลายไทย" (เช่น ลายเทพนม, ลายกนก)
แต่ใช้เทคโนโลยีการผลิตของ "จีน" (โดยราชสำนักอยุธยาสั่งทำจากจีน)
สะท้อนการผสมผสานทางวัฒนธรรมและการค้าระหว่างประเทศ
งานประดับมุก (Pearl Inlay):
ศิลปะการตกแต่งเครื่องใช้ไม้สอยและบานประตูพระอุโบสถ
แสดงถึงความประณีตและฝีมือของช่างหลวง
งานลงรักปิดทอง:
ใช้ตกแต่งพระพุทธรูป และงานสถาปัตยกรรมในวัดหลวง
ภูมิปัญญาอยุธยามีรากฐานมาจากการ ปรับใช้และผสมผสาน อิทธิพลจากภายนอก (ขอม, สุโขทัย, จีน, ตะวันตก) ให้เข้ากับบริบทของตน
ภูมิปัญญาส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นเพื่อ สนับสนุนความมั่นคงของอาณาจักร ทั้งในด้าน:
การปกครอง (กฎหมาย)
การทหาร (การจัดการน้ำ, ป้อมปราการ)
ศาสนาและบารมีกษัตริย์ (สถาปัตยกรรม, วรรณคดี)
หัวข้อสุดท้ายคือ หัวข้อที่ ๕ "บุคคลสำคัญสมัยอยุธยา" ต้องการให้ทำต่อเลยไหมครับ