ให้นักเรียนพิจารณาแผนภาพต่อไปนี้
นักเรียนลองอ่านและดูภาพประกอบไปด้วยนะครับ
จากแผนภาพจะได้ว่า ตัวประกอบร่วมของ 12 และ 18 ได้แก่ 1, 2, 3 และ 6 เรียก 6 ซึ่งเป็นตัวประกอบร่วมที่มากที่สุดของ 12 และ 18 ว่า ตัวหารร่วมมากของ 12 และ 18 เขียนย่อๆ ว่า ห.ร.ม.ของ 12 และ 18 คือ 6
สรุป
ตัวหารร่วมมากของจำนวนนับใด ๆ คือ จำนวนนับที่มากที่สุดที่นำไปหารจำนวนนั้นๆ ได้ลงตัว
วิธีการหาตัวหารร่วมมาก (ห.ร.ม.) สามารถหาได้หลายวิธี ดังนี้
1. วิธีหาตัวประกอบ
2. วิธีแยกตัวประกอบ
3. วิธีตั้งหารสั้น และ
4. วิธีหารสองแถว(ยูคลิด)
1. การหาห.ร.ม.โดยวิธีหาตัวประกอบ
มีขั้นตอนการหา ห.ร.ม. ดังนี้
1) หาตัวประกอบของจำนวนนับที่กำหนดให้
2) หาตัวประกอบร่วม (ตัวหารร่วม) ของจำนวนนับในข้อ 1
3) นำตัวหารร่วมที่มีค่ามากที่สุดในข้อ 2 เป็น ห.ร.ม.
ตัวอย่าง จงหา ห.ร.ม.ของ 12 , 18
วิธีทำ
ตัวประกอบของ 12 คือ 1 , 2 , 3 , 4 ,6 , 12
ตัวประกอบของ 18 คือ 1 , 2 , 3 , 6 , 9 ,18
ตัวประกอบร่วมของ 12 และ 18 คือ 1 , 2 , 3 , 6
ดังนั้น ห.ร.ม. ของ 12 และ 18 คือ 6 ตอบ
2. การหาห.ร.ม.โดยวิธีแยกตัวประกอบ
มีขั้นตอนการหา ห.ร.ม. ดังนี้
1) แยกตัวประกอบของจำนวนนับที่กำหนดให้
2) พิจารณาผลในข้อ 1 ว่ามีจำนวนใดซ้ำกันทุกบรรทัดบ้าง
3) นำจำนวนที่ซ้ำกันในข้อ 1 คูณกัน (สีเดง)
4) ผลคูณที่ได้จากข้อ 3 เป็น ห.ร.ม.
ตัวอย่างที่ 1 จงหาห.ร.ม.ของ 72 และ 84
วิธีทำ
ตัวอย่างที่ 2 จงหาห.ร.ม.ของ 36, 90 และ 144
วิธีทำ
3. การหาห.ร.ม.โดยวิธีตั้งหารสั้น
มีขั้นตอน การหา ห.ร.ม. ดังนี้
1) หารจำนวนนับที่กำหนดให้ด้วยตัวประกอบเฉพาะของมัน
2) หารผลหารที่ได้จากข้อ 1 ด้วยตัวประกอบเฉพาะ
3) ในกรณีที่ไม่มีตัวประกอบเฉพาะใดหารผลหารได้ลงตัวทั้งหมด จะหยุดทำการหารทันที
4) นำตัวหารทั้งหมดคูณกัน ผลคูณที่ได้คือ ห.ร.ม.
ตัวอย่างที่ 1 จงหาห.ร.ม.ของ 72 และ 84
วิธีทำ
2) 72, 84
2) 36, 42
3) 18, 21
6, 7 (ไม่มีตัวหารร่วมอีกแล้วให้หยุดการหาร)
ดังนั้น ห.ร.ม. ของ 72 และ 84 คือ 2 x 2 x 3 = 12 ตอบ.
ตัวอย่างที่ 2 จงหาห.ร.ม.ของ 36, 90 และ 144
วิธีทำ
2) 36, 90, 144
3) 18, 45, 72
3) 6, 15, 24
2, 5, 8 (ไม่มีตัวหารร่วมอีกแล้วให้หยุดการหาร)
ดังนั้น ห.ร.ม. ของ 36, 90 และ 144 คือ 2 x 3 x 3 = 18 ตอบ.
4. การหาห.ร.ม.โดยวิธียุคลิด(Euclidean Algorithm) หรือตั้งหารสองแถว
ยุคลิดแห่งอะเล็กซานเดรีย (Euclid of Alexandria) เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวกรีก ซึ่งมีชีวิต อยู่ประมาณ 450 – 380 ปีก่อนคริสต์ศักราช เป็นผู้ค้นพบวิธีการหา ห.ร.ม. ของจำนวนนับสองจำนวนที่มีค่ามาก ๆ ได้ อย่างรวดเร็ว ซึ่งเรียกว่า ขั้นตอนวิธีแบบยุคลิด (Euclidean Algorithm)
การหา ห.ร.ม.โดยวิธีหารสองแถว เหมาะสำหรับจำนวนที่มีค่ามาก และถ้ามีจำนวนเกิน 2 จำนวน ก็ ให้นำจำนวนน้อยมาจับคู่ก่อนแล้ว นำ ห.ร.ม.ที่ได้ไปจับคู่กับจำนวนต่อไป (เอาจำนวนน้อยหารจำนวนมากเสมอ)
การหาห.ร.ม.โดยวิธียุคลิดมีขั้นตอน ดังนี้
1) นำจำนวนนับที่มีค่าน้อยไปหารจำนวนนับที่มีค่ามาก
2) จากข้อ 1 ถ้ามีเศษ ให้นำเศษไปหาจำนวนนับที่เป็นตัวหารในข้อ 1
3) ปฎิบัติเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพบว่าจำนวนนับใดที่เหลือจากการหารแล้วหารลงตัว จำนวนนั้นคือ ห.ร.ม.
ตัวอย่างที่ 1 จงหาห.ร.ม.ของ 1,450 และ 1,800
วิธีทำ
ดังนั้น ห.ร.ม. ของ 1,450 และ 1,800 คือ 50 ตอบ.
ตัวอย่างที่ 2 จงหาห.ร.ม.ของ 2,565 และ 3,591
วิธีทำ
1. นำ 2,565 หาร 3,591 ได้ 1 เศษ 1,026
2. นำ 1,026 หาร 2,565 ได้ 2 เศษ 513
3. นำ 513 หาร 1,026 ได้ 2 เศษ 0