ปัจจุบันกฎหมายคุ้มครองแรงงานไม่คุ้มครองคนทำงานทุกกลุ่ม ทุกรูปแบบการจ้างงาน ส่งผลให้คนงานจำนวนมากที่อยู่นอกระบบการจ้างงานตามสัญญาจ้างงานรูปแบบดั้งเดิม เช่น คนงานแพลตฟอร์ม คนงานหาบเร่แผงลอย คนงานตามสัญญาจ้างเหมาบริการ คนทำงานภาครัฐ หรือจ้างทำของ ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานหรือการประกอบอาชีพได้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการทำงานต่อคนทำงานทุกกลุ่ม สมควรที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานจะถูกปรับแก้นิยามของคำว่า ลูกจ้าง และ นายจ้าง ให้สอดคล้องกับโลกการจ้างงานที่เปลี่ยนไปและพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่จะตามมาในอนาคต
กฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับปัจจุบัน ถูกร่างขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2541 การนิยามการเป็น นายจ้าง และ ลูกจ้าง ถูกผูกติดกับรูปแบบการจ้างงานในยุคสมัยนั้น จึงไม่ครอบคลุมและไม่สามารถใช้คุ้มครองสิทธิในการทำงานของคนงานในปัจจุบันที่เปลี่ยนรูปแบบสัญญาจ้าง รูปแบบการจ้างงานไปแล้ว เช่น การจ้างเหมาบริการ การจ้างผ่านแพลตฟอร์ม และเพื่อให้สามารถสอดรับกับรูปแบบการจ้างงานที่จะเปลี่ยนไปในอนาคตข้างหน้าจำเป็นต้องแก้ไข นิยาม ของการเป็น ลูกจ้าง และนายจ้าง
ดังนั้นจึงเสนอให้นิยามคำว่า “นายจ้าง” “ลูกจ้าง” ให้ครอบคลุมทุกรูปแบบการจ้างงาน จะส่งผลให้ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน สามารถคุ้มครองคนงานได้ทุกประเภทในปัจจุบัน และไม่ว่าในอนาคตรูปแบบการจ้างงานจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็จะคงครอบคลุมเช่นกันภายใต้นิยามที่แก้ไขนี้
คนทำงานทุกกลุ่มโดยเฉพาะคนทำงานนอกระบบโรงงานอุตสาหกรรม หรือบริษัททั่วไป เช่น คนงานแพลตฟอร์ม, ฟรีแลนซ์ตามสัญญาจ้างงานรูปแบบต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย
ให้ยกเลิกความในบทนิยามคำว่า “นายจ้าง” “ลูกจ้าง” ในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“นายจ้าง” หมายความว่า นายจ้างตามสัญญาจ้างแรงงานหรือตามกฎหมายเกี่ยวด้วยแรงงาน หรือตามสัญญาจ้างทำของหรือสัญญาอื่นใด ที่บุคคลหนึ่งให้บุคคลอีกคนหนึ่งทำงานให้เพื่อรับค่าตอบแทน และให้หมายความรวมถึง
1. ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำงานแทนนายจ้าง
2. ในกรณีที่นายจ้างเป็นนิติบุคคล ให้หมายความรวมถึงผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลและผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลให้ทำการแทนด้วย
3. ผู้ประกอบกิจการหรือภาครัฐ ที่มอบหมายให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด เป็นผู้จัดหาคนมาทำงาน อันมิใช่การประกอบธุรกิจจัดหางาน โดยการทำงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในกระบวนการผลิต หรือธุรกิจในความรับผิดชอบของผู้ประกอบกิจการ และโดยบุคคลนั้นจะเป็นผู้ควบคุมดูแลการทำงานหรือรับผิดชอบในการจ่ายค่าจ้างหรือค่าตอบแทนให้แก่คนที่มาทำงานนั้นหรือไม่ก็ตาม