Toxic Relationship คือ ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ คือการทำเป็ฯความสัมพันธ์ที่ตัวเราเองไม่มีความสุขกับมันเลย โดนทำร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจ เป็นความสัมพันธ์ที่เราต้องกังวลกับทุก ๆ ย่างมากเกินไป และสุดท้ายแล้ว ฝ่ายที่ถูกกระทำจะลดทอนคุณค่าของตัวเองจนมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเองอีกต่อไป
ตัวคุณเอง กำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นพิษแบบนี้หรือไม่ ? มาสังเกตตัวเองกันเถอะ เพื่อที่เราจะได้เข้าใจสถานการณ์และหาทางออกจากความสัมพันธ์นี้ได้ทันท่วงที
"รู้หรือไม่ว่า Toxic Relationship นี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่คู่รักเพียงอย่างเดียว แต่เกิดขึ้นได้กับความสัมพันธ์ทั้งหมด
รวมไปถึงความสัมพันธ์ในที่ทำงาน"
Toxic Relationship ในครอบครัว ความต่างวัยกับคนภายในบ้าน ทำให้ความสัมพันธ์เป็นพิษได้อย่างไร ?
หากเป็นพฤติกรรมท็อกซิกในคู่รักหรือเพื่อน เราก็แค่เดินออกมาจากความสัมพันธ์นั้น แต่ในเมื่อเป็นสมาชิกในครอบครัวแล้ว เราคงตัดใจเดินออกมาได้ยาก หลายคนที่พบเจอกับความสัมพันธ์แบบนี้จึงเลือกที่จะต้องอดทน และจัดการตัวเองเสียมากกว่า
พฤติกรรมของคนในบ้าน ที่ทำให้เกิด Toxic Relationship ในครอบครัว
ไม่ฟังใคร ฉันใหญ่ที่สุด มีคนที่มองว่าตัวเองคือศูนย์กลางของบ้านหลังนี้ เอาตัวเองเป็นหลักและไม่สนใจว่าการกระทำของตัวเองจะส่งผลต่อคนอื่นอย่างไร
ควบคุมทุกอย่าง ควบคุมคนอื่นในบ้านว่าต้องทำอะไร เมื่อไหร่ อย่างไร ควบคุมตลอดเวลา หาเหตุผลต่าง ๆ มาเพื่อใช้อำนาจปกครองให้คนอื่นเดินทางเส้นทางที่ตัวเองต้องการ
ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล คาดเดาไม่ได้ว่ากำลังรู้สึกหรือคิดอะไรอยู่ ทำให้คนอื่นไม่สบายใจที่จะเข้าไปคุยด้วย หรือไปโมโหจากที่อื่นแล้วมาลงใส่คนที่บ้าน ตั้งแต่ใช้คำพูดทำร้ายจิตใจไปจนถึงการใช้กำลัง
ทำดีแค่ไหนก็ไม่พอใจ หาข้อบกพร่องและทำให้คนอื่นต้องปรับปรุงตัวอยู่เสมอ บางครั้งก็ใช้การเปรียบเทียบ โดยที่ไม่สนใจเลยว่าคนอื่นทำเต็มที่แค่ไหน
ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว เส้นบาง ๆ ระหว่างคำว่าเป็นห่วงกับก้าวก่าย ก้าวก่ายคือการวุ่นวานกับชีวิตส่วนตัว ล้ำเส้นเข้ามาแบบไม่สมเหตุสมผล คอยจ้องจับผิดตลอดเวลา
รู้สึกไม่สบายใจเมื่อต้องใช้เวลาร่วมกัน มีพฤติกรรมบางอย่างที่ทำให้คนในบ้านไม่สบายใจ หรือเคยมีความทรงจำที่ไม่ดีกับครอบครัว
Toxic Relationship ในเพื่อน หรือที่เรียกว่า Toxic Friendship ทั้ง ๆ ที่เพื่อนคือคนที่จะเติมเต็มความรู้สึกเราไม่ว่าจะมีความสุขหรือกำลังเศร้า เพื่อนจะอยู่กับเราเสมอ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันจนกลายเป็นความผูกพัน แต่ในบางครั้ง เพื่อนกลับทำให้เรารู้สึกตรงกันข้าม ควรที่จะมีความสุขแต่กลับไม่มี
มาเช็คเพื่อนของคุณกันเถอะ ว่ามีพฤติกรรมแบบนี้หรือไม่
เพื่อนร่วมสุข แต่ไม่เคยร่วมทุกข์ อยู่ด้วยกันเมื่อตอนมีปาร์ตี้ แต่เมื่อมีปัญหากลับติดต่อไม่ได้ ถ้าเป็นเพื่อนทั่วไปก็คงไม่เป็นไร แต่หากเป็นเพื่อนสนิทเราคงรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง
ล้ำเส้นและเรียกร้องเกินเหตุ ล้ำเส้นเข้ามาในชีวิตส่วนตัวของเรามากเกินไป เช่น อ่านแชทของเราโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต หยิบใช้ของใช้ส่วนตัว หรือเรียกร้องให้เราทำบางอย่างให้เสมอ จนเรารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง
เอาเราไปนินทาลับหลัง สิ่งทีสร้างความ Toxic ในความสัมพันธ์เพื่อนมากที่สุดก็คือการเสแสร้ง ต่อหน้าทำเป็นเพื่อนที่แสนดี แต่ลับหลังเอาเรื่องของเราไปนินทาเสีย ๆ หาย ๆ และเราจะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าและทำผิด ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย
พูดขอโทษแบบส่ง ๆ ไม่ตระหนักถึงความผิดของตัวเอง โยนความผิดไปให้คนอื่น เมื่อหนีความผิดไม่ได้ก็ขอโทษแบบขอไปที คนแบบนี้อาจทำให้เราต้องเป็นแพะรับความผิด เพราะเขาจะรักตัวเองมากกว่าใคร
เป็นผู้รับมากกว่าผู้ให้ ชอบที่จะเป็นผู้รับ ให้เราเป็นคนที่แบ่งปันอยู่ตลอด แต่ตัวเองแทบจะไม่แบ่งอะไรให้ใคร เราจะรู้สึกว่าทุ่มเทอยู่ฝ่าย
Toxic Relationship ในคู่รัก เป็นเรื่องปกติที่ความสัมพันธ์ในช่วงแรกจะเต็มไปด้วยความหอมหวาน มีชื่อเรียกกันในภาษาชาวบ้านคือช่วงโปรโมชั่น มองอะไรก็เป็นสีชมพู ทำอะไรก็เข้ากันเสียทุกอย่าง แต่ทำไมพอนานวันเข้า ความสัมพันธ์เริ่มสั่นคลอน ส่อแววว่ากำลังจะเป็นพิษ
สัญญาณบอกว่าเรากำลังอยู่ในความรักที่ Toxic ซะแล้ว
มีฝ่ายที่ได้เปรียบเสียเปรียบ มีฝ่ายหนึ่งที่ถูกเอาเปรียบตลอดเวลา ต้องถูกควบคุมหรือเป็นฝ่ายผิดอยู่เสมอ
ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู็สึกไม่ปลอดภัย คนรักหึงหวงมากจนเกินไปจนอีกฝ่ายไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเองเพราะกลัวจะต้องกลับมาทะเลาะกัน หรือมีความรู้สึกว่าอยู่ใกล้คนรักแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัย
ความสัมพันธ์ที่เหนื่อยหน่าย การได้เจอกันได้คุยกัน ควรจะมีความสุขแต่กลับไม่มี มีแต่ความเหนื่อยใจ ไม่สบายใจ อาจถึงขั้นหมดกำลังใจที่จะคงความสัมพันธ์ไว้
ทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ สร้างความเดือดร้อนให้อีกฝ่าย ทำให้ชีวิตของตัวเองและอีกฝ่ายลำบากไปด้วยทั้งที่ไม่จำเป็น ไม่ว่าจะลำบากทางการใช้ชีวิตหรือลำบากทางจิตใจ
ละเลย ไม่ใส่ใจ ไม่ให้ความสัมพันธ์กับอีกฝ่าย ทำตัวเหมือนอยู่คนเดียว ไม่ชอบให้คนรักเข้ามาวุ่นวายในชีวิตสักอย่างแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย
ทำให้อีกฝ่ายอึดอัดใจ ใกล้ชิดมากเกินไป ล้ำเส้นขอบเขตความเป็นส่วนตัว ไม่มีพื้นที่ส่วนตัวเลย
ทางแก้ไขความสัมพันธ์
เปิดใจคุยกัน อย่าเก็บความรู้สึกนี้ไว้คนเดียว ทำความเข้าใจเขาและพฤติกรรมของเขา เริ่มต้นอธิบายความรู้สึกของเราให้เขาฟังอย่างระมัดระวัง แต่ถ้าหากคุยกันแล้วไม่ดีขึ้น หรือเขายังทำให้เราไม่สบายใจอยู่บ้าง อาจจะลองรักษาระยะห่าง เว้นระยะห่างออกมา สร้างพื้นที่ที่เป็นเซฟโซนของเราขึ้นมา คุยกับเขาแค่ในเรื่องที่เราพิจารณาแล้วว่าสามารถคุยกันได้โดยที่เราไม่รู้สึกแย่ หลีกเลี่ยงและปฏิเสธที่จะให้เขาแสดงพฤติกรรมที่เป็นพิษออกมา แสดงให้เห็นว่าเราก็มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเลือกว่าอยากเจอกับอะไร
และสิ่งสำคัญเลยคืออยู่กับคนที่สบายใจ หากอยู่กับใครแล้วทำให้สุขภาพจิตย่ำแย่ลง ก็อย่าไปทน ใช้เวลาของเราอยู่กับคนที่ทำให้เรามีความสุขมากกว่าดีกว่า หาคุณค่าขอตัวเองให้เจอ ตัวเรานั้นมีค่ามากกว่าจะจมอยู่กับความสัมพันธ์แย่ ๆ แบบนี้
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในความสัมพันธ์แบบไหน ถ้าอีกฝ่ายทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ เราควรจะออกมาจากความสัมพันธ์นั้นโดยเร็ว ยิ่งอยู่นานก็มีแต่เราเท่านั้นที่ต้องเสียใจ ตามหาคนที่ทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งในแง่ของความรู้สึกและชีวิตประจำวัน เพื่อให้ตัวเราเองได้พบเจอกับความสุขจริง ๆ เสียที
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : mangozero , missiontothemoon , thematter , pptvhd36