อู๋ เล่ยยังไม่ท้อแม้เอสปันญ่อล

นาที 21 อองตวน กรีซมันน์ เลี้ยงบอลฝ่าแนวรับทีมเยือนก่อนจะโดนหยุดฟาวล์ได้ฟรีคิกกว่า 25 หลา และเป็น ลิโอเนล เมสซี่ ที่ปั่นด้วยซ้ายข้ามกำแพงเลียดคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

อีก 4 นาทีต่อมา กรีซมันน์ ไหลบอลอกซ้ายให้ หลุยส์ ซัวเรซ หลุดเข้าไปทางซ้ายก่อนจะอัดด้วยซ้ายบอลไปแฉลบ เฟร์นานโด กาเบรร่า ออกหลังแบบน่าเสียดายท้ายครึ่งแรก นาที 44 ทีมเยิอนพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเจ็บใจ หลัง ดาวิด โลเปซ ไหลบอลต่อให้ ดิดัค วิล่า

ซัดด้วยขวาบอลพุ่งไปชนเสาชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดายจบครึ่งแรก บาร์เซโลน่า ยังทำอะไรไม่ได้เสมอกับ เอสปันญ่อล 0-0ครึ่งหลัง เจ้าบ้านถอดเอา เนลสัน เซเมโด้ ออกแล้วส่ง อันซู ฟาติ ลงเล่นแทน และเพียงแค่ 4 นาทีที่อยู่ในสนาม เจ้าตัวต้องโดนแจกใบแดงไล่ออก หลังกระโดดเปิดปุ๊มไปยันใส่ เฟร์นันโด คาเรโล ผู้ตัดสินที่ตอนแรกแจกใบเหลือง หลังจากดูภาพจากจอมอนิเตอร์ข้างสนามแล้วกลับคำตัดสินชูใบแดงให้ ฟาติ ออกจากสนามไป เกมเดือดอย่างต่อเนื่อง นาที 52 เคราร์ด ปีเก้ โดน พอล โลซาโน ห้องเครื่องไอ้นกแก้วพุ่งมาเหยียบหน้าแข้ง แม้ตอนแรก โฆเซ่ หลุยส์ มูนีร่า จะแจกเหลืองไปแล้ว แต่พอได้รับสัญญาณจาก วีเออาร์ และได้วิ่งไปดูเหมือนกรณี อันซู ฟาติ ก่อนจะกลับมาในสนามแล้วเปลี่ยนเป็นแจก ใบแดง แทนทำให้ทั้งสองทีมเหลือ 10 คนเท่ากันนาที 56 และเป็น บาร์เซโลน่า ที่มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ บอลจากยอร์ดี้ อัลบา แทงไปให้ อองตวน กรีซมันน์ จะถึงเส้นหลังแล้วแต่ตอกสั้นมาให้ เมสซี่ ยิงไปติดบล็อค บอลเลยมาเข้าทาง หลุยส์ ซัวเรซ ยิงด้วยขวาเข้าไป เป็นประตูที่ 15 ในลีก

นาที 68 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกที คราวนี้ เซร์จี้ โรเบร์โต้ จ่ายบอลให้ ลิโอเนล เมสซี่ ซัดด้วยซ้ายมุมแคบก่อนบอลจะไปโดน บิคตอร์ โกเมซ ออกหลังไปนาที 77 ไอ้นกแก้วได้ลุ้นกดดันต่อจากลูกเตะมุมเปิดมาเสาไกลให้ ราอูล เด โทมัส ขึ้นโขกย้อนไปเสาแรก แต่จังหวะสุดท้ายโดน ปิเก้ เคลียร์ออกไปหวุดหวิด