เกมที่วิลล่า พาร์ค ต้องยอมรับว่าในช่วงต้นเกม ลิเวอร์พูล วัยละอ่อน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และกล้าเล่น โดยเปิดเกมบุกเข้าใส่เต็มสูบ วิ่งกันไม่กลัวหมดแรง และมีโอกาสยิงประตู แต่ขาดความเฉียบคม จนกระทั่งมาเสียประตูแรก และประตูที่สองในเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้รูปเกมเปลี่ยนไปหมด และโดน "สิงห์ผงาด" จัดการควบคุมเกมจนอยู่หมัด
อย่างไรก็ตาม ผลงานของนักเตะเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณที่น่าพอใจสำหรับ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพราะเขาได้เห็นแล้วว่ามีผู้เล่นคนไหนที่สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในขุมกำลังชุดใหญ่ในอนาคต และหากพวกเขายังคงพัฒนาตัวเองต่อไปย่อมมีโอกาสแจ้งเกิดแน่นอน
1. ทีมใหญ่ยังคงเมิน คาราบาว คัพ
สโมสรในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังคงมองการแข่งขันคาราบาว คัพ เป็นรายการที่ให้โอกาสนักเตะสำรอง หรือผู้เล่นดาวรุ่ง โดยเกมนี้ทั้ง แอสตัน วิลล่า และ ลิเวอร์พูล ตัดสินใจไม่ใส่ชื่อนักเตะทีมชุดใหญ่ลงสนาม เพราะต้องการพักผู้เล่นหลักเอาไว้ลงแข่งเกมลีกช่วงโปรแกรมหฤโหด
ในกรณีของ "หงส์แดง" พอจะเข้าใจได้กับการที่พวกเขาใช้นักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี พร้อมกับให้ นีล คริตช์ลี่ย์ โค้ชทีมเยาวชนทำหน้าที่กุมบังเหียนในแมตช์เยือนถิ่นวิลล่า พาร์ค เพราะบรรดานักเตะชุดใหญ่จำเป็นต้องเดินทางไปร่วมโม่เกือกศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่ประเทศกาตาร์
ที่สำคัญ "เดอะ เร้ดส์" ชุดนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์เพราะเป็นทีมเด็กมีอายุเฉลี่ย 19 ปี กับ 182 วัน เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นชุดวัยละอ่อนที่ลงสนามในนามลิเวอร์พูลที่อายุน้อยที่สุดในรอบ 127 ปี และด้วยประสบการณ์ที่น้อยนิดทำให้ทีมชุดนี้ต้องแพ้ยับไม่นับญาติต่อ "สิงห์ผงาด"
ขณะเดียวกัน ดีน สมิธ ผู้จัดการทีมแอสตัน วิลล่า ก็แสดงให้เห็นว่าเขาเลือกที่จะพักผู้เล่นชุดใหญ่โดยทำการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น 10 รายจากแมตช์ที่แพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามแม้ วิลล่า จะใช้ผู้เล่นสำรองแต่พวกเขายังมีประสบการณ์เหนือกว่าแข้งวัยกระเต๊าะ "หงส์แดง" และคว้าตั๋วรอบรองชนะเลิศ ถ้วยใบเล็กเมืองผู้ดี ได้สำเร็จ
2. สาวกวิลล่า เฉยๆ กับชัยชนะ
สำหรับเกมนี้บรรดานักเตะดาวรุ่งของ ลิเวอร์พูล โชว์ความกระตือรือร้น และมีโอกาสที่จะได้ประตูขึ้นนำในช่วง 10 นาทีแรก แต่หลังจากที่ วิลล่า ตั้งเกมได้เจ้าบ้านก็ครองเกมเรียบวุธ สุดท้ายแฟนบอลทั่วโลกคงได้เห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในแมตช์นี้
แน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติที่สาวกทัพ "สิงห์ผงาด" คงจะเฉลิมฉลองกับชัยชนะแบบถล่มทลายเหนือ ลิเวอร์พูล 5-0 เพราะผลการแข่งขันแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เพราะหากย้อนกลับไปเช็คสถิติ วิลล่า เคยไล่ถลุง "หงส์แดง" จนปีกหักสกอร์ 6-1 แต่เกิดขึ้นเมื่อปี 1932 ซึ่งถือว่านานมาจนแทบจะลืมกันไปแล้ว
อย่างไรก็ตามหากมองดูแฟนบอลเจ้าบ้านจะเห็นได้ว่าแทบไม่ได้ตื่นเต้นกับผลงานของทีมในเกมนี้เลยหลังจากที่ทีมได้ 2 ประตูแรก แม้ว่าชัยชนะแมตช์นี้จะทำให้ วิลล่า ได้ตีตั๋วเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือกทีมแรก แต่ก็ไม่ได้ทำให้สาวก "สิงห์ผงาด" เฮฮาปาร์ตี้มากนัก เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าทีมของพวกเขาถลุงทีมเด็กวัยละอ่อน
ในส่วนของบรรยากาศในวิลล่า พาร์ค ค่อนข้างจะดูเงียบเหงา แม้ว่าตลอดทั้งเกมเจ้าบ้านจะควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด สวนทางกับสาวก "เดอะ ค็อป" ที่ส่งเสียงเชียร์ และร้องเพลงปลุกใจแข้ง "เดอะ เร้ดส์" วัยเยาว์ดังสนั่นวิลล่า พาร์ค
3. เอลเลียตต์ โดดเด่นเกินวัย
ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เขาทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ที่ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ด้วยวัย 16 ปี กับ 30 วันสมัยที่ค้าแข้งกับ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม และล่าสุดก็เป็นแข้งอายุน้อยสุดที่ลงสนามให้ ลิเวอร์พูล ด้วย
หลังจากที่ย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ "เดอะ เร้ดส์" เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา เขาก็ได้รับโอกาสลงเล่นให้ต้นสังกัดในรายการนี้แมตช์ชนะ เอ็มเค ดอนส์ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และล่าสุดได้รับโอกาสลงตัวจริงในแมตช์เยือน วิลล่า พาร์ค ซึ่งเจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น
ทีมชุดดังกล่าวมีอายุเฉลี่ย 19 ปี กับ 182 วัน เท่านั้น โดย เอลเลียตต์ อายุน้อยสุด แต่อายุไม่ใช่อุปสรรคสำหรับไอ้หนูผมจุก เมื่อเจ้าตัวทำผลงานได้น่าตื่นตาตื่นใจ สามารถป่วนเกมรับ วิลล่า ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงต้นเกม และมีโอกาส 2 ครั้งที่จะยิงประตูให้ต้นสังกัดด้วย
แมตช์นี้ เอลเลียตต์ ทำหน้าที่เป็นผู้เล่นเกมรุกฝั่งขวา โดยเฉพาะจังหวะที่เขามีโอกาสลากตัดเข้ากลางก่อนตะบันด้วยเท้าซ้ายแต่ ออร์ยาน นีลันด์ ป้องกันได้อย่างสุดยอด ตอนนี้สาวก "เดอะ ค็อป" มองเห็นว่านักเตะรายนี้เต็มไปด้วยพรสวรรค์ และมีอนาคตสดใสภายใต้ชุด "เดอะ เร้ดส์"
4. ลิเวอร์พูลจบสถิติไร้พ่ายในอังกฤษ
หากไม่นับแมตช์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ซึ่ง ลิเวอร์พูล มองว่าไม่ใช่โทรฟี่ที่พวกเขาอยากได้มาประดับตู้โชว์ในสโมสรมากนัก "เดอะ เร้ดส์" ผ่านการลงเล่น 36 แมตช์ทั้งในพรีเมียร์ลีก (รวมซีซั่นที่แล้ว) และ คาราบาว คัพ โดยสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นจนกระทั่งในรอบก่อนรองชนะเลิศกับ แอสตัน วิลล่า
สถิติไร้พ่ายต้องสิ้นสุดลง แต่แฟนบอลลิเวอร์พูล เข้าใจได้ เนื่องจากทีมชุดนี้จำเป็นต้องทำหน้าที่แทนทีมชุดใหญ่ที่มีภารกิจสำคัญที่ประเทศกาตาร์ และหากมองในแง่บวกการได้เห็นนักเตะวัยกระเต๊าะลงเล่นในเกมระดับนี้ถือว่าทำให้พวกเขาได้สะสมประสบการณ์
แน่นอนว่านี่คือประสบการณ์ที่ล้ำค่าสำหรับบรรดาผู้เล่นวัยเยาว์ เพราะจะทำให้พวกเขาพัฒนาฝีเท้าเพื่อโอกาสในการที่จะขึ้นมาสอดแทรกทีมชุดใหญ่ โดยในเกมที่วิลล่า พาร์ค มีนักเตะหลายคนของ "หงส์แดง" แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ที่น่าจับตามองมากๆ
งานนี้หาก เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน มีโอกาสได้ชมเกมนี้ผ่านการถ่ายทอดสดทางหน้าจอทีวี (หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์) คงพอใจที่ได้เห็นความกล้าของผู้เล่นดาวรุ่งเหล่านี้ และหากพวกเขาพร้อมสู้ต่อไปโอกาสที่จะได้แจ้งเกิดก็มีแน่นอน เฉกเช่น เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำให้เห็นมาแล้ว
5. พลังใจจาก คล็อปป์
แม้ว่า คล็อปป์ จะอยู่ตะวันออกกลางก็ตาม แต่เขาก็ไม่ยอมพลาดที่จะให้กำลังใจบรรดานักเตะสายเลือดใหม่ให้สู้เพื่อตราสโมสรอันทรงเกียรติที่ติดอยู่บนเสื้อแข่งของพวกเขา โดยเรื่องนี้ นีล คริทช์ลี่ย์ นายใหญ่ "หงส์แดง" รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีที่ได้รับหน้าที่กุมบังเหียนเกมนี้ เปิดเผยว่า คล็อปป์ ได้ส่งข้อความมาให้กำลังใจนักเตะในช่วงพักครึ่ง
"เราไม่อยากให้มันจบในคืนนี้ ผมสามารถพูดกับบรรดานักเตะเหล่านี้ได้ตลอดทั้งคืน ผมภูมิใจมากๆกับการเล่นของนักเตะเหล่านี้ เราเป็นส่วนหนึ่งร่วมกับพวกเขา ผมโชคดีที่ได้ร่วมแบ่งปันบางสิ่งในค่ำคืนที่แสนวิเศษ กำลังใจที่เราได้รับแสดงให้เห็นว่าสโมสรแห่งนี้มีความพิเศษมากขนาดไหน"
"เราได้รับข้อความจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ในช่วงพักครึ่งให้มีความกล้า และเล่นตามแนวทางที่เราเล่นต่อไป" คริทช์ลี่ย์ กล่าวอย่างภูมิใจ